พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,780 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1042/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องคดีละเมิดของผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำละเมิด แม้ไม่ใช่เจ้าของทรัพย์สินที่เสียหาย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยยกคันนากั้นน้ำในลำห้วยสาธารณะเป็นเหตุให้น้ำท่วมต้นข้าวโจทก์เสียหาย ขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายและทำลายคันนา
ดังนี้ฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องให้จำเลยรับผิดเพื่อการละเมิดตาม ป.พ.พ.ม. 420 แม่น้ำที่โจทก์ปลูกข้าวจะไม่ใช่ของโจทก์ก็ดี โจทก์ย่อมเป็นผู้เสียหายมีสิทธิฟ้องได้และในเรื่องห้วยสาธารณะก็เช่นเดียวกันเมื่อโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษเนื่องจากการกระทำของจำเลย โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องจำเลยได้
ดังนี้ฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องให้จำเลยรับผิดเพื่อการละเมิดตาม ป.พ.พ.ม. 420 แม่น้ำที่โจทก์ปลูกข้าวจะไม่ใช่ของโจทก์ก็ดี โจทก์ย่อมเป็นผู้เสียหายมีสิทธิฟ้องได้และในเรื่องห้วยสาธารณะก็เช่นเดียวกันเมื่อโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษเนื่องจากการกระทำของจำเลย โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1042/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องละเมิดของผู้ได้รับความเสียหายจากการกระทำละเมิด แม้ไม่ใช่เจ้าของทรัพย์สิน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยยกคันนากั้นน้ำในลำห้วยสาธารณะเป็นเหตุให้น้ำท่วมต้นข้าวโจทก์เสียหาย ขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายและทำลายคันนา
ดังนี้ฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องให้จำเลยรับผิดเพื่อการละเมิดตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 แม้นาที่โจทก์ปลูกข้าวจะไม่ใช่ของโจทก์ก็ดี โจทก์ย่อมเป็นผู้เสียหายมีสิทธิฟ้องได้และในเรื่องห้วยสาธารณะก็เช่นเดียวกันเมื่อโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษเนื่องจากการกระทำของจำเลย โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องจำเลยได้
ดังนี้ฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องให้จำเลยรับผิดเพื่อการละเมิดตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 แม้นาที่โจทก์ปลูกข้าวจะไม่ใช่ของโจทก์ก็ดี โจทก์ย่อมเป็นผู้เสียหายมีสิทธิฟ้องได้และในเรื่องห้วยสาธารณะก็เช่นเดียวกันเมื่อโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษเนื่องจากการกระทำของจำเลย โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1042/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องคดีละเมิด แม้ไม่ใช่เจ้าของทรัพย์สิน หากได้รับความเสียหายเป็นพิเศษจากการกระทำละเมิด
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยยกคันนากั้นน้ำในลำห้วยสาธารณะเป็นเหตุให้น้ำท่วมต้นข้าวโจทก์เสียหาย ขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายและทำลายคันนา
