พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,024 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 875/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ปฏิบัติตามกำหนดเวลาส่งสำเนาฎีกา ทำให้ศาลจำหน่ายคดีออกจากสารบบ
โจทก์ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่ไม่นำส่งสำเนาฎีกาให้จำเลย จนเวลาล่วงเลยเกินกำหนดที่ศาลสั่งไว้ ศาลฎีกาย่อมสั่งให้จำหน่ายฎีกาของโจทก์ออกจากสารบบความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 872/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานไม่เพียงพอ ศาลยกฟ้องจำเลยทั้งสอง แม้มีการฎีกาเฉพาะบางคน
ในกรณีที่ศาลเห็นว่าคำพยานบุคคลของโจทก์เชื่อเป็นความจริงไม่ได้ และตามรูปเรื่องแห่งลักษณะคดีทั้งหมดพยานหลักฐานของโจทก์ยังไม่พอให้ฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองได้ทำให้มีขึ้นซึ่งการกระทำผิดดังฟ้อง ถือว่าเป็นเหตุในลักษณะคดี ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องสำหรับจำเลยที่มิได้อุทธรณ์ฎีกาขึ้นไปด้วยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 871/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการวินิจฉัยข้อเท็จจริงของศาลอุทธรณ์ตาม ป.วิ.แพ่ง ม.238 และการไม่ยกข้อต่อสู้ในฎีกา
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าของโจทก์ ศาลชั้นต้นฟังว่าห้องเช่าเป็นเคหะ จึงพิพากษายกฟ้องแต่ศาล อุทธรณ์ฟังว่า ไม่ใช่เคหะ จึงพิพากษากลับให้ขับไล่จำเลย ่จำเลยฎีกาเพียงว่าคดีนี้ศาลชั้นต้นรับอุทธรณ์เฉพาะใน ขจ้อกฎหมาย ศาลอุทธรณ์กลับมาวินิจฉัยข้อเท็จจริง ศาลอุทธรณ์กลับมาวินิจฉัยข้อเท็จจริง ไม่ชอบด้วยป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 238 ส่วนข้อที่ว่าห้องเช่าไม่ใช่เคหะนั้น จำเลยมิได้คัดค้านในฎีกามา ดังนี้ เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าที่จำเลยฎีกา ขึ้นมาฟังไม่ขึ้นแล้ว ก็ไม่ต้องวินิจฉัยเรื่องเคหะต่อไป./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 834/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความ 'อาวุธปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม' เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้น-อุทธรณ์วินิจฉัยต่างกัน ฎีกาต้องห้าม
พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 ไม่ได้ให้บทวิเคราะห์ศัพท์คำว่า 'อาวุธปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม' ไว้ ฉะนั้นอาวุธปืนใดเป็นอาวุธปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามหรือไม่ จึงเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีอาวุธปืนธรรมดาไว้ในครอบครองผิดตาม พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 7,72 ปรับ 225 บาท ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าปืนของกลางเป็นอาวุธปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม จึงพิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตามมาตรา 55,78 ให้จำคุก 1 เดือนปรับ 1,000 บาทเพิ่มโทษและลดแล้ว คงจำคุก 22 วัน ปรับ 666 บาท 66สตางค์ โทษจำคุกให้ยกเสีย ดังนี้จำเลยจะฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีอาวุธปืนธรรมดาไว้ในครอบครองผิดตาม พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 7,72 ปรับ 225 บาท ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าปืนของกลางเป็นอาวุธปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม จึงพิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตามมาตรา 55,78 ให้จำคุก 1 เดือนปรับ 1,000 บาทเพิ่มโทษและลดแล้ว คงจำคุก 22 วัน ปรับ 666 บาท 66สตางค์ โทษจำคุกให้ยกเสีย ดังนี้จำเลยจะฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 732/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งศาลอุทธรณ์เกี่ยวกับการรับหรือไม่รับอุทธรณ์ ถือเป็นที่สุดตามกฎหมาย ไม่สามารถฎีกาได้
