พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,024 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 480/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพในชั้นสอบสวนต้องมีหลักฐานประกอบอื่นนอกเหนือจากคำรับสารภาพเอง จึงจะรับฟังได้
พยานหลักฐานประกอบคำรับสารภาพของจำเลย ในชั้นสอบสวนจะต้องไม่ใช่ส่วนหนึ่งของคำรับสารภาพนั้นเองเพียงแต่มีคำพยานว่าจำเลยได้รับสารภาพต่อพยานดังที่ได้สอบสวนจากบันทึกไว้ยังไม่เป็นหลักฐานประกอบคำรับสารภาพนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 425/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งรับอุทธรณ์ใหม่เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา จำเลยไม่มีสิทธิฎีกา
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์โดยอ้างว่า ไม่แก้ไขอุทธรณ์ตามคำสั่งจนเลยกำหนดเวลาแล้วนั้นเมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์ยื่นอุทธรณ์ที่แก้ไขใหม่ภายในกำหนดเวลา จึงยกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นตรวจสั่งอุทธรณ์ของโจทก์ที่ยื่นมาใหม่นั้นถือว่าเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์จำเลยจะฎีกาทันทีไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงโทษจากเล่นการพนันเป็นเจ้ามือ และข้อจำกัดในการฎีกาเรื่องข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นลงโทษปรับจำเลย 150 บาท ฐานเล่นการพนันป๊อก ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยเป็นเจ้ามือพิพากษาแก้ ให้
จำคุก 2 เดือนปรับ 500 บาท ดังนี้ แม้จะเป็นการแก้ไขมาก โทษจำคุกจำเลยก็ยังไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินพัน
บาท จะฎีกาในปัญาข้อเท็จจริงไม่ได้./
จำคุก 2 เดือนปรับ 500 บาท ดังนี้ แม้จะเป็นการแก้ไขมาก โทษจำคุกจำเลยก็ยังไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินพัน
บาท จะฎีกาในปัญาข้อเท็จจริงไม่ได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์โทษจำคุกจากข้อหาเล่นการพนัน: ข้อจำกัดในการฎีกาข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นลงโทษปรับจำเลย 150 บาทฐานเล่นการพนันป๊อกศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยเป็นเจ้ามือพิพากษาแก้ ให้จำคุก 2 เดือนปรับ 400 บาทดังนี้แม้จะเป็นการแก้ไขมาก โทษจำคุกจำเลยก็ยังไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกินพันบาทจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 20/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฎีกาเถียงข้อเท็จจริงขัดกับข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังร่วมกัน ถือเป็นการต้องห้ามมิให้ฎีกา
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยลักทรัพย์หรือรับของโจร จำเลยปฏิเสธต่อสู่กรรมสิทธิว่าทรัพย์ของกลาง (ราคา 700 บาท) เป็นของจำเลยเมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาว่า ทรัพย์ของกลางเป็นของผู้เสียหาย ให้คืนแก่ผู้เสียหายแม้ศาลชั้นต้นจะลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ และศาลอุทธรณ์กลับมา จำเลยยังไม่ผิดในทางอาญา ให้ยกฟ้อง ก็ตาม จำเลยก็จะฎีกาเถียงข้อเท็จจริงว่า ทรัพย์ของกลางเป็นของจำเลยไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 20/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฎีกาเถียงข้อเท็จจริงที่ไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับฟัง เพราะข้อเท็จจริงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยลักทรัพย์หรือรับของโจรจำเลยปฏิเสธต่อสู้กรรมสิทธิ์ว่าทรัพย์ของกลาง (ราคา 700 บาท)เป็นของจำเลยเมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาว่า ทรัพย์ของกลางเป็นของผู้เสียหาย ให้คืนแก่ผู้เสียหายแม้ศาลชั้นต้นจะลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์และศาลอุทธรณ์กลับว่า จำเลยยังไม่ผิดในทางอาญา ให้ยกฟ้องก็ตาม จำเลยก็จะฎีกาเถียงข้อเท็จจริงว่า ทรัพย์ของกลางเป็นของจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1463/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีพิพาทสัญชาติ: การฎีกาในข้อเท็จจริงสำหรับคดีสิทธิสภาพบุคคล
ในคดีที่โจทก์ฟ้องศาลขอให้ศาลสั่งแสดงว่าโจทก์มีสัญชาติไทยตามกฎหมาย และกระทรวงมหาดไทยผู้เป็นจำเลยคัดค้านนั้น เป็นคดีที่พิพาทกันว่าโจทก์เป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทยหรือเป็นคนต่างด้าว จึงเป็นคดีที่เกี่ยวด้วยสิทธิแห่งสภาพบุคคล คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขคำพิพากษาเล็กน้อยในคดีกรรมสิทธิ์ที่ดิน ไม่ถือเป็นเหตุฎีกาในข้อเท็จจริง
ฟ้องขอให้ศาลแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน 2 แปลง คือที่นาและที่สวนราคาแปลงละ 300 บาทและเรียกค่าเสียหาย 420 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ที่สวนเป็นของโจทก์ ให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย 30 บาท แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าที่นาก็เป็นของโจทก์ด้วย กับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายอีก 300 บาท ดังนี้ถือว่า เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1288/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีอาญาของผู้เยาว์และการฎีกาเฉพาะประเด็นข้อเท็จจริง
ในคดีที่ผู้เยาว์เป็นโจทก์ฟ้องคดีเอง ฟ้องหาว่าจำเลยบังอาจฉุดคร่าห์อนาจาร ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 276 นั้น แม้จำเลยจะให้การตัดฟ้องไว้ว่าโจทก์มีอายุไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์แม้บิดาจะให้ความยินยอมแล้วก็ยังใช้ไม่ได้ บิดาจะต้องเป็นผู้ฟ้องแทนโจทก์จึงจะสมบูรณ์ก็ดีแต่เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยไม่เชื่อข้อเท็จจริง จำเลยจึงไม่ได้อุทธรณ์ คงมีแต่โจทก์อุทธรณ์ฝ่ายเดียว และเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ลงโทษจำเลย จำเลยก็ฎีกาเพียงข้อเท็จจริงไม่ได้ยกข้อตัดฟ้องขึ้นฎีกาด้วย ดังนี้ศาลฎีกาไม่จำต้องวินิจฉัยข้อตัดฟ้องนั้นก็ได้คงวินิจฉัยเฉพาะข้อเท็จจริงที่ฎีกาขึ้นมาเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1288/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีอาญาของผู้เยาว์และการวินิจฉัยเฉพาะประเด็นที่ฎีกา
ในคดีที่ผู้เยาว์เป็นโจทก์ฟ้องคดีเอง ฟ้องหาว่าจำเลยบังอาจฉุดคร่าห์อนาจาร ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 276 นั้น แม้จำเลยจะให้การตัดฟ้องไว้ว่า โจทก์มีอายุไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์แม้บิดาจะให้ความยินยอมแล้วก็ยังใช้ไม่ได้ บิดาจะต้องเป็นผู้ฟ้องแทนโจทก์จึงจะสมบูรณ์ก็ดี แต่เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยไม่เชื่อข้อเท็จจริง จำเลยจึงไม่ได้อุทธรณ์ คงมีแต่โจทก์อุทธรณ์ฝ่ายเดียว และเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ลงโทษจำเลย จำเลยก็ฎีกาเพียงข้อเท็จจริงไม่ได้ยกข้อตัดฟ้องขึ้นฎีกาด้วย ดังนี้ศาลฎีกาไม่จำต้องวินิจฉัยข้อตัดฟ้องนั้นก็ได้ คงวินิจฉัยเฉพาะข้อเท็จจริงที่ฎีกาขึ้นมาเท่านั้น