พบผลลัพธ์ทั้งหมด 351 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 463/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทเลินเล่อของทั้งสองฝ่าย ศาลกำหนดค่าสินไหมทดแทนตามส่วนแห่งความยิ่งหย่อน
เมื่อความเสียหายเกิดขึ้นโดยความประมาทเลินเล่อของโจทก์จำเลยด้วยกันทั้งสองฝ่าย กฎหมายให้ศาลกำหนดค่าสินไหนทดแทนสูงค่ำตามส่วนแห่งความยิ่งหย่อนของผู้มีส่วนก่อให้เกิดความเสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 463/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งความรับผิดในกรณีความประมาทเลินเล่อของทั้งสองฝ่าย ศาลพิจารณาพฤติการณ์เพื่อกำหนดค่าสินไหมทดแทนตามส่วนแห่งความยิ่งหย่อน
เมื่อความเสียหายเกิดขึ้นโดยความประมาทเลินเล่อของโจทก์จำเลยด้วยกันทั้งสองฝ่าย กฎหมายให้ศาลกำหนดค่าสินไหมทดแทนสูงต่ำตามส่วนแห่งความยิ่งหย่อนของผู้มีส่วนก่อให้เกิดความเสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1006/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ค่าสินไหมทดแทนโดยบริษัทประกันภัยและการรับช่วงสิทธิเรียกร้องจากผู้ทำละเมิด
เจ้าของรถยนต์ที่ถูกรถจำเลยชน ได้เอารถประกันภัยไว้กับบริษัทโจทก์ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อรับประกันวินาศภัย บริษัทโจทก์ได้เอารถยนต์ที่ถูกรถจำเลยชนเสียหายไปให้อู่ซ่อมเสร็จ และมอบรถให้เจ้าของรับไปเรียบร้อยแล้ว บริษัทโจทก์ก็ต้องมีความผูกพันที่จะต้องใช้ราคาค่าซ่อมให้แก่อู่ผู้ทำการซ่อมตามจำนวนเงินที่ตกลงกันไว้ เช่นนี้ นับว่าบริษัท โจทก์ได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนไปแล้วตามจำนวนเงินราคาค่าจ้างที่ได้ตกลงไว้กับอู่ผู้ทำการซ่อม บริษัทโจทก์ย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของเจ้าของรถที่ถูกชนซึ่งมีต่อจำเลย บริษัทโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 880 วรรค 1
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 292/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าสินไหมทดแทนการขาดอุปการะและการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์: ขอบเขตการเรียกร้อง
โจทก์ไม่ได้เสียค่าขึ้นศาลที่ให้จำเลยจ่ายมีระยะเวลาในอนาคตในศาลชั้นต้น แต่ศาลชั้นต้นก็ได้วินิจฉัยข้อเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนในอนาคตให้ในชั้นอุทธรณ์ฎีกาได้มีการปิดแสตมป์ไว้แล้วฎีกาของโจทก์ก็ขอปิดและได้ย้อนปิดเพิ่มเติมสำหรับศาลชั้นต้นไว้ครบถ้วนเหมือนกันศาลฎีกาก็มีอำนาจวินิจฉัยคำขอในอนาคตของโจทก์ได้
ในกรณีขับรถยนต์ชนคนตายบิดาของผู้ตายย่อมได้รับค่าสินไหมทดแทนการขาดไร้อุปการะจากผู้ทำละเมิด ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 443 วรรคสาม
การสูญเสียบุตรถูกรถยนต์ชนตายนั้น ไม่ต้องด้วยค่าสินไหมทดแทนลักษณะใดในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บิดาเรียกร้องไม่ได้
ในกรณีขับรถยนต์ชนคนตายบิดาของผู้ตายย่อมได้รับค่าสินไหมทดแทนการขาดไร้อุปการะจากผู้ทำละเมิด ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 443 วรรคสาม
การสูญเสียบุตรถูกรถยนต์ชนตายนั้น ไม่ต้องด้วยค่าสินไหมทดแทนลักษณะใดในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บิดาเรียกร้องไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 634/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าสินไหมทดแทนการขาดอุปการะจากกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์
จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 ขับรถโดยประมาททำให้ภริยาโจทก์ตายนั้น ถือได้ว่าการที่ภริยาโจทก์ตายลงนั้นทำให้โจทก์ผู้เป็นสามีต้องขาดไร้อุปการะตามกฎหมาย โจทก์ชอบที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้นตาม ป.พ.พ.มาตรา 443,1453 เช่น ค่าจ้างคนปฏิบัติโจทก์แทนผู้ตายระหว่างที่โจทก์อยู่โรงพยาบาลและค่าขาดการปฏิบัติอุปการะของผู้ตายต่อโจทก์ตลอดกาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 634/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าสินไหมทดแทนการขาดอุปการะจากคู่สมรสเสียชีวิต กรณีขับรถประมาท
จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 ขับรถโดยประมาททำให้ภริยาโจทก์ตายนั้น ถือได้ว่าการที่ภริยาโจทก์ตายลงนั้นทำให้โจทก์ผู้เป็นสามีต้องขาดไร้อุปการะตามกฎหมาย โจทก์ชอบที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้นตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 443,1453 เช่น ค่าจ้างคนปฏิบัติโจทก์แทนผู้ตายระหว่างที่โจทก์อยู่โรงพยาบาลและค่าขาดการปฏิบัติอุปการะของผู้ตายต่อโจทก์ตลอดกาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 358/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประกันภัยรถยนต์: การซ่อมแซมไม่สมบูรณ์ ผู้รับประกันต้องรับรถและชำระค่าสินไหมทดแทน
รับประกันภัยรถยนต์แบบประกันสิ้นเชิง โดยตีราคาไว้เป็นเงินจำนวนหนึ่งเมื่อรถยนต์ประสพอุปัทวเหตุเสียหายยับเยินไม่อาจซ่อมให้คืนใช้การได้ดีดังเดิมผู้รับประกันต้องรับเอารถไว้ และใช้ราคาตามจำนวนเงินที่เอาประกันไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1078/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าปรับในสัญญาซื้อขายคือค่าสินไหมทดแทนที่ตกลงกันไว้ การผัดผ่อนการใช้สิทธิไม่ทำให้สิทธิเรียกร้องค่าปรับหมดไป
ข้อตกลงที่เรียกกันว่า"ค่าปรับ"เมื่อผิดสัญญานั้น ก็คือค่าสินไหมทดแทนที่กำหนดกันไว้ล่วงหน้านั่นเอง
ข้อความในสัญญามีความว่า "ฯลฯหากปรากฏว่าผู้ขายไม่ส่งมอบไม้ให้กับผู้ซื้อให้ครบภายในเวลาดังกล่าวข้างต้นผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาทันทีฯลฯ" นั้นหมายความว่าเป็นความตกลงให้ผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเท่านั้น หาใช่เป็นบทบังคับว่าผู้ซื้อจะต้องใช้สิทธิ ทันทีจึงจะได้ค่าปรับไม่ การที่ผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาแต่ยังไม่ใช้สิทธินั้น ผ่อนผันให้ผู้ขายได้แก้ตัวโดยเห็นใจผู้ขายต่อมาโดยความขอร้องของผู้ขายนั้น หาทำให้ผู้ซื้อหมดสิทธิเรียกค่าปรับในที่สุดอย่างใดไม่
การที่บริษัทอันเป็นนิติบุคคลจะทำนิติกรรมใดนั้นอาจกระทำได้โดยผู้แทนของบริษัท คือกรรมการลงชื่อตามจำนวนและประทับตราตามข้อบังคับของบริษัทนิติบุคคล แต่บริษัทนิติบุคคลก็ย่อมมีตัวแทนหรือเชิดให้ผู้อื่นเป็นตัวแทนไปกระทำนิติกรรมอันผูกพันบริษัทได้เหมือนกัน
ฉะนั้นแม้ข้อบังคับของบริษัทจะมีว่ากรรมการต้องลงนาม 2 คน จึงจะทำการแทนบริษัทได้ แต่เมื่อกรรมการผู้จัดการเพียงคนเดียวไปลงลายมือชื่อลงในสัญญาและประทับตราของบริษัทกำกับไว้ อันจะเถียงไม่ได้ว่าได้ทำในฐานะตัวแทนของบริษัท และบริษัทก็ได้รับเอาผลของนิติกรรมนั้นตลอดมาด้วย ดังนี้บริษัทจะปฏิเสธความรับผิด เมื่อถึงคราวจะต้องรับผิดหาได้ไม่
