คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ค่าจ้าง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 877 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2263/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมเมื่อลูกจ้างหยุดงานตามคำสั่งนายจ้าง และมีสิทธิได้รับค่าชดเชยและค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า
โจทก์เป็นลูกจ้างจำเลยทำหน้าที่ขับรถยนต์โจทก์ถูกเจ้าพนักงานตำรวจยึดใบอนุญาตขับขี่รถยนต์เพราะปฏิบัติผิดกฎจราจรต่อมาหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยกล่าวแก่โจทก์ว่าหากไม่มีใบอนุญาตขับขี่ก็ไม่ต้องมาทำงานโจทก์จึงหยุดงานไปตั้งแต่วันที่5ถึง16เดือนนั้นโดยไม่มีการยื่นใบลาเช่นนี้การที่โจทก์ทำหน้าที่ขับรถยนต์เมื่อส.ซึ่งเป็นนายจ้างกล่าวว่าหากไม่มีใบอนุญาตขับขี่ก็ไม่ต้องมาทำงานนั้นย่อมทำให้โจทก์เข้าใจว่านายจ้างสั่งให้โจทก์หยุดงานการทำงานไว้ก่อนจนกว่าจะได้ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์กลับคืนมาเพราะไม่ปรากฏว่าจำเลยมีระเบียบข้อบังคับว่าผู้มีหน้าที่ขับรถยนต์จะต้องมาปฏิบัติหน้าที่อื่นในกรณีเช่นนี้ด้วยการที่โจทก์ไม่ได้มาทำงานในระหว่างวันดังกล่าวจึงมิใช่เป็นการละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุอันสมควรการที่จำเลยเลิกจ้างโจทก์จึงเป็นการเลิกจ้างโดยมิได้มีความผิดต้องจ่ายค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา582ให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1467/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความค่าจ้าง, การรับผิดส่วนตัวจากการจ้าง, และการชำระหนี้บางส่วนทำให้อายุความสะดุดหยุดลง
จำเลยที่2ให้การปฏิเสธฟ้องโจทก์ว่าจำเลยที่1และที่2ไม่ได้ว่าจ้างให้โจทก์ทำงานตกแต่งห้องชุดมิได้ให้การว่าโจทก์มิได้ทำงานให้ตามรายการหนึ่งรายการใดคดีจึงไม่มีประเด็นข้อพิพาทว่าโจทก์ทำงานครบถ้วนตามรายการหรือไม่การที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยในประเด็นข้อนี้เพราะไม่ใช่ข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาโดยชอบในศาลชั้นต้นจึงชอบแล้ว จำเลยที่2มิได้เป็นกรรมการผู้มีอำนาจทำการแทนจำเลยที่1ในขณะทำสัญญาว่าจ้างโจทก์จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่2จ้างโจทก์ในนามของจำเลยที่1จึงผูกพันจำเลยที่2เป็นส่วนตัวดังนั้นการที่ศาลพิพากษาให้จำเลยที่2รับผิดเป็นส่วนตัวจึงไม่เป็นการพิพากษานอกประเด็นเพราะฟ้องของโจทก์กล่าวอ้างว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันว่าจ้างโจทก์ สิทธิเรียกร้องค่าจ้างอายุความ2ปีโดยเริ่มนับตั้งแต่วันที่โจทก์ทำงานแล้วเสร็จและส่งมอบงานในกำหนดการที่จำเลยที่2ชำระค่าจ้างบางส่วนให้แก่โจทก์ภายในกำหนดอายุความจึงเป็นเหตุให้ อายุความสะดุดหยุดลงและ เริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่วันดังกล่าวเมื่อวันครบกำหนดอายุความเป็น วันหยุดราชการ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องคดีในวันที่เริ่มทำงานใหม่ดังนั้นคดีจึงหาขาดอายุความไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 134/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมแพ้คดีจากการท้าทายข้อเท็จจริงและผลกระทบต่อค่าจ้าง
