พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,024 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1501/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของคำพิพากษาต่อจำเลยที่ไม่ได้อุทธรณ์ฎีกาในคดีหนี้สิน
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลย 2 คนชำระหนี้เงินตามสัญญากู้จำเลยคนหนึ่งอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยคนนั้นฎีกาต่อมา ศาลฎีกาไม่เชื่อพยานหลักฐานของโจทก์พิพากษายกฟ้อง จำเลยคนที่ไม่ได้อุทธรณ์ฎีกา ก็ย่อมได้รับผลตามคำพิพากษาด้วย ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 245(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1499/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งรับอุทธรณ์เป็นที่สุด ไม่สามารถฎีกาคัดค้านได้
ในคดีแพ่งหรือคดีอาญาเมื่อศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งรับอุทธรณ์ของคู่ความฝ่ายหนึ่งแล้ว คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งจะฎีกาคัดค้านว่าไม่ควรรับนั้นหาได้ไม่เพราะเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196 ประกอบด้วย มาตรา215 และในคดีแพ่งคำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ได้รับอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุดตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1271/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีเนื่องจากโจทก์ฎีกาเฉพาะจำเลยบางราย และไม่สามารถส่งสำเนาฟ้องฎีกาให้จำเลยได้
เมื่อส่งสำนวนฟ้องฎีกาให้จำเลยไม่ได้ ศาลก็มีอำนาจสั่งจำหน่ายคดีห้ามมิให้โจทก์ฎีกาในคดีซึ่งศาลเดิมและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1271/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีเนื่องจากส่งสำเนาฟ้องฎีกาไม่ได้ และข้อจำกัดในการฎีกาเมื่อศาลเดิมยกฟ้อง
เมื่อส่งสำเนาฟ้องฎีกาให้จำเลยไม่ได้ ศาลก็มีอำนาจสั่งจำหน่ายคดี
ห้ามมิให้โจทก์ฎีกาในคดีซึ่งศาลเดิมและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง
ห้ามมิให้โจทก์ฎีกาในคดีซึ่งศาลเดิมและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1119/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำกัดสิทธิฎีกาในคดีอาญาเมื่อโทษจำคุกแต่ละกระทงไม่เกิน 5 ปี
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุกจำเลยตามความผิดกะทงหนึ่ง 3 ปี อีกกะทงหนึ่ง 1 ปี รวมเป็นโทษจำคุก 4 ปี แล้วเพิ่มโทษอีกกึ่งหนึ่งเป็น 6 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คู่ความจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ เพราะโทษแต่ละกะทงไม่ถึง 5 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1119/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำกัดสิทธิฎีกาในคดีอาญาเมื่อโทษจำคุกแต่ละกระทงไม่เกิน 5 ปี
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุกจำเลยตามความผิดกระทงหนึ่ง 3 ปี อีกกระทงหนึ่ง 1 ปี รวมเป็นโทษจำคุก 4 ปี แล้วเพิ่มโทษอีกกึ่งหนึ่งเป็น 6 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คู่ความจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ เพราะโทษแต่ละกระทงไม่ถึง 5 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1080/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดทุนทรัพย์ฟ้อง และข้อจำกัดในการอุทธรณ์ฎีกาเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่มิได้ฟ้องแย้ง
จำนวนทุนทรัพย์ ที่เรียกร้องไม่เกิน 2 พันบาทเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงโจทก์ตั้งทุนทรัพย์โดยขอแบ่งส่วนมรดกเพียง 500 บาท จำเลยฎีกาตั้งทุนทรัพย์มาโดยคิดค่าสินเดิมที่ขาดไปและอื่น ๆ รวมราคา 2930 บาทหาได้ฟ้องแย้งเข้ามา ดังนี้ไม่ให้ทุนทรัพย์ที่เรียกร้อง เป็นแต่เพียงการขอให้หักจากสินสมรสก่อนแบ่งเท่านั้น
