พบผลลัพธ์ทั้งหมด 347 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1383/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ร่วมกันปล้นทรัพย์และฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเพื่อความสะดวกในการกระทำผิด
จำเลยสามคนสมคบกันมาปล้นทรัพย์ทุกคนมีอาวุธปืนติดตัวมาคนละกระบอก เมื่อขู่บังคับพวกเจ้าทรัพย์ด้วยอาวุธปืนและเก็บทรัพย์ได้แล้ว พวกเจ้าทรัพย์ขัดขืนจึงเกิดต่อสู้กันกับพวกของจำเลย จำเลยที่ 2 ได้ใช้ปืนยิงพวกของเจ้าทรัพย์คนหนึ่งทางข้างหลังถึงแก่ความตาย ดังนี้ เมื่อพวกของเจ้าทรัพย์เข้าต่อสู้กับพวกจำเลยจำเลยทั้งสามได้ใช้ปืนยิงแล้วทุกคน เป็นแต่กระสุนปืนของจำเลยคนอื่นไม่ถูกใคร คงมีแต่จำเลยที่ 2 ยิงถูกพวกเจ้าทรัพย์คนเดียวพฤติการณ์ของจำเลยทั้งสามจึงเป็นการตั้งใจที่จะใช้อาวุธปืนที่เตรียมมานั้นประหัตประหารผู้ที่ต่อสู้ขัดขืน เพื่อความสะดวกในการกระทำผิดฐานปล้นทรัพย์หรือเพื่อเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การปล้นทรัพย์ หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญา จำเลยทุกคนจึงต้องมีความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 วรรค 6 และ 7 นอกเหนือจากความผิดฐานปล้นทรัพย์ตาม มาตรา 340 วรรคสุดท้ายด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 222/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา แม้จะอ้างป้องกันตัวไม่ได้ เพราะมีเจตนาเข้าร่วมทะเลาะวิวาท
ผู้เสียหายและพี่สาวจำเลยด่าท้าทายและจะทำร้ายกัน จำเลยซึ่งเห็นเหตุการณ์ตลอดได้ถือปืนบรรจุกระสุนพร้อมไปยืนคุมเชิงห่างผู้เสียหายเพียง 3 วา พฤติการณ์ของจำเลยเช่นนี้เป็นการแสดงเจตนาให้เห็นว่าจำเลยเข้าร่วมเป็นฝ่ายกับพี่สาวจำเลยในการทะเลาะวิวาทกับผู้เสียหายและเป็นเชิงท้าทายเมื่อผู้เสียหายชักเหล็กแหลมยาว 1 คืบ เดินเข้าไปห่างจำเลย 2 วา จำเลยก็เอาปืนยิงผู้เสียหายทันที ดังนี้ จำเลยจะอ้างว่ากระทำไปเพื่อป้องกันตัวหาได้ไม่
เมื่อกระสุนที่จำเลยยิงพลาดไปถูกผู้อื่นถึงแก่ความตายด้วย จำเลยก็ต้องมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
เมื่อกระสุนที่จำเลยยิงพลาดไปถูกผู้อื่นถึงแก่ความตายด้วย จำเลยก็ต้องมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1317/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บันดาลโทสะจากการถูกข่มเหง: การกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่น
จำเลยถูกสามีบังคับให้ไปเป็นหญิงโสเภณี จำเลยไม่ยอม สามีก็เตะและเอามือค้ำคอจำเลยไว้ จนผู้อื่นต้องมาห้ามจำเลยเข้าห้องร้องไห้และพูดโต้เถียงกับสามีซึ่งนั่งอยู่หน้าห้อง แล้วจำเลยเอามีดมาฟันสามีจนถึงแก่ความตายนั้น ถือว่าจำเลยได้กระทำไปโดยบันดาลโทสะเพราะถูกสามีข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม และจำเลยตกอยู่ในภาวะอันสุดแสนที่จะทนทานได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 849/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าผู้อื่นโดยมีเหตุโกรธเคืองและขัดขืน แต่ไม่มีเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อน