ดังนี้ฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องให้จำเลยรับผิดเพื่อการละเมิดตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 แม้นาที่โจทก์ปลูกข้าวจะไม่ใช่ของโจทก์ก็ดี โจทก์ย่อมเป็นผู้เสียหายมีสิทธิฟ้องได้และในเรื่องห้วยสาธารณะก็เช่นเดียวกันเมื่อโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษเนื่องจากการกระทำของจำเลย โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องจำเลยได้
ดังนี้ฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องให้จำเลยรับผิดเพื่อการละเมิดตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 แม้นาที่โจทก์ปลูกข้าวจะไม่ใช่ของโจทก์ก็ดี โจทก์ย่อมเป็นผู้เสียหายมีสิทธิฟ้องได้และในเรื่องห้วยสาธารณะก็เช่นเดียวกันเมื่อโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษเนื่องจากการกระทำของจำเลย โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 985/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางละเมิดจากการปล่อยอาคารเอนทับ ทำให้เกิดความเสียหาย แม้ภายหลังเกิดเหตุไฟไหม้ ค่าเสียหายยังคงอยู่
จำเลยปล่อยให้อาคารของตนเอนทับอาคารโจทก์เสียหายดังนี้เรียกว่าจำเลยทำละเมิด จำเลยต้องรับผิดใช้ค่าเสียหาย
ความเสียหายเกิดขึ้นนับแต่ทำละเมิดดังนั้นแม้ภายหลังปรากฏว่าอาคารของโจทก์ถูกไหม้ไม่มีอะไรจะให้จำเลยจัดการกับอาคารก็ดีความเสียหายซึ่งเกิดแต่ละเมิดยังคงอยู่ไม่ระงับหรือเปลี่ยนแปลงตามไปจำเลยต้องรับผิด
ความเสียหายเกิดขึ้นนับแต่ทำละเมิดดังนั้นแม้ภายหลังปรากฏว่าอาคารของโจทก์ถูกไหม้ไม่มีอะไรจะให้จำเลยจัดการกับอาคารก็ดีความเสียหายซึ่งเกิดแต่ละเมิดยังคงอยู่ไม่ระงับหรือเปลี่ยนแปลงตามไปจำเลยต้องรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 909/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าเสียหายจากละเมิด: ศาลใช้ดุลยพินิจกำหนดตามความร้ายแรง แม้โจทก์พิสูจน์ความเสียหายไม่ได้
ค่าเสียหายฐานละเมิดนั้นเมื่อโจทก์สืบไม่ได้ว่าเสียหายเท่าไรแน่ก็เป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจศาลที่จะใช้ดุลยพินิจกำหนดให้ตามที่เห็นสมควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งการละเมิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 909/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเมิดปล่อยน้ำเค็มเข้าสวน: ศาลใช้ดุลพินิจกำหนดค่าเสียหายเมื่อโจทก์พิสูจน์ความเสียหายไม่ได้
ค่าเสียหายฐานละเมิดนั้นเมื่อโจทก์สืบไม่ได้ว่าเสียหายเท่าไรแน่ก็เป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจศาลที่จะใช้ดุลพินิจกำหนดให้ตามที่เห็นสมควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งการละเมิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 833/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องละเมิดตัดต้นไม้ในที่ดินสาธารณะ ศาลต้องวินิจฉัยเฉพาะประเด็นที่ฟ้องขอเท่านั้น การวินิจฉัยนอกประเด็นเป็นเหตุให้ต้องยกฟ้อง
