คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อุทธรณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,483 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 44/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นคำร้องซ้ำในกระบวนการบังคับคดีเมื่อไม่พอใจคำสั่งศาล ชอบที่จะอุทธรณ์ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด
คำร้องฉบับแรกและฉบับหลังของจำเลยมีใจความอย่างเดียวกันว่าโจทก์ยึดที่ดินที่โจทก์นำยึดไม่ได้ เพราะเป็นสินสมรส ต้องขอแยกเสียก่อน ขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดเมื่อศาลมีคำสั่งยกคำร้องฉบับแรก จำเลยไม่พอใจอย่างไร ชอบที่จะอุทธรณ์คำสั่งของศาลภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ได้ แต่จำเลยไม่อุทธรณ์ กลับมายื่นคำร้องใหม่ จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 44/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นคำร้องซ้ำในคดีบังคับคดี การอุทธรณ์คำสั่งศาล และข้อห้ามในการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ
คำร้องฉบับแรกและฉบับหลังของจำเลยมีใจความอย่างเดียวกันว่าโจทก์ยึดที่ดินที่โจทก์นำยึดไม่ได้ เพราะเป็นสินสมรส ต้องขอแยกเสียก่อน ขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด เมื่อศาลมีคำสั่งยกคำร้องฉบับแรก จำเลยไม่พอใจอย่างไร ชอบที่จะอุทธรณ์คำสั่งของศาลภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ได้ แต่จำเลยไม่อุทธรณ์ กลับมายื่นคำร้องใหม่ จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 420/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับวินิจฉัย เหตุฟ้องเคลือบคลุมต่างจากที่อุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่พิจารณาประเด็นใหม่
จำเลยฎีกาว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม โดยเอกสารโอนสิทธิเรียกร้องตามฟ้องมิใช่เอกสารที่แท้จริง เป็นการยกเหตุแห่งการเคลือบคลุมคนละเหตุกับที่จำเลยยกขึ้นว่ามาในชั้นอุทธรณ์ โดยในชั้นอุทธรณ์จำเลยอ้างว่าฟ้องเคลือบคลุมเพราะมิได้บรรยายว่าจำเลยชำระหนี้มาแล้วกี่ครั้งจึงเหลือหนี้เงินกู้ 40,000 บาท จำเลยไม่สามารถต่อสู้คดีได้ ดังนี้ เหตุแห่งการเคลือบคลุมที่จำเลยอ้างมาในฎีกา จึงมิใช่ข้อที่ว่ากันมาแล้วในชั้นอุทธรณ์ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 420/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับวินิจฉัยเรื่องฟ้องเคลือบคลุม เหตุข้ออ้างในฎีกาต่างจากชั้นอุทธรณ์
จำเลยฎีกาว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมโดยเอกสารโอนสิทธิเรียกร้องตามฟ้องมิใช่เอกสารที่แท้จริง เป็นการยกเหตุแห่งการเคลือบคลุมคนละเหตุกับที่จำเลยยกขึ้นว่ามาในชั้นอุทธรณ์ โดยในชั้นอุทธรณ์จำเลยอ้างว่าฟ้องเคลือบคลุมเพราะมิได้บรรยายว่าจำเลยชำระหนี้มาแล้วกี่ครั้งจึงเหลือหนี้เงินกู้ 40,000 บาท จำเลยไม่สามารถต่อสู้คดีได้ ดังนี้ เหตุแห่งการเคลือบคลุมที่จำเลยอ้างมาในฎีกา จึงมิใช่ข้อที่ว่ากันมาแล้วในชั้นอุทธรณ์ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3388/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าหนี้ในการยึดทรัพย์มรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง และการรับคำอุทธรณ์พร้อมคำขออนาถา
