พบผลลัพธ์ทั้งหมด 337 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1543/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายจากข้อหาเบียดบังทรัพย์สิน: ไม่เชื่อมโยงความผิดทางอาญา
ฟ้องระบุถึงตำแหน่งหน้าที่จำเลยในทางราชการและกล่าวว่า จำเลยได้ยักยอกเงินไปโดยนำเงินส่งคลังไม่ครบจำนวน ขอให้จำเลยใช้เงินจำนวนที่ส่งไม่ครบ ดังนี้ ยังไม่พอให้ถือว่าเป็นฟ้องกันเกี่ยวเนื่องจากความผิดทางอาญา เพราะในการที่จำเลยนำเงินส่งไม่ครบ อาจเป็นด้วยความพลั้งเผลอหรือหลงลืม ซึ่งมิใช่เป็นความผิดทางอาญา ฉะนั้นคดีจึงไม่เข้าอยู่ใน ป.ม.วิ. อาญามาตรา 51 และจะยกอายุความตาม ก.ม.ลักษณะอาญา มาตรา 78 มาปรับมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1543/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการยักยอกเงิน: ความผิดทางอาญาต้องมีเจตนา
ฟ้องระบุถึงตำแหน่งหน้าที่จำเลยในทางราชการ และกล่าวว่า จำเลยได้ยักยอกเงินไปโดยนำเงินส่งคลังไม่ครบจำนวนขอให้จำเลยใช้เงินจำนวนที่ส่งไม่ครบ ดังนี้ ยังไม่พอให้ถือว่าเป็นฟ้องอันเกี่ยวเนื่องจากความผิดทางอาญา เพราะในการที่จำเลยนำเงินส่งไม่ครบ อาจเป็นด้วยความพลั้งเผลอหรือหลงลืมซึ่งมิใช่เป็นความผิดทางอาญา ฉะนั้นคดีจึงไม่เข้าอยู่ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 51 และจะยกอายุความตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 78 มาปรับมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 484/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางแพ่งแยกจากความผิดทางอาญา แม้ไม่มีความผิดอาญา ก็ยังต้องชดใช้ค่าเสียหายได้
ในคดีที่โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยลักทรัพย์ ขอให้ลงโทษทางอาญา และให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ด้วยนั้นแม้ศาลจะฟังว่า จำเลยเอาทรัพย์ไปจริงแต่มิได้เจตนาลักยังไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์ก็ดี ศาลก็พิพากษาให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่จำเลยเอาไปให้แก่โจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 365/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จ - ความรู้ผิดทางอาญา - ข้อความขัดแย้งในตัว - ไม่ต้องระบุเจตนา
คำฟ้องที่กล่าวหาว่าจำเลยแจ้งความเท็จนั้นแม้จะไม่ได้บรรยายระบุคำว่า "จำเลยรู้อยู่ว่าเป็นความเท็จ" แต่เมื่อข้อความที่บรรยายในฟ้องนั้นได้ความแสดงขัดอยู่ในตัวแล้วว่า จำเลยรู้อยู่ว่าข้อความที่แจ้งมานั้นเป็นความเท็จก็เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ครบองค์ความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 118 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 397/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ความเป็นเจ้าของที่ดินก่อนพิจารณาความผิดฐานลักตัดไม้ ศาลต้องเปิดโอกาสสืบพยาน
คดีอาญาที่โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยสมคบกันลักตัดฟันต้นไม้ในที่ดินของโจทก์ เมื่อได้ความเพียงว่า ที่ดินนั้นโจทก์จำเลยได้เคยนำเจ้าพนักงานรังวัดเถียงสิทธิครอบครองกันอยู่ดังนี้ ศาลไม่ควรงดสืบพยานโจทก์ โดยเห็นไปว่าเป็นคดีแพ่ง ควรให้โอกาสโจทก์สืบให้สมฟ้องเพราะอาจเป็นความผิดทางอาญาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1556/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดกรรโชกทางวาจา และดุลยพินิจการนับโทษต่อ
ความผิดฐานกรรโชกตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 303 นั้น แสดงอยู่ชัดว่า ใช้วาจาขู่เข็ญก็เป็นความผิดเช่นเดียวกับการใช้กำลังข่มขืน
จำเลยพูดขู่ว่าถ้าไม่ให้เงินก็จะต้องถูกส่งตัวไปขังที่สันติบาล ดังนี้เป็นการพูดขู่เข็ญขืนใจตามมาตรา 303 แล้ว
การนับโทษจำเลยนั้นอยู่ในดุลยพินิจของศาลที่จะสั่งกำหนดตามที่เห็นสมควรตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 32 จึงเป็นปัญหาในข้อเท็จจริง เมื่อศาลล่าง 2 ศาลใช้ดุลยพินิจไม่นับโทษจำเลยต่อจากคดีหนึ่งตามที่โจทก์ขอในคดีที่ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงโจทก์ก็จะฎีกาขอ ให้นับโทษต่ออีกไม่ได้