จำเลยที่ 1 เป็นผู้ใหญ่บ้านเคยมีสาเหตุกับผู้ตาย จำเลยที่ 1 หาพรรคพวกไปแกล้งจับผู้ตาย หาว่ากระทำความผิดอาญา โดยที่ผู้ตายเองก็เป็นผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมกับพวกหลอกลวงเอาเงินจากพ่อค้าและราษฎรไปอยู่เหมือนกัน จำเลยที่ 1 กับพวกเอาโซ่มัดผู้ตาย เอาผู้ตายไปล่ามโซ่ไว้ใต้ถุนบ้าน แล้วจำเลยที่ 1-2-3-4 กับพวกเอาตัวผู้ตายออกจากบ้านไป บอกว่าจะเอาตัวไปส่งจังหวัดในคืนวันเกิดเหตุ ผู้ตายพยายามขัดขืนไม่ยอมไป จำเลยกับพวกเอาโซ่ลากคอผู้ตายไป แล้วร่วมกันฆ่าผู้ตายในระหว่างทางเห็นได้ว่าเมื่อตอนที่จำเลยกับพวกนำตัวผู้ตายออกจากบ้านไปนั้น จำเลยกับพวกอาจจะยังไม่มีเจตนาจะฆ่าผู้ตาย แต่การที่กลับมาเปลี่ยนใจฆ่าผู้ตายน่าจะเป็นเพราะผู้ตายพยายามขัดขืนไม่ยอมไปก็ได้ พฤติการณ์ยังไม่พอฟังว่าเป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 849/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร่วมกันทำร้ายและฆ่าผู้อื่นโดยไม่มีเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อน
จำเลยที่ 1 เป็นผู้ใหญ่บ้านเคยมีสาเหตุกับผู้ตาย.จำเลยที่ 1 หาพรรคพวกไปแกล้งจับผู้ตาย หาว่ากระทำความผิดอาญา. โดยที่ผู้ตายเองก็เป็นผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมกับพวกหลอกลวงเอาเงินจากพ่อค้าและราษฎรไปอยู่เหมือนกัน. จำเลยที่ 1 กับพวกเอาโซ่มัดผู้ตาย เอาผู้ตายไปล่ามโซ่ไว้ใต้ถุนบ้าน. แล้วจำเลยที่ 1-2-3-4 กับพวกเอาตัวผู้ตายออกจากบ้านไป บอกว่าจะเอาตัวไปส่งจังหวัดในคืนวันเกิดเหตุ. ผู้ตายพยายามขัดขืนไม่ยอมไป. จำเลยกับพวกเอาโซ่ลากคอผู้ตายไป. แล้วร่วมกันฆ่าผู้ตายในระหว่างทาง. เห็นได้ว่าเมื่อตอนที่จำเลยกับพวกนำตัวผู้ตายออกจากบ้านไปนั้น. จำเลยกับพวกอาจจะยังไม่มีเจตนาจะฆ่าผู้ตาย. แต่การที่กลับมาเปลี่ยนใจฆ่าผู้ตายน่าจะเป็นเพราะผู้ตายพยายามขัดขืนไม่ยอมไปก็ได้. พฤติการณ์ยังไม่พอฟังว่าเป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 846/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าผู้อื่นโดยบันดาลโทสะจากคำดูถูกเหยียดหยามและการปฏิเสธความรับผิดชอบต่อบุตร
จำเลยเป็นหญิงมีภาระต้องเลี้ยงตัวเอง เลี้ยงน้องให้ได้รับการศึกษาชั้นมหาวิทยาลัย และส่งเงินเลี้ยงบิดามารดาจำเลยรักใคร่ได้เสียกับผู้ตายจนจำเลยตั้งครรภ์ ผู้ตายก็ตีตนออกห่าง ไม่ยอมพบจำเลยโทรศัพท์ไปหลายครั้งก็ไม่ยอมพูดด้วยวันเกิดเหตุจำเลยได้ไปคอยพบผู้ตายและพูดเรื่องที่จำเลยมีครรภ์ผู้ตายว่าจำเลยว่า บอกให้เอาออกก็ไม่เอาออกผู้ตายไม่ยอมรับว่าเป็นพ่อเด็กทั้งยังว่าจำเลยว่า อยากหน้าด้านไปหาผู้ตายเองและว่าพ่อแม่จำเลยไม่สั่งสอนให้ดีอันเป็นการดูถูกเหยียดหยามกดขี่ข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมจำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายในขณะนั้น เป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1329/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการทำร้ายร่างกายบุตรเลี้ยง: การพิพากษาโทษฐานฆ่าผู้อื่น