ผู้ร้องกับสามีเป็นเจ้าของทรัพย์พิพาท จำเลยเป็นบุตรของผู้ร้อง เมื่อสามีของผู้ร้องถึงแก่กรรมไปโดยมิได้ทำพินัยกรรมยกมรดกส่วนของตนให้แก่ผู้ใด ดังนั้น ส่วนที่เป็นของสามีจึงเป็นมรดกตกทอดแก่ทายาทโดยธรรมทุกคน รวมทั้งผู้ร้องซึ่งเป็นภริยาและจำเลยซึ่งเป็นบุตรด้วย เมื่อทรัพย์นั้นยังมิได้แบ่งปันกันระหว่างทายาท โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ของจำเลยตามคำพิพากษา ย่อมมีสิทธิที่จะยึดทรัพย์ดังกล่าวเพื่อบังคับชำระหนี้ได้ ผู้ร้องเป็นเพียงเจ้าของร่วมกันหามีอำนาจร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดได้ไม่ ได้แต่จะร้องขอส่วนแบ่งหรือร้องขอให้กันเงินส่วนของตนออกเมื่อขายทรัพย์แล้วเท่านั้น
โจทก์ยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนดอายุอุทธรณ์พร้อมด้วยคำขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาระหว่างไต่สวน ก่อนศาลมีคำสั่งแต่พ้นกำหนดอายุอุทธรณ์แล้ว โจทก์ขอเสียค่าธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นอนุญาตและสั่งรับอุทธรณ์ของโจทก์เช่นนี้ถือได้ว่าศาลชั้นต้นสั่งชอบแล้วและไม่ขาดอายุอุทธรณ์ เพราะในระหว่างศาลชั้นต้นดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 นั้น กฎหมายไม่ได้บังคับให้โจทก์ต้องวางเงินค่าธรรมเนียม (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 679/2486 และ 22/2493)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3071-3072/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งความรับผิดในคดีละเมิด, ข้อจำกัดการอุทธรณ์/ฎีกา, ผลของการขาดนัดยื่นคำให้การ, และการชำระหนี้ที่ไม่อาจแบ่งแยกได้
โจทก์สามคนต่างใช้สิทธิเฉพาะตัวของโจทก์แต่ละคนตามลำพังฟ้องให้จำเลยใช้ค่าเสียหายอันเกิดจากการละเมิดทำให้รถยนต์ของโจทก์แต่ละคนเสียหาย แม้จะรวมฟ้องมาในคดีเดียวกันก็ต้องพิจารณาจำนวนทุนทรัพย์ของคดีสำหรับโจทก์แต่ละคนถ้าทุนทรัพย์ไม่เกิน 50,000 บาท และศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เล็กน้อยก็ฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้ ส่วนทุนทรัพย์ที่ไม่เกิน20,000 บาทนั้น ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริง แม้ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยข้อเท็จจริงมาก็เป็นการมิชอบ เพราะปัญหาดังกล่าวยุติตั้งแต่ศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 4 ในสำนวนหลังฎีกา แต่ในสำนวนหลังนี้ศาลชั้นต้นสั่งว่าจำเลยที่ 4 ขาดนัดยื่นคำให้การ จำเลยที่ 4 จึงหาอาจเรียกพยานของตนเข้าสืบได้ไม่ ดังนั้นพยานที่จำเลยที่ 4 ซึ่งเป็นจำเลยที่ 2 ในสำนวนแรกนำสืบรวมมาในสำนวนแรก จึงไม่อาจนำมาวินิจฉัยในสำนวนหลังได้
แม้จำเลยที่ 4 จะฎีกาแต่ผู้เดียว แต่คำพิพากษาศาลฎีกาในส่วนที่เป็นผลดีแก่จำเลยที่ 4 เกี่ยวด้วยการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้ จึงมีผลถึงจำเลยอื่นที่ไม่ได้ฎีกาด้วย
จำเลยทั้งสองต่างขับรถยนต์ด้วยความเร็วแซงและแข่งกันมาเป็นเหตุให้ชนรถของโจทก์ซึ่งจอดอยู่ พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิดของจำเลยทั้งสองมีเท่ากัน และเป็นกรณีต่างทำละเมิดโดยไม่ได้ร่วมกัน จึงไม่ต้องร่วมกันใช้ค่าสินไหมทดแทนทั้งหมดแก่โจทก์ จำเลยทั้งสองต้องรับผิดแบ่งออกเป็นส่วนเท่าๆ กัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3057/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อุทธรณ์รวมคดีอาญา - ศาลอุทธรณ์มีอำนาจยกฟ้องทั้งคดี แม้ไม่อุทธรณ์บางข้อหา หากข้อเท็จจริงเชื่อมโยงกัน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีสุรากลั่นและสุราแช่กรรมหนึ่ง และฐานจำหน่ายสุราอีกกรรมหนึ่ง ศาลชั้นต้น(ศาลแขวง) ยกฟ้องโจทก์สำหรับข้อหาจำหน่ายสุราส่วนข้อหามีสุรากลั่นและสุราแช่แยกลงโทษเป็น 2 กรรม กรรมแรกปรับ 