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 381 วรรค 3 ที่มีข้อความว่า "ถ้าเจ้าหนี้ยอมรับชำระหนี้แล้ว จะเรียกเอาเบี้ยปรับได้ต่อเมื่อได้บอกสงวนสิทธิไว้เช่นนั้น" นี้หมายความว่าลูกหนี้ได้ชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้โดยสิ้นเชิงแล้ว ถ้าลูกหนี้ยังชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ไม่ครบจำนวน กรณีก็ยังไม่เข้ามาตรา 381 วรรค 3
ข้อความในสัญญามีความว่า "ฯลฯหากปรากฏว่าผู้ขายไม่ส่งมอบไม้ให้กับผู้ซื้อให้ครบภายในเวลาดังกล่าวข้างต้นผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาทันทีฯลฯ" นั้นหมายความว่าเป็นความตกลงให้ผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเท่านั้น หาใช่เป็นบทบังคับว่าผู้ซื้อจะต้องใช้สิทธิ ทันทีจึงจะได้ค่าปรับไม่ การที่ผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาแต่ยังไม่ใช้สิทธินั้น ผ่อนผันให้ผู้ขายได้แก้ตัวโดยเห็นใจผู้ขายต่อมาโดยความขอร้องของผู้ขายนั้น หาทำให้ผู้ซื้อหมดสิทธิเรียกค่าปรับในที่สุดอย่างใดไม่
การที่บริษัทอันเป็นนิติบุคคลจะทำนิติกรรมใดนั้นอาจกระทำได้โดยผู้แทนของบริษัท คือกรรมการลงชื่อตามจำนวนและประทับตราตามข้อบังคับของบริษัทนิติบุคคล แต่บริษัทนิติบุคคลก็ย่อมมีตัวแทนหรือเชิดให้ผู้อื่นเป็นตัวแทนไปกระทำนิติกรรมอันผูกพันบริษัทได้เหมือนกัน
ฉะนั้นแม้ข้อบังคับของบริษัทจะมีว่ากรรมการต้องลงนาม 2 คน จึงจะทำการแทนบริษัทได้ แต่เมื่อกรรมการผู้จัดการเพียงคนเดียวไปลงลายมือชื่อลงในสัญญาและประทับตราของบริษัทกำกับไว้ อันจะเถียงไม่ได้ว่าได้ทำในฐานะตัวแทนของบริษัท และบริษัทก็ได้รับเอาผลของนิติกรรมนั้นตลอดมาด้วย ดังนี้บริษัทจะปฏิเสธความรับผิด เมื่อถึงคราวจะต้องรับผิดหาได้ไม่
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 381 วรรค 3 ที่มีข้อความว่า "ถ้าเจ้าหนี้ยอมรับชำระหนี้แล้ว จะเรียกเอาเบี้ยปรับได้ต่อเมื่อได้บอกสงวนสิทธิไว้เช่นนั้น" นี้หมายความว่าลูกหนี้ได้ชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้โดยสิ้นเชิงแล้ว ถ้าลูกหนี้ยังชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ไม่ครบจำนวน กรณีก็ยังไม่เข้ามาตรา 381 วรรค 3
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 932/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าสินไหมทดแทนจากการเลิกสัญญาจ้างทำของ ครอบคลุมถึงกำไรที่ขาดหายไป
ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่การเลิกสัญญานั้น ย่อมหมายถึงความเสียหายที่ย่อมเกิดขึ้นแต่การเลิกสัญญาหรือการไม่ชำระหนี้ การขาดประโยชน์ที่ตนควรมีควรได้ หากมิได้มีการเลิกสัญญาย่อมเป็นความเสียหายอันหนึ่ง
การจ้างทำของนั้น สินจ้างมิได้จำกัดว่าจะต้องเป็นสิ่งที่ให้ตอบแทนพอดีฉะเพาะแต่ทุนและค่าแรงงานเสมอไป สินจ้างอาจรวมถึงผลประโยชน์ที่นอกเหนือไปจากทุนและแรงงานที่เรียกกันว่ากำไร นั้นก็ได้
ผู้ว่าจ้างเลิกสัญญาจ้างทำของ โดยผู้รับจ้างมิได้ทำผิดสัญญา เป็นเหตุให้ผู้รับจ้างขาดกำไรที่ควรจะได้ ถ้าไม่มีการเลิกสัญญาไปเท่าใด ผู้ว่าจ้างต้องรับสนองชดใช้ให้เป็นค่าสินไหมทดแทน.
