พบผลลัพธ์ทั้งหมด 347 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1329/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบปล้นทรัพย์ทำให้ถึงแก่ความตาย ความรับผิดทางอาญา
จำเลยสมคบกับพวกปล้นทรัพย์ แล้วจับเจ้าทรัพย์มัดตัวให้เดินพาไปส่งระหว่างทางห่างจากที่เกิดเหตุราว 30 เมตร พวกจำเลยคนหนึ่งได้ยิงเจ้าทรัพย์ตาย ย่อมถือได้ว่าในการปล้นนั้นทำให้เขาถึงตายจำเลยจึงมีผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 301 ตอน 3
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1179/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายโดยไม่เจตนาถึงแก่ความตายจากความเข้าใจผิดและฤทธิ์สุรา
จำเลยกับผู้ตายเป็นญาติกันไม่เคยมีอริ รักใคร่สนิทสนมกันดีเหตุที่เกิดทำร้าย เพราะจำเลยเมาสุรา เข้าใจว่าผู้ตายทำร้ายจำเลยก่อน จำเลยแทงผู้ตายครั้งเดียวบาดแผลทุเลาจนลุกเดินได้แล้วจึงกลับทรุดถึงแก่ความตาย หลังจากถูกแทง 15 วัน จำเลยมีผิดฐานคนตายโดยไม่เจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1179/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายโดยไม่ได้เจตนาถึงแก่ความตาย: ความรับผิดทางอาญา
จำเลยกับผู้ตายเป็นญาติกันไม่เคยมีอริ รักใคร่สนิทสนมกันดีเหตุที่เกิดทำร้าย เพราะจำเลยเมาสุรา เข้าใจว่าผู้ตายทำร้ายจำเลยก่อนจำเลยแทงผู้ตายครั้งเดียว บาดแผลทุเลาจนลุกเดินได้แล้วจึงกลับทรุดถึงแก่ความตายหลังจากถูกแทง 15 วัน จำเลยมีผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1079/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: เจตนา, สาเหตุ, และการรักษา
จำเลยไม่มีสาเหตุกับผู้ตาย จำเลยใช้มีดเล็กๆ ยาวขนาด 5 นิ้วหัวแม่มือแทงผู้ตาย 1 ทีในขณะเมา จำเลยไม่เจตนาจะให้ถึงตายหากไปถูกที่สำคัญ ประกอบกับการรักษาพยาบาลไม่ดีพอ ผู้ตายจึงได้ตาย ความผิดจำเลยต้องด้วยกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 251
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 259/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: ป้องกันเกินสมควรแก่เหตุและสมคบคิด
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249 จำคุกคนละ 15 ปี แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้
ว่าจำเลยที่ 2 ยังไม่ผิด จึงให้ยกฟ้อง ส่วนจำเลยที่ 1 คงพิพากษายืน ดังนี้
แม้โจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 อย่างเดียว ส่วนจำเลยที่ 1 ไม่ติดใจฎีกาแล้วก็ตาม เมื่อศาลฎีกาพิจารณาเห็น
ว่า เป็นเรื่องป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ อันเป็นเหตุลักษณะคดีแล้ว ศาลฎีกาย่อมพิพากษาลดโทษจำเลยที่ 1 ฐาน
ป้องกันเกินสมควรแก่เหตุด้วยได้./
ว่าจำเลยที่ 2 ยังไม่ผิด จึงให้ยกฟ้อง ส่วนจำเลยที่ 1 คงพิพากษายืน ดังนี้
แม้โจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 อย่างเดียว ส่วนจำเลยที่ 1 ไม่ติดใจฎีกาแล้วก็ตาม เมื่อศาลฎีกาพิจารณาเห็น
ว่า เป็นเรื่องป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ อันเป็นเหตุลักษณะคดีแล้ว ศาลฎีกาย่อมพิพากษาลดโทษจำเลยที่ 1 ฐาน
ป้องกันเกินสมควรแก่เหตุด้วยได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1213/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิวาททำร้ายร่างกายถึงแก่ความตายและบาดเจ็บ ศาลลงโทษตามการกระทำได้ แม้ฟ้องในข้อหาปล้นทรัพย์ไม่เป็นผล