คู่ความท้ากันขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดข้อเท็จจริงเพียงประเด็นเดียวเป็นข้อแพ้ชนะกันว่า โจทก์กล่าววาจาข่มขู่ ดูหมิ่นท้าทาย กระด้างกระเดื่องไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาจริงหรือไม่ หากเป็นความจริงโจทก์ยอมแพ้ โดยไม่มีข้อความในคำท้ายกเว้นไว้ว่าจำเลยยังคงต้องจ่ายค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีแก่โจทก์ด้วย เมื่อศาลแรงงานวินิจฉัยฟังว่าโจทก์กล่าววาจาข่มขู่ ดูหมิ่นท้าทายผู้บังคับบัญชาจริง โจทก์จึงต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีตามคำท้า จำเลยไม่จำต้องชำระเงินจำนวนใด ๆ ตามฟ้องแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 903/2537 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหักเงินค่าปรับจากค่าจ้างและการไม่เกิดดอกเบี้ยเมื่อศาลลดค่าปรับ
จำเลยปรับโจทก์ตามสัญญาจ้างโดยหักเงินค่าปรับไว้จากเงินค่าจ้างเมื่อศาลพิพากษาลดค่าปรับลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 วรรคแรก ให้จำเลยคืนเงินค่าปรับบางส่วนแก่โจทก์ โจทก์หามีสิทธิได้ดอกเบี้ยจากเงิน ค่าปรับที่ได้รับคืนนั้นไม่ เพราะการที่จำเลยหักเงินค่าปรับไว้ เป็นการใช้สิทธิตามสัญญาจ้าง ซึ่งเป็นสิทธิโดยชอบที่ จำเลยจะกล่าวอ้างได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7370/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับเงินแทนและการเป็นตัวแทนโดยปริยาย อำนาจฟ้องเรียกค่าจ้าง
จำเลยรับเงินค่าจ้างของลูกจ้างโจทก์ 3 คน ไว้โดยคนทั้งสามยินยอมให้จำเลยรับแทน จำเลยย่อมได้ชื่อว่าเป็นตัวแทนโดยปริยายของลูกจ้างโจทก์ทั้งสามคนดังกล่าวตาม ป.พ.พ. มาตรา 797 วรรคสอง การที่จำเลยจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่คนทั้งสามน้อยกว่าจำนวนที่จำเลยรับจากโจทก์ไว้แทนคนทั้งสาม ก็เป็นเรื่องที่คนทั้งสามจะว่ากล่าวเอาแก่จำเลยโดยตรง โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเรียกเงินค่าจ้างของคนทั้งสามในส่วนที่จำเลยรับไว้จากโจทก์แล้วไม่จ่ายให้แก่คนทั้งสามคืนจากจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7287/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าอาหารและค่าบริการ: การพิจารณาว่าเป็นค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน
นายจ้างจัดอาหารให้แก่ลูกจ้างที่มาทำงานกะละ 2 มื้อ โดยคิดค่าอาหารเดือนละ 900 บาท หักค่าอาหารดังกล่าวจากเงินเดือนของลูกจ้างในวันจ่ายเงิน การจัดอาหารให้ลูกจ้างรับประทานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือการครองชีพของลูกจ้างซึ่งมาทำงานในแต่ละกะ มีลักษณะเป็นการให้สวัสดิการอย่างหนึ่ง มิใช่จ่ายให้แก่ลูกจ้างเพื่อตอบแทนการทำงานของลูกจ้าง ค่าอาหารดังกล่าวไม่ใช่ค่าจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำ ข้อ 2
