คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ศาลฎีกา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,432 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 939/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้คดีและการยกข้อกฎหมายที่ไม่เคยถูกยกขึ้นในชั้นศาลล่าง ศาลฎีกาไม่รับพิจารณา
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้ ในชั้นศาลชั้นต้น จำเลยให้การต่อสู้เพียงว่า จำเลยไม่ได้กู้ โจทก์ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือมาแสดง มิได้ต่อสู้ไว้เลยว่าสัญญากู้ไม่ได้ปิดอากรแสตมป์ และเพิ่งจะมายกขึ้นเป็นข้อฎีกาเท่านั้นไม่รับพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 53/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลักทรัพย์กระบือ: ศาลฎีกายืนโทษฐานลักทรัพย์จากพยานหลักฐานที่แสดงถึงการสมรู้ร่วมคิด
กระบือของผู้เสียหายได้หายไปจากทำเลเลี้ยงเมื่อเวลาราว14.00 น. พยานโจทก์ยืนยันว่า ได้พบจำเลยกับพวกต้อนกระบือของผู้เสียหายไปในวันเกิดเหตุเวลาราว 14.00 น. ซึ่งนับว่าเป็นระยะเวลากระชั้นชิดกับเวลากระบือของผู้เสียหายที่หายไป ดังนี้ การกระทำของจำเลยย่อมเป็นผิดฐานลักทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 435/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์แนวเขตที่ดินโดยวิธีขึงเชือกและทิ้งดิ่ง ศาลฎีกาเห็นชอบด้วยวิธีสอบแนวเขต
ศาลพิพากษาให้โจทก์รื้อหลังคาเรือนโจทก์ที่รุกล้ำเข้าไปในแนวเขตที่ดินของจำเลย ระหว่างหลัก ย.409845 กับ หลัก ย.461688 ในชั้นบังคับคดี ได้ทำการขึงเชือกจากหลัก ย. 409845 ถึงหลักกลางไปยังหลัก ย. 415625 และทิ้งดิ่งจากชายคาเรือนโจทก์ ปรากฏว่า ชายคาเรือนของโจทก์รุกล้ำเข้าไปในแนวเขตที่ดินของจำเลยดังนี้ การที่ศาลสอบด้วยวิธีขึงเชือกและทิ้งดิ่งเป็นการสอบแนวเขตถูกต้อง และชอบตามคำพิพากษาแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 419/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนนัดสืบพยาน: ศาลฎีกาเห็นควรผ่อนผันการตัดพยานเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
นัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกพยานโจทก์ไม่มาศาล โจทก์แถลงว่าไม่ทราบเหตุขัดข้องขอเลื่อนไป ศาลเลื่อนไปสืบพยานโจทก์อีกครั้งหนึ่งครั้นถึงวันนัด พยานโจทก์ก็ไม่มาศาลอีก โจทก์แถลงไม่ทราบเหตุขัดข้องและขอเลื่อนอีกดังนี้ศาลไม่สมควรที่จะตัดพยานโจทก์และพิพากษายกฟ้องเฉพาะคดีนี้มีพฤติการณ์สมควรผ่อนผันให้อีกครั้งหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 367/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสั่งคำร้องเพิ่มเติมคำให้การ และการไม่ยื่นคำแก้อุทธรณ์ทำให้ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คดีที่ศาลชั้นต้นยังไม่ได้สั่งคำร้องขอเพิ่มเติมคำให้การของจำเลยว่าจะรับเป็นคำให้การเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ศาลชั้นต้นชอบที่จะสั่งคำร้องเพิ่มเติมคำให้การนี้เสียก่อน แล้วจึงให้ดำเนินการพิจารณาต่อไปได้
การที่โจทก์โต้แย้งในชั้นฎีกา โดยโจทก์มิได้ยื่นคำแก้อุทธรณ์ถือว่า ไม่ปฏิบัติตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
หากศาลชั้นต้นได้สั่งให้รับคำให้การเพิ่มเติม ย่อมเป็นหน้าที่ของศาลชั้นต้นที่จะสั่งว่า จะให้สืบให้ข้อต่อสู้นั้นหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 300/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสู้คดีเรื่องสัญญาเช่าและการหลอกลวงในการทำสัญญา ศาลฎีกาวินิจฉัยเรื่องการงดสืบพยานและขอบเขตการฎีกา