ในกรณีที่คู่ความยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้น ที่ปฏิเสธไม่ยอมรับอุทธรณ์เพราะยื่นเกินกำหนดเวลานั้น เมื่อ ศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นหรือมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์แล้ว คำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่ สุดตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 236 คู่ความจะฎีกาต่อไปมิได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 732/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งศาลอุทธรณ์เกี่ยวกับการรับหรือไม่รับอุทธรณ์เป็นที่สุด ห้ามฎีกา
ในกรณีที่คู่ความยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้น ที่ปฏิเสธไม่ยอมรับอุทธรณ์เพราะยื่นเกินกำหนดเวลานั้นเมื่อศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นหรือมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์แล้ว คำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุดตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 236คู่ความจะฎีกาต่อไปมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 628/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อุทธรณ์ในชั้นอุทธรณ์ทำให้หมดสิทธิฎีกา และการพิจารณาเฉพาะส่วนที่อุทธรณ์
ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยหลายคน จำเลยบางคนอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์ยืน จำเลยที่ไม่อุทธรณ์ฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 590/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาฎีกาและการดุลยพินิจของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เกี่ยวกับการรอการลงโทษ
คดีที่ห้ามฎีกา ผู้พากษาผู้พิจารณาในศาลชั้นต้นบรรทึกมาในฎีกา "ศาลชั้นต้นลงโทษแต่ให้รอการลงโทษไว้ ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกทันที จึงเป็นเรื่องดุลยพินิจของศาลชั้นต้นเห็นด้วยความเคารพและสุจริตใจว่า ชอบที่ศาล ฎีกาจะได้ชี้ขาดเพื่อเป็นบรรทัดฐานทั้งศาลชั้นต้นก็เคยมีเรื่องศาลชั้นต้นให้รอการลงโทษ และศาลอุทธรณ์ลงโทษ ทันที แต่ศาลฎีกาให้รอไว้ดังที่ผู้ฎีกาได้อ้างมานั้น จึงเห็นควรให้รับฎีกาไว้ เพื่อศาลฎีกาจะได้พิจารณาต่อไป" ดังนี้ มิได้แสดงว่าข้อความที่ตัดสินมาเป็นปัญหาสำคัญ มิได้ แสดงว่า ผู้พิพากษาผู้พิจารณา อนุญาตให้ฎีกา ศาลฎีกาจึงรับ ไว้พิจารณา ไม่ได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 590/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฎีกา: ดุลพินิจศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ที่แตกต่างกัน มิใช่เหตุรับฎีกา
คดีที่ห้ามฎีกา ผู้พิพากษาผู้พิจารณาในศาลชั้นต้นบันทึกมาในฎีกาว่า 'ศาลชั้นต้นลงโทษแต่ให้รอการลงโทษไว้ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกทันที จึงเป็นเรื่องดุลพินิจของศาลศาลชั้นต้นเห็นด้วยความเคารพและสุจริตใจว่า ชอบที่ศาลฎีกาจะได้ชี้ขาดเพื่อเป็นบรรทัดฐานทั้งศาลชั้นต้นก็เคยมีเรื่องศาลชั้นต้นให้รอการลงโทษ และศาลอุทธรณ์ลงโทษทันทีแต่ศาลฎีกาให้รอไว้ดังที่ผู้ฎีกาได้อ้างมานั้น จึงเห็นควรให้รับฎีกาไว้ เพื่อศาลฎีกาจะได้พิจารณาต่อไป' ดังนี้ มิได้แสดงว่าข้อความที่ตัดสินมาเป็นปัญหาสำคัญมิได้ แสดงว่า ผู้พิพากษาผู้พิจารณา อนุญาตให้ฎีกาศาลฎีกาจึงจะรับฎีกาไว้พิจารณา ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 571/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขโทษอาญาโดยศาลอุทธรณ์และการฎีกาของโจทก์
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 3 ปีตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 142-268,270 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า ผิดแต่เพียงมาตรา 268-270 เท่านั้นไม่ผิดมาตรา 142ด้วยและแก้โทษมาเป็นจำคุก 1 ปี และให้รอการลงอาญาไว้ ดังนี้ ถือว่าเป็นการแก้มาก ฎีกาข้อเท็จจริงได้