โจทย์ฟ้องหาว่าจำเลยละเมิดเข้ามาตัดฟันต้นสาคูและใบจากในที่ดินของโจทก์ขอให้ศาลแสดงว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิของโจทก์ และเรียกค่าเสียหาย ทางพิจารณาได้ความว่าที่พิพาทเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน โจทก์จะมีกรรมสิทธิไม่ได้ ดังนั้นศาลจะวินิจฉัยว่าต้นสาคูที่ปลูกอยู่ทางฝั่งใต้ของที่พิพาทเป็นของโจทก์และฝั่งเหนือเป็นของจำเลยแล้วพิพากษาห้ามจำเลยกับบริวารมิให้เข้าไปเกี่ยวข้องทางฝั่งใต้ จึงเป็นการนอกฟ้องนอกประเด็น เพราะโจทก์มิได้มีคำขอเช่นนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 717/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความละเมิด: การเริ่มต้นนับอายุความเมื่อมีการกระทำละเมิด และการรับสภาพหนี้
ฟ้องเรียกค่าเสียหายละเมิด แต่ไม่ได้กล่าวในฟ้องว่าจำเลยได้กระทำผิดในทางอาญาต่อโจทก์ คดีจึงนับอายุความตาม ป.พ.พ.มาตรา 448 วรรค 2 ไม่ได้
การที่จำเลยรับด้วยวาจาว่าจะพิจารณาชดใช้ค่าเสียหายให้ ไม่เป็นการรับสภาพหนี้ตามมาตรา 172
จำเลยร้องทุกข์ว่าโจทก์กระทำผิดทางอาญา ต่อมาโจทก์ถูกฟ้องจนศาลพิพากษายกฟ้องถูกละเมิดตั้งแต่วันที่จำเลยร้องทุกข์ ไม่ใช่เมื่อศาลยกฟ้อง
เมื่อจำเลยยกข้อต่อสู้ว่าคดีโจทก์ขาดอายุความแล้ว เป็นหน้าที่ศาลจะต้องปรับมาตราเอง จำเลยไม่ต้องยกบทกฎหมายมาโดยแจ้งชัด
การที่จำเลยรับด้วยวาจาว่าจะพิจารณาชดใช้ค่าเสียหายให้ ไม่เป็นการรับสภาพหนี้ตามมาตรา 172
จำเลยร้องทุกข์ว่าโจทก์กระทำผิดทางอาญา ต่อมาโจทก์ถูกฟ้องจนศาลพิพากษายกฟ้องถูกละเมิดตั้งแต่วันที่จำเลยร้องทุกข์ ไม่ใช่เมื่อศาลยกฟ้อง
เมื่อจำเลยยกข้อต่อสู้ว่าคดีโจทก์ขาดอายุความแล้ว เป็นหน้าที่ศาลจะต้องปรับมาตราเอง จำเลยไม่ต้องยกบทกฎหมายมาโดยแจ้งชัด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 717/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความละเมิด, การรับสภาพหนี้, วันเกิดสิทธิเรียกร้อง, ศาลปรับบทเอง
ฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดแต่ไม่ได้กล่าวในฟ้องว่าจำเลยได้กระทำผิดในทางอาญาต่อโจทก์คดีจึงนับอายุความตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 วรรคสอง ไม่ได้
การที่จำเลยรับด้วยวาจาว่าจะพิจารณาชดใช้ค่าเสียหายให้ไม่เป็นการรับสภาพหนี้ตามมาตรา 172
จำเลยร้องทุกข์ว่าโจทก์กระทำผิดทางอาญาต่อมาโจทก์ถูกฟ้องจนศาลพิพากษายกฟ้องแล้วนั้นสิทธิของโจทก์ย่อมถูกละเมิดตั้งแต่วันที่จำเลยร้องทุกข์ ไม่ใช่เมื่อศาลยกฟ้อง
เมื่อจำเลยยกข้อต่อสู้ว่าคดีโจทก์ขาดอายุความแล้วเป็นหน้าที่ศาลจะต้องปรับบทมาตราเอง จำเลยไม่ต้องยกบทกฎหมายมาโดยแจ้งชัด
การที่จำเลยรับด้วยวาจาว่าจะพิจารณาชดใช้ค่าเสียหายให้ไม่เป็นการรับสภาพหนี้ตามมาตรา 172
จำเลยร้องทุกข์ว่าโจทก์กระทำผิดทางอาญาต่อมาโจทก์ถูกฟ้องจนศาลพิพากษายกฟ้องแล้วนั้นสิทธิของโจทก์ย่อมถูกละเมิดตั้งแต่วันที่จำเลยร้องทุกข์ ไม่ใช่เมื่อศาลยกฟ้อง
เมื่อจำเลยยกข้อต่อสู้ว่าคดีโจทก์ขาดอายุความแล้วเป็นหน้าที่ศาลจะต้องปรับบทมาตราเอง จำเลยไม่ต้องยกบทกฎหมายมาโดยแจ้งชัด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 383/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความค่าเสียหายจากละเมิด: ผู้กระทำผิด vs. ผู้ร่วมรับผิด
การเรียกร้องค่าเสียหายในฐานละเมิด ในมูลอันเป็นความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ให้นับอายุความทางอาญาที่ยาวกว่าตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 448 วรรค 2 นั้น หมายความเฉพาะการเรียกร้องจากตัวผู้กระทำผิดหรือผู้ร่วมในการกระทำผิดโดยเฉพาะ มิได้หมายความถึงผู้อื่นที่มิได้มีส่วนร่วม ในการกระทำผิดด้วย