จำเลยพูดขู่ว่าถ้าไม่ให้เงินก็จะต้องถูกส่งตัวไปขังที่สันติบาล ดังนี้เป็นการพูดขู่เข็ญขืนใจตามมาตรา 303 แล้ว
การนับโทษจำเลยนั้นอยู่ในดุลยพินิจของศาลที่จะสั่งกำหนดตามที่เห็นสมควรตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 32 จึงเป็นปัญหาในข้อเท็จจริง เมื่อศาลล่าง 2 ศาลใช้ดุลยพินิจไม่นับโทษจำเลยต่อจากคดีหนึ่งตามที่โจทก์ขอในคดีที่ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงโจทก์ก็จะฎีกาขอ ให้นับโทษต่ออีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1390/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำผิดฐานฆ่าคนตายจากการถูกยั่วโทสะ ไม่เข้าข่ายป้องกันตัว
พบภรรยากำลังทำชู้กับชายอื่นในอยู่ในห้อง จึงพังประตูเข้าไปชู้วิ่งหนีลงเรือนไปได้ จำเลยใช้ปืนยิงชู้จนหมดกระสุนถึง 5 นัด แล้วยังเอามีดฟันภรรยาของตนอีกอย่างไม่ไว้ชีวิต มีบาดแผลถึง 9 แผลถึงแก่ความตายทันที ดังนี้ไม่เรียกว่าเป็นการกระทำโดยป้องกันตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 50 แต่เรียกได้ว่ากระทำโดยถูกยั่วโทษะตามมาตรา 55
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 908/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำด่า vs. คำใส่ความ: การพิจารณาความผิดทางอาญาตามบริบทและอารมณ์ขณะกระทำ
คำด่าและคำใส่ความนั้นต่างกัน ซึ่งจะต้องพิจารณาตามถ้อยคำที่กล่าวทั้งหมดรวมกันประกอบกับพฤตติการณ์แวดล้อมว่าเป็นคำด่าหรือคำใส่ความ
จำเลยได้ทะเลาะกับเจ้าทุกข์แล้วด่ากันไปด่ากันมาได้เนื้อความว่า "มึงมีลูกสาว (หมายถึงนางละมัย) ก็เที่ยวให้เขาเย็ด มีลูกก็ไม่มีพ่อ มียังไม่รู้อีกหรือว่า ลูกมึงดอกทองแล้ว หากจะได้แหวนเพ็ชร ก็ให้เขาเย็ดแลกกับแหวน เดี๋ยวนี้ไปให้เขาเย็ดได้เข็มขัดนาคมาอีกเส้นหนึ่งแล้ว" ดังนี้ เป็นคำด่าที่เกิดขึ้นในขณะจำเลยมีโทษะจริตไม่ใช่คำใส่ความ ไม่มีผิดตามมาตรา 282.
จำเลยได้ทะเลาะกับเจ้าทุกข์แล้วด่ากันไปด่ากันมาได้เนื้อความว่า "มึงมีลูกสาว (หมายถึงนางละมัย) ก็เที่ยวให้เขาเย็ด มีลูกก็ไม่มีพ่อ มียังไม่รู้อีกหรือว่า ลูกมึงดอกทองแล้ว หากจะได้แหวนเพ็ชร ก็ให้เขาเย็ดแลกกับแหวน เดี๋ยวนี้ไปให้เขาเย็ดได้เข็มขัดนาคมาอีกเส้นหนึ่งแล้ว" ดังนี้ เป็นคำด่าที่เกิดขึ้นในขณะจำเลยมีโทษะจริตไม่ใช่คำใส่ความ ไม่มีผิดตามมาตรา 282.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 908/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำด่า vs. คำใส่ความ: การพิจารณาบริบทและโทสะจริตในการประเมินความผิดทางอาญา
คำด่าและคำใส่ความนั้นต่างกัน ซึ่งจะต้องพิจารณาตามถ้อยคำที่กล่าวทั้งหมดรวมกันประกอบกับพฤติการณ์แวดล้อมว่าเป็นคำด่าหรือคำใส่ความ
จำเลยได้ทะเลาะกับเจ้าทุกข์แล้วด่ากันไปด่ากันมาได้เนื้อความว่า'มึงมีลูกสาว(หมายถึงนางละมัย)ก็เที่ยวให้เขาเย็ด มีลูกก็ไม่มีพ่อ มึงยังไม่รู้อีกหรือว่าลูกมึงดอกทองแล้ว หากจะได้แหวนเพชร ก็ให้เขาเย็ดแลกกับแหวน เดี๋ยวนี้ไปให้เขาเย็ดได้เข็มขัดนาคมาอีกเส้นหนึ่งแล้ว' ดังนี้ เป็นคำด่าที่เกิดขึ้นในขณะจำเลยมิโทสะจริต ไม่ใช่คำใส่ความ ไม่มีผิดตามมาตรา 282
จำเลยได้ทะเลาะกับเจ้าทุกข์แล้วด่ากันไปด่ากันมาได้เนื้อความว่า'มึงมีลูกสาว(หมายถึงนางละมัย)ก็เที่ยวให้เขาเย็ด มีลูกก็ไม่มีพ่อ มึงยังไม่รู้อีกหรือว่าลูกมึงดอกทองแล้ว หากจะได้แหวนเพชร ก็ให้เขาเย็ดแลกกับแหวน เดี๋ยวนี้ไปให้เขาเย็ดได้เข็มขัดนาคมาอีกเส้นหนึ่งแล้ว' ดังนี้ เป็นคำด่าที่เกิดขึ้นในขณะจำเลยมิโทสะจริต ไม่ใช่คำใส่ความ ไม่มีผิดตามมาตรา 282
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 728/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานสมคบเพื่อการค้าประเวณีโดยไม่จำกัดอายุผู้เสียหาย
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยได้สมคบกันเพื่อให้สำเร็จความใคร่ของผู้อื่นจำเลยได้ใช้อุบายทุจริตล่อลวงเป็นธุระจัดหา ล่อ และชักพานางสาวสวิงอายุ 19 ปีไปเพื่อการอนาจาร ดังนี้ การกระทำของจำเลย ควรมีความผิดตามบทบัญญัติแห่ง พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายลักษณะอาญา พ.ศ.2474 มาตรา 3 ตอนท้าย ซึ่งหาได้กำหนดอายุของหญิงเจ้าทุกข์ไว้ด้วยไม่