คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คดีอาญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,111 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 529/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิโจทก์ฟ้องคดีอาญาของบุตรผู้ถูกทำร้ายถึงแก่ความตาย แม้มีสามีแล้ว และประเด็นการพิสูจน์ข้อเท็จจริงในคดีอาญา
บุตรผู้ถูกทำร้ายตายแม้จะมีสามีแล้ว ก็มีสิทธิเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาหรือเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการในคดีที่ฟ้องผู้ที่ทำให้ตายได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 3(2) และมาตรา 5(2) การที่ภรรยาผู้ถูกทำร้ายตายไม่ขอร่วมเป็นโจทก์กับอัยการ ไม่ทำให้สิทธิของบุตรผู้ตายดังกล่าวแล้วเสียไป
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยใช้ปืนยิงและใช้มีดแทงผู้ตายตายแต่ทางพิจารณาได้ความชัดว่าจำเลยใช้มีดแทงผู้ตายอย่างเดียวนั้น ไม่เป็นเหตุพอจะให้ยกฟ้องโจทก์เสียได้ และคดีก็ต้องลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 513/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกันตัวคดีอาญา: นายประกันไม่ต้องรับผิดเมื่อจำเลยถูกควบคุมโดยเจ้าพนักงานตำรวจ
ศาลชั้นต้นกำหนดให้นายประกันส่งตัวจำเลยในคดีอาญาต่อศาลภายในวันที่ 18 พฤศจิกายน แต่จำเลยได้ถูกจับและถูก
ควบคุมโดยอำนาจของเจ้าพนักงานตำรวจเสีย ตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน และได้ถูกควบคุมตลอดมา ซึ่งเป็นเหตุให้ไม่สามารถมาศาลตามกำหนดนัดได้ ดังนี้จะถือว่าจำเลยหลบหนีหาย ซึ่งนายประกันจะต้องรับผิดตามสัญญาประกันไม่ได้ เพราะการที่ศาลเอาตัวจำเลยมาพิจารณาบังคับบัญชาในวันกำหนดนัดไม่ได้นั้น เป็นเพราะถูกเจ้าพนักงานควบคุมอยู่ หาใช่หลบหนีหายไปไหนไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 513/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกันตัวคดีอาญา: นายประกันไม่ต้องรับผิดเมื่อจำเลยถูกควบคุมโดยเจ้าพนักงานตำรวจ
ศาลชั้นต้นกำหนดให้นายประกันส่งตัวจำเลยในคดีอาญาต่อศาลภายในวันที่ 18 พฤศจิกายน แต่จำเลยได้ถูกจับและถูกควบคุมโดยอำนาจของเจ้าพนักงานตำรวจเสียตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน และได้ถูกควบคุมตลอดมา ซึ่งเป็นเหตุให้ไม่สามารถมาศาลตามกำหนดนัดได้ ดังนี้ จะถือว่าจำเลยหลบหนีหายซึ่งนายประกันจะต้องรับผิดตามสัญญาประกันไม่ได้เพราะการที่ศาลเอาตัวจำเลยมาพิจารณาบังคับบัญชาในวันกำหนดนัดไม่ได้นั้น เป็นเพราะถูกเจ้าพนักงานควบคุมอยู่ หาใช่หลบหนีหายไปไหนไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 504/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาพยานหลักฐานในคดีอาญา: วัตถุพยานไม่จำเป็นต้องส่งศาลเสมอไป
ป.วิ.อาญามาตรา 241 มิได้เป็นบทบัญญัติบังคับให้จำต้องนำวัตถุพยานมาส่งศาลเสมอไป ฉะนั้นเมื่อศาลล่างทั้ง 2 ได้พิจารณาพยานบุคคล ประกอบด้วยพยานเอกสารแล้ว ฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาว่าของกลางเป็นฝิ่นแล้ว คู่ความจะฎีกาคัดค้านไม่ได้ ในเมื่อคดีต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 477/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีซ้ำโดยอัยยการคนละคน แม้มีอำนาจฟ้อง แต่เมื่อฟ้องคดีเดิมไปแล้ว ถือเป็นการฟ้องซ้ำมิได้
+พนักงานอัยยการจังหวัด+อธิบดีกรมอัยการ+ตั้งขึ้นเป็นพิเศษฉะเพาะ+โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.พนักงานอัยการ พ.ศ.2478 มาตรา 20(1) +จำเลยหาว่ากระทำ+อาญาไว้ต่อศาล+เกิดเหตุ อัยยการ+ศาลนั้น จะยื่นฟ้อง+นี้ในความผิดฐาน+ซ้ำขึ้นอีกไม่ได้ เพราะ+คดีก่อนและคดีที่+ก็เป็นอัยยการด้วย+ต้องถือว่าเป็นโจทก์+กัน
+ศาลฎีกาตัดสินไม่รับ+ตามศาลล่างเพราะเป็นกรณีที่+ฟ้องซ้ำเข้ามาอีก ศาลฎีกา+จำหน่ายคดีสำหรับจำเลย+รับสำเนาฎีกา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 477/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องซ้ำโดยอัยการคนละคน ศาลฎีกาตัดสินว่ายังถือเป็นการฟ้องซ้ำ