โจทย์ฟ้องขอแบ่งมรดกและก่ออ้างถึงสินเดิม แม้ไม่ได้ระบุสินเดิมมีอะไรบ้างฟ้องของโจทก์ที่กล่าวถึงสินเดิมก็เพียงประสงค์เพื่อเป็นเกณฑ์ในการแบ่งสินสมรสอย่างไรเท่านั้น หาได้ขอเรียกหรือขอให้หักสินเดิมจากสินสมรสไม่ดังนี้ ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทย์ฟ้องขอแบ่งมรดกและก่ออ้างถึงสินเดิม แม้ไม่ได้ระบุสินเดิมมีอะไรบ้างฟ้องของโจทก์ที่กล่าวถึงสินเดิมก็เพียงประสงค์เพื่อเป็นเกณฑ์ในการแบ่งสินสมรสอย่างไรเท่านั้น หาได้ขอเรียกหรือขอให้หักสินเดิมจากสินสมรสไม่ดังนี้ ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1080/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทุนทรัพย์ที่เรียกร้อง, ข้อเท็จจริงที่ฎีกา, และการฟ้องขอแบ่งมรดก: ข้อจำกัดในการฎีกา
จำนวนทุนทรัพย์ ที่เรียกร้องไม่เกิน 2 พันบาท เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง
โจทก์ตั้งทุนทรัพย์โดยขอแบ่งส่วนมรดกเพียง 500 บาทจำเลยฎีกาตั้งทุนทรัพย์มาโดยคิดค่าสินเดิมที่ขาดไปและอื่นๆ รวมราคา 2,930 บาท หาได้ฟ้องแย้งเข้ามา ดังนี้ไม่ใช่ทุนทรัพย์ที่เรียกร้อง เป็นแต่เพียงการขอให้หักจากสินสมรสก่อนแบ่งเท่านั้น
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกและกล่าวอ้างถึงสินเดิม แม้ไม่ได้ระบุสินเดิมมีอะไรบ้างฟ้องของโจทก์ที่กล่าวถึงสินเดิมก็เพียงประสงค์เพื่อเป็นเกณฑ์ในการแบ่งสินสมรสอย่างไรเท่านั้น หาได้ขอเรียกหรือขอให้หักสินเดิมจากสินสมรสไม่ดังนี้ ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์ตั้งทุนทรัพย์โดยขอแบ่งส่วนมรดกเพียง 500 บาทจำเลยฎีกาตั้งทุนทรัพย์มาโดยคิดค่าสินเดิมที่ขาดไปและอื่นๆ รวมราคา 2,930 บาท หาได้ฟ้องแย้งเข้ามา ดังนี้ไม่ใช่ทุนทรัพย์ที่เรียกร้อง เป็นแต่เพียงการขอให้หักจากสินสมรสก่อนแบ่งเท่านั้น
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกและกล่าวอ้างถึงสินเดิม แม้ไม่ได้ระบุสินเดิมมีอะไรบ้างฟ้องของโจทก์ที่กล่าวถึงสินเดิมก็เพียงประสงค์เพื่อเป็นเกณฑ์ในการแบ่งสินสมรสอย่างไรเท่านั้น หาได้ขอเรียกหรือขอให้หักสินเดิมจากสินสมรสไม่ดังนี้ ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 946/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจ่ายเงินส่วนแบ่งทนายความ: หลักฐานการรับเงินไม่จำเป็นต้องเป็นหนังสือ และขอบเขตการฎีกาในข้อเท็จจริง
การที่ทนายความจ่ายเงินส่วนได้ของลูกความที่ตนรับมาจากศาลให้แก่ลูกความนั้น ไม่มีกฎหมายบังคับว่าต้องมีหลัก ฐานเป็นหนังสือ ฉะนั้นแม้ตัวความจะไม่ได้ออกใบรับเงินให้ ทนายก็นำสืบพยานบุคคลได้.
โจทก์ฟ้องตั้งทุนทรัพย์ 900 บาทเศษ จำเลยกลับฟ้องแย้งให้โจทก์ใช้เงินให้จำเลย 1800 บาท เศษ เมื่อศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ไขเล็กน้อย คู่ความก็ย่อมจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้./
โจทก์ฟ้องตั้งทุนทรัพย์ 900 บาทเศษ จำเลยกลับฟ้องแย้งให้โจทก์ใช้เงินให้จำเลย 1800 บาท เศษ เมื่อศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ไขเล็กน้อย คู่ความก็ย่อมจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 946/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจ่ายเงินส่วนแบ่งทนายความโดยไม่มีหลักฐานหนังสือ ศาลรับฟังพยานบุคคลได้ และการฎีกาในข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์แก้ไขเล็กน้อย
การที่ทนายความจ่ายเงินส่วนได้ของลูกความที่ตนรับมาจากศาลให้แก่ลูกความนั้น ไม่มีกฎหมายบังคับว่าต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ฉะนั้นแม้ตัวความจะไม่ได้ออกใบรับเงินให้ ทนายก็นำสืบพยานบุคคลได้
โจทก์ฟ้องตั้งทุนทรัพย์ 900 บาทเศษ จำเลยกลับฟ้องแย้งให้โจทก์ใช้เงินให้จำเลย 1800 บาทเศษ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขเล็กน้อย คู่ความก็ย่อมจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
โจทก์ฟ้องตั้งทุนทรัพย์ 900 บาทเศษ จำเลยกลับฟ้องแย้งให้โจทก์ใช้เงินให้จำเลย 1800 บาทเศษ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขเล็กน้อย คู่ความก็ย่อมจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้