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่เช่า จำเลยให้การว่า เดิมที่ ๆ เช่ากันเป็นของจำเลย ๆ กู้เงินโจทก์แล้ว จำเลยไม่มีเงินใช้ให้ จำเลยจึงเอาเรือนกับที่ดินจำนองโจทก์ไว้ ต่อมาโจทก์ว่าจำเลยขาดส่งดอกเบี้ย จึงให้จำเลยทำหนังสือสัญญาเช่า จำเลยก็ทำหนังสือสัญญาเช่าให้ ตอนที่โจทก์ขับไล่นี้ จำเลยรู้ว่าที่โจทก์ให้จำเลยจำนองเรือนกับที่ดินนั้น เป็นการหลอกลวงจำเลย ความจริงโจทก์ได้บอกพนักงานเจ้าหน้าที่ว่าจำเลยโอนขายเรือนและที่ดินให้โจทก์ทำให้จำเลยเข้าใจผิดในสาระสำคัญ เป็นการไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ในชั้นพิจารณา จำเลยแถลงรับว่า จำเลยทำหนังสือสัญญาเช่าบ้านโจทก์จริง จะขอสืบพยานเพียงว่า เมื่อครบกำหนดตามสัญญาเช่า 1 ปี แล้ว โจทก์ยอมให้จำเลยอยู่ในบ้านเช่าต่อไป และว่านอกจากนี้จำเลยไม่มีพยานสืบดังนี้จึงเท่ากับว่าจำเลยไม่ขอต่อสู้เรื่องเข้าใจผิดในสาระสำคัญของสัญญาจำนองว่าเป็นสัญญาขาย เมื่อศาลสั่งงดสืบพยานจำเลยในข้อนี้เสียจึงเป็นการชอบด้วยกระบวนพิจารณาแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 285/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลฎีกา: ระยะเวลา 10 ปี เริ่มนับแต่วันมีคำพิพากษา
ศาลพิพากษาห้ามไม่ให้จำเลยเข้าเกี่ยวข้องกับที่พิพาทในกรณีที่จะเป็นการขัดขวางต่อสิทธิของโจทก์ที่จะทำเหมืองแร่ โจทก์ผู้ชนะคดีชอบที่จะร้องขอให้บังคับคดีภายใน 10 ปี นับแต่วันมีคำพิพากษาหรือคำสั่ง(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 285/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลฎีกา: การเริ่มต้นนับอายุความและการขอบังคับคดีเกินกำหนด
ศาลพิพากษาห้ามไม่ให้จำเลยเข้าเกี่ยวข้องกับที่พิพาทในกรณีที่จะเป็นการขัดขวางต่อสิทธิของโจทก์ที่จะทำเหมืองแร่โจทก์ผู้ชนะคดีชอบที่จะร้องขอให้บังคับคดีภายใน 10 ปี นับแต่วันมีคำพิพากษาหรือคำสั่ง (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1336/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นบัญชีรายชื่อพยานหลังสืบพยานฝ่ายจำเลยทำให้จำเลยเสียเปรียบ ศาลฎีกายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
สืบพยานจำเลยซึ่งมีหน้าที่สืบก่อนไปจนเสร็จแล้ว ต่อมาโจทก์จึงมาร้องขอระบุพยาน อ้างว่าพลั้งเผลหลงลืมไม่ได้ตรวจดูสำนวนก่อน โดยเชื่อว่าได้ยื่นไว้ต่อศาลแล้วนั้น ทำให้จำเลยเสียเปรียบในทางคดี ไม่ควรอนุญาต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1217/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลำดับการนำสืบพยานในคดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เดียวกัน ศาลฎีกาเห็นชอบกับลำดับเดิมที่ศาลชั้นต้นสั่ง
คดีอาญามูลกรณีเดียวกัน ซึ่งผู้ว่าคดีฯ ฟ้องโจทก์เป็นจำเลยสำนวนหนึ่งฐานทะเลาะวิวาทกับนายเจียวไซกับพวกในที่สาธารณสถานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 372 แล้ว โจทก์ยื่นฟ้องนายเจียวไซ กับพวกเป็นจำเลยฐานทำร้ายร่างกาย โจทก์ถึงอันตรายตามมาตรา 295 ศาลชั้นต้นสั่งรวมพิจารณาโดยให้ผู้ว่าคดี ฯ ในสำนวนแรกนำสืบก่อน นั้น จะสั่งให้จำเลยในสำนวนหลังซึ่งเป็นพยานของผู้ว่าคดีฯ สำนวนแรกนำสืบในฐานะเป็นจำเลยในสำนวนหลังไปเลยทีเดียว แล้วจึงให้โจทก์คดีนี้นำสืบทีหลังในฐานะเป็นโจทก์คดีนี้และเป็นจำเลยคดีแรกด้วยไม่ได้ไม่ชอบด้วยประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 174
of 344