เงินค่าบริการเป็นเงินที่นายจ้างได้มาโดยวิธีเรียกเก็บจากลูกค้าที่มาใช้บริการของนายจ้าง แล้วนำเงินดังกล่าวเก็บรวบรวมไว้ ถือได้ว่าเป็นเงินของนายจ้างเอง ถึงวันที่ 15 ของเดือนถัดไปจึงนำมาเฉลี่ยจ่ายให้แก่ลูกจ้างเป็นประจำทุกเดือนไป ทั้งมีคำรับรองว่าต้องไม่ต่ำกว่าเดือนละ 550 บาท หากน้อยกว่านายจ้างจะจ่ายให้ครบ การที่มีการหักเงินค่าบริการตามวันที่ลูกจ้างเข้าทำงาน เดือนใดวันทำงานไม่ครบตามกำหนดเวลาทำงาน นายจ้างก็จะหักค่าบริการบางส่วนออกนั้น ก็เป็นเช่นเดียวกับค่าจ้างทั่วไป ถือได้ว่าเป็นการจ่ายเป็นประจำและเงินที่จ่ายมีจำนวนแน่นอน เป็นการตอบแทนการทำงานในเวลาปกติของวันทำงาน ค่าบริการดังกล่าวจึงเป็นค่าจ้างตามความหมายของประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7003/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความการเรียกร้องค่าจ้างตามสัญญาจ้างเหมา
โจทก์ซึ่งเป็นพ่อค้าฟ้องเรียกเงินค่าจ้างหรือสินจ้าง อันจะพึงได้รับจากการงานที่ทำให้จำเลยตามสัญญาจ้างเหมา โจทก์ต้องใช้สิทธิเรียกร้องภายในกำหนดอายุความ 2 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 165 (1) เดิม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7003/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเรียกค่าจ้างจากสัญญาจ้างเหมา: การคำนวณระยะเวลาเริ่มต้นจากวันที่ส่งมอบงานแต่ละงวด
โจทก์ซึ่งเป็นพ่อค้าฟ้องเรียกเงินค่าจ้างหรือสินจ้าง อันจะพึงได้รับจากการงานที่ทำให้จำเลยตามสัญญาจ้างเหมา โจทก์ต้องใช้สิทธิเรียกร้องภายในกำหนดอายุความ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) เดิม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5959/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงเวลาทำงานไม่ตรงกับความเป็นจริง ไม่ถือเป็นการทุจริตหรือฝ่าฝืนระเบียบร้ายแรง หากนายจ้างไม่ถือเป็นสาระสำคัญและไม่หักค่าจ้าง
การพิจารณาว่าการกระทำของลูกจ้างทุจริตต่อหน้าที่และเป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานในกรณีร้ายแรงหรือไม่ต้องพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่คู่กรณีปฏิบัติต่อกันเป็นเรื่อง ๆ ไป โจทก์ต้องมาทำงานระหว่างเวลา 8 นาฬิกา ถึง 17 นาฬิกา การที่โจทก์ลงเวลาทำงานว่าโจทก์มาทำงานและเลิกงานตามเวลาโดยมีนายท่ารถยนต์โดยสารที่โจทก์ทำงานอยู่นั้นลงชื่อกำกับความถูกต้องทุกวันแสดงว่าจำเลยไม่ได้ถือว่าการลงเวลาทำงานและเลิกงานเป็นสาระสำคัญทั้งไม่ปรากฏว่าโจทก์ถูกหักค่าจ้างจากการที่มาทำงานสายและเลิกงานก่อนเวลา จึงมิใช่เป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานในกรณีร้ายแรงและไม่ถือว่าเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 51/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสัมพันธ์นายจ้างลูกจ้าง: การพิจารณาจากอำนาจควบคุมและค่าจ้างตามผลงาน
โจทก์มีเวลาทำงานปกติ จำเลยที่ 1 มีอำนาจสั่งการและบังคับบัญชาให้โจทก์ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน กำหนดเวลาทำงานและตรวจสอบเวลาทำงานของโจทก์กับมีอำนาจหักรายได้ของโจทก์ในกรณีที่โจทก์ขาดงานหรือมาทำงานสายเงินรายได้จากการแต่งผมที่จ่ายให้โจทก์ก็คำนวณตามผลงานที่โจทก์ทำได้ ความสัมพันธ์ระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ดังกล่าว ถือได้ว่าโจทก์ทำงานให้แก่จำเลยที่ 1 เพื่อรับค่าจ้างโดยคำนวณตามผลงานที่โจทก์ทำได้จึงฟังได้ว่าโจทก์เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 1 มีสิทธิเรียกค่าชดเชยจากจำเลยทั้งสอง
of 88