คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ข้อเท็จจริง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,082 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงโทษจากเล่นการพนันเป็นเจ้ามือ และข้อจำกัดในการฎีกาเรื่องข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นลงโทษปรับจำเลย 150 บาท ฐานเล่นการพนันป๊อก ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยเป็นเจ้ามือพิพากษาแก้ ให้
จำคุก 2 เดือนปรับ 500 บาท ดังนี้ แม้จะเป็นการแก้ไขมาก โทษจำคุกจำเลยก็ยังไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินพัน
บาท จะฎีกาในปัญาข้อเท็จจริงไม่ได้./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์โทษจำคุกจากข้อหาเล่นการพนัน: ข้อจำกัดในการฎีกาข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นลงโทษปรับจำเลย 150 บาทฐานเล่นการพนันป๊อกศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยเป็นเจ้ามือพิพากษาแก้ ให้จำคุก 2 เดือนปรับ 400 บาทดังนี้แม้จะเป็นการแก้ไขมาก โทษจำคุกจำเลยก็ยังไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกินพันบาทจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 20/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาเถียงข้อเท็จจริงขัดกับข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังร่วมกัน ถือเป็นการต้องห้ามมิให้ฎีกา
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยลักทรัพย์หรือรับของโจร จำเลยปฏิเสธต่อสู่กรรมสิทธิว่าทรัพย์ของกลาง (ราคา 700 บาท) เป็นของจำเลยเมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาว่า ทรัพย์ของกลางเป็นของผู้เสียหาย ให้คืนแก่ผู้เสียหายแม้ศาลชั้นต้นจะลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ และศาลอุทธรณ์กลับมา จำเลยยังไม่ผิดในทางอาญา ให้ยกฟ้อง ก็ตาม จำเลยก็จะฎีกาเถียงข้อเท็จจริงว่า ทรัพย์ของกลางเป็นของจำเลยไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 20/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาเถียงข้อเท็จจริงที่ไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับฟัง เพราะข้อเท็จจริงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยลักทรัพย์หรือรับของโจรจำเลยปฏิเสธต่อสู้กรรมสิทธิ์ว่าทรัพย์ของกลาง (ราคา 700 บาท)เป็นของจำเลยเมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาว่า ทรัพย์ของกลางเป็นของผู้เสียหาย ให้คืนแก่ผู้เสียหายแม้ศาลชั้นต้นจะลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์และศาลอุทธรณ์กลับว่า จำเลยยังไม่ผิดในทางอาญา ให้ยกฟ้องก็ตาม จำเลยก็จะฎีกาเถียงข้อเท็จจริงว่า ทรัพย์ของกลางเป็นของจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1496/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบข้อเท็จจริงฐานะตัวแทนตัวการ ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ใช่การแก้ไขเอกสารสัญญา
โจทก์ฟ้องขอไล่จำเลยออกจากห้องเช่า โดยอ้างว่าจำเลยอาศัย จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์จำเลยและทายาทคนอื่นต่างเป็นผู้เช่าด้วยกัน เพราะอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ครั้งบิดาเป็นผู้เช่า ครั้นบิดาตายแล้ว ทายาททุกคนต่างก็แสดงเจตนาขอเช่าทุกคน แต่เพื่อความสดวกในการทำสัญญาเช่า จึงให้โจทก์ผู้เดียวเป็นผู้เซ็นสัญญาแทน ดังนี้ จำเลยย่อมนำสืบความจริงได้ เพราะเป็นการสืบความจริงระหว่างตัวแทนตัวการ มิใช่เป็นการสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อความในเอกสารสัญญาเช่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1496/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบข้อเท็จจริงฐานะตัวแทน-ตัวการ ไม่เป็นการแก้ไขเอกสารสัญญาเช่า
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่า โดยอ้างว่าจำเลยอาศัย จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์จำเลยและทายาทคนอื่นต่างเป็นผู้เช่าด้วยกัน เพราะอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ครั้งบิดาเป็นผู้เช่า ครั้นบิดาตายแล้ว ทายาททุกคนต่างก็แสดงเจตนาขอเช่าทุกคน แต่เพื่อความสะดวกในการทำสัญญาเช่า จึงให้โจทก์ผู้เดียวเป็นผู้เซ็นสัญญาแทน ดังนี้จำเลยย่อมนำสืบความจริงได้เพราะเป็นการสืบความจริงระหว่างตัวแทนกับตัวการ มิใช่เป็นการสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อความในเอกสารสัญญาเช่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1463/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีพิพาทสัญชาติ: การฎีกาในข้อเท็จจริงสำหรับคดีสิทธิสภาพบุคคล
ในคดีที่โจทก์ฟ้องศาลขอให้ศาลสั่งแสดงว่าโจทก์มีสัญชาติไทยตามกฎหมาย และกระทรวงมหาดไทยผู้เป็นจำเลยคัดค้านนั้น เป็นคดีที่พิพาทกันว่าโจทก์เป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทยหรือเป็นคนต่างด้าว จึงเป็นคดีที่เกี่ยวด้วยสิทธิแห่งสภาพบุคคล คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1444-1445/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฎีกาของผู้ต้องโทษจำคุก แม้โจทก์อุทธรณ์ขอโทษหนักกว่าเดิม ก็ยังสามารถฎีกาในข้อเท็จจริงเพื่อขอให้ยกฟ้องได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุกจำเลยมีกำหนด 20 ปี จำเลยมิได้อุทธรณ์ คงมีโจทก์อุทธรณ์ขอให้ศาลวางโทษจำเลยโดยไม่ลดฐานปราณีด้วย แม้ศาลอุทธรณ์จะคงพิพากษายืน จำเลยก็มีสิทธิฎีกาในข้อเท็จจริงขอให้ยกฟ้องโจทก์เสียได้ ไม่ต้องห้ามตามกฎหมายแต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1444-1445/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฎีกาจำเลยแม้ศาลอุทธรณ์ยืนตามคำพิพากษาเดิม: จำเลยมีสิทธิฎีกาในข้อเท็จจริงเพื่อขอให้ยกฟ้องได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุกจำเลยมีกำหนด 20 ปี จำเลยมิได้อุทธรณ์คงมีโจทก์อุทธรณ์ขอให้ศาลวางโทษจำเลยโดยไม่ลดฐานปราณีด้วย แม้ศาลอุทธรณ์จะคงพิพากษายืน จำเลยก็มีสิทธิฎีกาในข้อเท็จจริงขอให้ยกฟ้องโจทก์เสียได้ไม่ต้องห้ามตามกฎหมายแต่อย่างใด (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 7/2496)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขคำพิพากษาเล็กน้อยไม่ถึงขนาดฎีกาในข้อเท็จจริง แม้ศาลอุทธรณ์เพิ่มการแสดงกรรมสิทธิในที่ดินและค่าเสียหาย
ฟ้องขอให้ศาลแสดงกรรมสิทธิที่ดิน 2 แปลง คือที่นาและที่สวนราคาแปลงละ 300 บาทและเรียกค่าเสียหาย 420 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ที่สวนเป็นของโจทก์ให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย 30 บาท แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าที่นาก็เป็นของโจทก์ด้วย กับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายอีก 300 บาท ดังนี้ ถือว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อย ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
of 309