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยปล้นทรัพย์ และว่าในการปล้นจำเลยได้ใช้สาตราวุธตีและแทงผู้เสียหายคนหนึ่งโดยเจตนาจะฆ่าให้ตาย จนผู้เสียหายคนนั้นตาย และตีและแทงทำร้ายผู้เสียหายอีกคนหนึ่งถึงบาดเจ็บ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 301,249,250 ดังนี้แม้ทางพิจารณาจะได้ความว่าไม่มีการปล้น แต่เป็นเรื่องสมัครใจวิวาทซึ่งกันและกัน จำเลยบางคนแทงอีกฝ่ายหนึ่งถึงบาดเจ็บบ้าง ดังนี้ศาลย่อมมีอำนาจพิพากษาลงโทษจำเลยผู้ที่ทำร้ายเขาถึงตายและบาดเจ็บตามความผิดที่ตนได้กระทำไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1213/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิวาททำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย ศาลลงโทษฐานทำร้ายร่างกายและฆ่าคนตายได้ แม้ไม่มีการปล้น
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยปล้นทรัพย์ และว่าในการปล้นจำเลยได้ใช้สาตราวุธตีและแทงผู้เสียหายคนหนึ่งโดยเจตนาจะฆ่าให้ตาย จนผู้เสียหายคนนั้นตาย และตีและแทงทำร้ายผู้เสียหายอีกคนหนึ่งถึงบาดเจ็บ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 301249250 ดังนี้แม้ทางพิจารณาจะได้ความว่าไม่มีการปล้น แต่เป็นเรื่องสมัครใจวิวาทซึ่งกันและกัน จำเลยบางคนแทงอีกฝ่ายหนึ่งถึงตายบ้าง บางคนแทงอีกฝ่ายหนึ่งถึงบาดเจ็บบ้างดังนี้ศาลย่อมมีอำนาจพิพากษาลงโทษจำเลยผู้ที่ทำร้ายเขาถึงตายและบาดเจ็บตามความผิดที่ตนได้กระทำไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1087/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาข้อเท็จจริง: การต่อสู้สมัครใจและการพิสูจน์ความตายจากเหตุใด
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่าจำเลยและผู้ตายสมัครใจต่อสู้กัน ไม่ใช่เป็นการป้องกัน ฉะนั้นการ ที่จำเลยให้วินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันหรือไม่ จึงเป็นฎีกาในข้อเท็จจริงและที่จำเลย อ้างว่าความตายของผู้ตายไม่ใช่เกิดจากการกระทำของจำเลยโดยตรง แต่ตายเพราะเหตุอื่นนั้น ก็เป็นฎีกาเถียงข้อ เท็จจริงดุจกัน เพราะศาลทั้งสองฟังแล้ว ว่าผู้ตายตายเพราะการกระทำของจำเลย./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1081-1082/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในการทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: การลดโทษจากฆ่าโดยเจตนาเป็นฆ่าโดยไม่เจตนา
ใช้ไม้ตีผู้ตายทีเดียว ไม้ที่ใช้ตีจะมีขนาดเล็กโตเพียงไร ไม่ปรากฎคงได้ความตามพยานโจทก์ว่า เป็นไม้กลมยาว ราวครึ่งแขนประกอบกับสาเหตุก็เล็กน้อย ผู้ตายถึงแก่ความตายในวันรุ่งขึ้น, ดังนี้ ยังไม่พอให้ชี้ขาดได้ถนัดว่าจำ เลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย จำเลยคงมีความผิดเพียงฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 642/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ แม้ผู้ตายเริ่มก่อน แต่การทำร้ายต่อเนื่องจนถึงแก่ความตายถือเกินกว่าเหตุ
ผู้ตายเมาสุราถือมีดขึ้นไปบนเรือนองจำเลย ไปพูดกล่าวหาจำเลยต่าง ๆและพูดส่อแสดงว่าต้องการหาเรื่องชวนวิวาท และพร้อมกันนั้นผู้ตายขยับมีดจะลุกขึ้นประกอบกับผู้ตายมีนิสัยเกกมะเหรก ชอบเสพสุราและชวนวิวาทจึงทำให้เห็นได้ว่าผู้ตายขยับมีดลุกขึ้นจะทำร้ายจำเลยๆจึงใช้มีดฟันผู้ตายไป ดังนี้ ถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัว แต่เมื่อจำเลยฟันผู้ตายครั้งแรกถูกที่หน้าผาก ผู้ตายหงายหลังไปแล้วจำเลยยังฟันผู้ตายอีกถึง 4 ครั้ง เป็นแผลฉกรรจ์ผู้ตายถึงแก่ความตายทันที เช่นนี้ ต้องถือว่า เป็นการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