200 บาท ส่วนกรรมหลังปรับ 600 บาท และสั่งรับอุทธรณ์ข้อเท็จจริงของจำเลยเฉพาะกรรมหลังซึ่งปรับ 600 บาทส่วนกรรมแรกไม่รับ เพราะเห็นว่าปรับไม่เกิน 500 บาท ต้องห้ามอุทธรณ์ข้อเท็จจริง แม้ศาลชั้นต้นจะไม่รับอุทธรณ์ข้อหามีสุรากลั่น ก็ต้องถือว่าข้อหามีสุรากลั่นนั้นยังไม่ถึงที่สุด เพราะข้อหามีสุรากลั่นและมีสุราแช่รวมเป็นความผิดอยู่ในกรรมเดียวกัน เมื่อศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิด ย่อมจะยกฟ้องโจทก์ไปถึงข้อหามีสุรากลั่นได้ด้วย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185 ประกอบด้วย มาตรา 215

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2947/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้แก้ฟ้อง ทำให้จำเลยเสียสิทธิในการอุทธรณ์คัดค้าน
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้อง เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาไม่ปรากฏว่าหลังจากคำสั่งนั้นจำเลยโต้แย้งไว้ จำเลยอุทธรณ์ข้อนี้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2846/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเสียหายจากราคาที่ดินเพิ่มขึ้น: การพิสูจน์ราคาที่ดินและข้อจำกัดการอุทธรณ์ประเด็นใหม่
จำเลยยื่นคำให้การปฏิเสธที่จะร่วมชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ อ้างเหตุผลว่าค่าเสียหายเกี่ยวกับราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้นไม่เป็นความจริง ขอให้พิพากษายกฟ้องโจทก์ในส่วนที่เรียกร้องค่าเสียหาย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งคดีมีประเด็นว่าโจทก์เสียหายเท่าไร และพิพากษาให้จำเลยร่วมกันชำระเงินค่าเสียหายเพราะโจทก์ขาดประโยชน์ที่ควรจะได้จากราคาที่ดินที่สูงขึ้นเพียงประการเดียว ดังนี้ การที่จำเลยอุทธรณ์ว่าโจทก์ไม่ควรได้รับค่าเสียหายเนื่องจากราคาที่ดินเพิ่มขึ้น เพราะโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาด้วยเห็นได้ชัดว่าปัญหาข้อนี้มิใช่ปัญหาที่คู่ความได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น จำเลยจึงยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นอุทธรณ์ ฎีกาไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 225 และ 249
โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดใช้ค่าเสียหายในการที่โจทก์ขาดประโยชน์เนื่องจากราคาที่ดินสูงขึ้น แต่โจทก์มิได้นำสืบให้เห็นว่าในระหว่างวันที่ผู้จะขายสัญญาว่าจะโอนกรรมสิทธิ์ให้โจทก์ ที่ดินนี้มีราคาตารางวาละเท่าใด เพิ่มขึ้นจากวันทำสัญญาจะซื้อจะขายตารางวาละเท่าใด ดังนั้น ที่ศาลกำหนดค่าเสียหายให้ตามสมควรจึงชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2699/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ภาษีอากรถึงที่สุด เมื่อลูกหนี้ไม่ยื่นฟ้องภายในกำหนดตามกฎหมาย แม้มีการอุทธรณ์ก่อนหน้า
หนี้ค่าภาษีอากรซึ่งเจ้าพนักงานประเมินได้แจ้งจำนวนที่จะต้องชำระเพิ่มไปยังลูกหนี้แล้ว ลูกหนี้มิได้อุทธรณ์การประเมินต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์หรือลูกหนี้อุทธรณ์การประเมินต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ให้ยกอุทธรณ์ลูกหนี้ทราบคำวินิจฉัยของคณะกรรมการฯ แล้วไม่ยื่นฟ้องต่อศาลภายในกำหนดตามมาตรา 30 แห่งประมวลรัษฎากร ถือว่าการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินยุติแล้ว ลูกหนี้หมดสิทธิที่จะรื้อฟื้นการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินขึ้นโต้แย้งต่อไป และต้องรับผิดชำระหนี้ค่าภาษีนั้น
of 349