พนักงานอัยการจังหวัดอื่นซึ่งอธิบดีกรมอัยการได้แต่งตั้งขึ้นเป็นพิเศษเฉพาะเรื่อง โดยอาศัยอำนาจตาม พระราชบัญญัติพนักงานอัยการ พ.ศ.2478 มาตรา 20(1) ได้ยื่นฟ้องจำเลยหาว่ากระทำผิดในทางอาญา ไว้ต่อศาลท้องที่ที่เกิดเหตุแล้วอัยการประจำศาลนั้น จะยื่นฟ้องจำเลยคนนี้ในความผิดฐานเดียวกันซ้ำขึ้นอีกไม่ได้ เพราะโจทก์ในคดีก่อนและคดีที่ฟ้องใหม่ก็เป็นอัยการด้วยกัน จึงต้องถือว่าเป็นโจทก์คนเดียวกัน
แม้ศาลฎีกาตัดสินไม่รับฟ้องยืนตามศาลล่างเพราะเป็นกรณีที่โจทก์ยื่นฟ้องซ้ำเข้ามาอีก ศาลฎีกาก็คงให้จำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่ไม่ได้รับสำเนาฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 432/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ของกลางในคดีภาษีสรรพสามิต: พยานหลักฐานต้องชัดเจนและครบถ้วน
ในคดีที่หาว่าจำเลยมีน้ำข้าวหมักส่าเชื้อสุราเถื่อน มีแอลกอฮอล์สามารถดื่มกินได้เช่นเดียวกับน้ำสุรา ไว้ในครอบครองนั้น โจทก์ไม่นำผู้ตรวจพิสูจน์ของกลางมาสืบ แม้แต่รายงานการตรวจและของกลางก็ไม่ได้ส่งศาล คงนำพะยานปากหนึ่งซึ่งไม่ใช่เป็นผู้ตรวจของกลางมาสืบว่า อำเภอได้พิสูจน์ของกลางแล้ว มีดีกรีได้เช่นเดียวกับสุราดังนี้ ยังไม่พอจะชี้ได้ว่าของกลางเป็นน้ำสุราตามบทวิเคราะห์แห่งกฏหมาย คดีจึงลงโทษจำเลยไม่ได้
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามฟ้องและริบของกลาง ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์สืบไม่ได้ว่าของกลางเป็นน้ำสุรา พิพากษายกฟ้อง แต่ของกลางให้ริบ ดังนี้ แม้จำเลยจะไม่ได้ฎีกาในเรื่องริบของกลาง เมื่อคดียังชี้ขาดไม่ได้ว่าของกลางเป็นของผิดกฏหมาย ย่อมสั่งยกเรื่องริบของกลางเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 431/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยข้อเท็จจริงที่ขัดแย้งกันในคดีอาญา: ศาลอุทธรณ์ต้องให้ศาลชั้นต้นสืบพยานเพิ่มเติมก่อนพิพากษา
พยานโจทก์เบิกความถึงวันเกิดเหตุตรงตามฟ้องแต่ว่าต่างกับวันที่ฟ้องไว้ในคดีก่อนไปวันหนึ่งนั้นเพียงเท่านี้จะถือว่าวันเกิดเหตุจริงคือวันที่กล่าวในฟ้องคดีก่อนยังไม่ได้ ถ้าคดีนี้เป็นจริงและคดีมีหลักฐานพอแล้วจำเลยก็ต้องมีผิด
คดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยวินิจฉัยว่าพยานโจทก์เบิกความแตกต่างกันไม่น่าเชื่อนั้น ถือว่าศาลชั้นต้นวินิจฉัยชี้ขาดข้อเท็จจริงแห่งคดีแล้วศาลอุทธรณ์จะพิพากษาให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานแล้วพิพากษาใหม่ไม่ได้
ถ้าศาลอุทธรณ์ประสงค์จะฟังพยานต่อไปจนสิ้นกระแสความเสียก่อนก็ควรให้ศาลชั้นต้นสืบพยานให้แล้วส่งสำนวนคืนให้ศาลอุทธรณ์พิพากษา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 343/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร้องทุกข์ในคดีอาญา: โจทก์บรรยายการร้องทุกข์แล้วจำเลยไม่คัดค้าน ถือว่ามีการร้องทุกข์โดยไม่ต้องสืบ
คดีอาญาที่เป็นความผิดต่อส่วน+นั้น เมื่อโจทก์บรรยายมาใน+แล้วว่า ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ขอให้นำคดีขึ้นว่ากล่าวตามกฏหมายแล้ว ฝ่ายจำเลยก็มิได้คัดค้านร้องทุกข์เช่นนี้ คดีไม่จำเป็นต้องนำสืบถึงการร้องทุกข์ อ้างฎีกาที่ 489/2488 ทั้งทางพิจารณาที่ปรากฏก็ไม่ได้ความว่าคดีไม่มีการร้องทุกข์ ดังนี้จำเลยจะหยิบยกเป็นข้อโต้เถียงชั้นศาลสูงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 343/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาโดยมีการกล่าวอ้างถึงการร้องทุกข์ของผู้เสียหาย จำเลยไม่โต้แย้ง ศาลไม่ต้องสืบการร้องทุกข์
คดีอาญาที่เป็นความผิดต่อส่วนตัวนั้น เมื่อโจทก์บรรยายมาในฟ้องแล้วว่า ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ขอให้นำคดีขึ้นว่ากล่าวตามกฎหมายแล้วฝ่ายจำเลยก็มิได้คัดค้านร้องทุกข์เช่นนี้ คดีไม่จำเป็นต้องนำสืบถึงการร้องทุกข์ อ้างฎีกาที่ 489/2488 ทั้งทางพิจารณาที่ปรากฏ ก็ไม่ได้ความว่าคดีไม่มีการร้องทุกข์ ดังนี้จำเลยจะหยิบยกเป็นข้อโต้เถียงชั้นศาลสูงไม่ได้
of 312