การจ้างทำของนั้น สินจ้างมิได้จำกัดว่าจะต้องเป็นสิ่งที่ให้ตอบแทนพอดีฉะเพาะแต่ทุนและค่าแรงงานเสมอไป สินจ้างอาจรวมถึงผลประโยชน์ที่นอกเหนือไปจากทุนและแรงงานที่เรียกกันว่ากำไร นั้นก็ได้
ผู้ว่าจ้างเลิกสัญญาจ้างทำของ โดยผู้รับจ้างมิได้ทำผิดสัญญา เป็นเหตุให้ผู้รับจ้างขาดกำไรที่ควรจะได้ ถ้าไม่มีการเลิกสัญญาไปเท่าใด ผู้ว่าจ้างต้องรับสนองชดใช้ให้เป็นค่าสินไหมทดแทน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 932/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าสินไหมทดแทนจากการเลิกสัญญาจ้างทำของ ครอบคลุมถึงกำไรที่ขาดไป
ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอย่างใดๆ อันเกิดแต่การเลิกสัญญานั้น ย่อมหมายถึงความเสียหายที่ย่อมเกิดขึ้น แต่การเลิกสัญญาหรือการไม่ชำระหนี้ การขาดประโยชน์ที่ตนควรมีควรได้ หากมิได้มีการเลิกสัญญาย่อมเป็นความเสียหายอันหนึ่ง
การจ้างทำของนั้น สินจ้างมิได้จำกัดว่าจะต้องเป็นสิ่งที่ให้ตอบแทนพอดีเฉพาะแต่ทุนและค่าแรงงานเสมอไป สินจ้างอาจรวมถึงผลประโยชน์ที่นอกเหนือไปจากทุนและแรงงานที่เรียกกันว่ากำไรนั้นก็ได้
ผู้ว่าจ้างเลิกสัญญาจ้างทำของ โดยผู้รับจ้างมิได้ทำผิดสัญญาเป็นเหตุให้ผู้รับจ้างขาดกำไรที่ควรจะได้ ถ้าไม่มีการเลิกสัญญาไปเท่าใด ผู้ว่าจ้างต้องรับสนองชดใช้ให้เป็น ค่าสินไหมทดแทน
การจ้างทำของนั้น สินจ้างมิได้จำกัดว่าจะต้องเป็นสิ่งที่ให้ตอบแทนพอดีเฉพาะแต่ทุนและค่าแรงงานเสมอไป สินจ้างอาจรวมถึงผลประโยชน์ที่นอกเหนือไปจากทุนและแรงงานที่เรียกกันว่ากำไรนั้นก็ได้
ผู้ว่าจ้างเลิกสัญญาจ้างทำของ โดยผู้รับจ้างมิได้ทำผิดสัญญาเป็นเหตุให้ผู้รับจ้างขาดกำไรที่ควรจะได้ ถ้าไม่มีการเลิกสัญญาไปเท่าใด ผู้ว่าจ้างต้องรับสนองชดใช้ให้เป็น ค่าสินไหมทดแทน