ก่อนเกิดเหตุคดีนี้ จำเลยเคยทำร้ายเฆี่ยนตีและจับผู้ตายโยนซึ่งอาจจะเนื่องจากเกลียดชัง. เพราะผู้ตายเป็นบุตรเลี้ยง. ดังนั้นการที่จำเลยกระทืบผู้ตายด้วยเท้าจนถึงไตซ้ายแตก. มีอุจจาระไหลออกมาเปรอะเปื้อนตามร่างกายผู้ตาย. แสดงว่าจำเลยใช้เท้ากระทืบอย่างหนักและรุนแรง.จนเป็นผลให้ไตซ้ายแตกนั้น. เมื่อประกอบกับการที่จำเลยพูดว่าเอาให้ตายแล้วย่อมเป็นการกระทำโดยมีเจตนาฆ่าผู้ตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 438/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและเป็นตัวการร่วมกัน การป้องกันสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยที่ 1 และผู้ตายสมัครใจวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน. ไม่ถือว่าเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะเพราะถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม. จำเลยที่ 1 ร้องให้ช่วย. จำเลยที่ 2 จึงเอาเหล็กงัดยางกว้าง 2 นิ้ว หนา 1 กระเบียด ยาวศอกเศษ ตีผู้ตายที่ศีรษะและดั้งจมูกโดยแรง. จนผู้ตายล้มฟุบลงแล้วจำเลยที่ 1 ก็เอามีดซึ่งหลุดจากมือผู้ตายมาแทงผู้ตายและผู้ตายถึงแก่ความตาย. ดังนี้ ถือว่าจำเลยที่ 1 มีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา.และจำเลยที่ 2 ก็เป็นตัวการในการกระทำความผิดนั้นด้วย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา83. การกระทำของจำเลยที่ 2 ไม่ถือว่าเป็นการกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของจำเลยที่ 1 โดยชอบด้วยกฎหมาย.เพราะจำเลยที่ 2 ได้รู้เห็นว่าจำเลยที่ 1 และผู้ตายสมัครใจวิวาททำร้ายซึ่งกันและกัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1912/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา แต่เป็นการป้องกันตัวที่สมควรแก่เหตุ
ผู้ตายถือปืนจ้องไปที่จำเลยที่ 1 เป็นเหตุให้จำเลยที่ 1 เข้าใจว่าผู้ตายจะยิงทำร้ายจำเลยที่ 1 จึงจับปืนผลักผู้ตายเซหมุนตัวไป แล้วแทงถูกด้านหลังผู้ตาย การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการป้องกันตัวให้พ้นภยันตรายที่จะได้รับและพอสมควรแก่เหตุ
เมื่อจำเลยที่ 1 แทงแล้วก็วิ่งหนี ผู้ตายถือปืนไล่ยิงจำเลยที่ 1 พอผ่านจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 จึงใช้มีดแทงกลางหลังผู้ตายอีก 1 ที การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงเป็นการป้องกันมิให้จำเลยที่ 1 ได้รับภยันตรายจากการที่ผู้ตายจะยิงจำเลยที่ 1 จึงเป็นการกระทำที่พอสมควรแก่เหตุเช่นเดียวกัน
เมื่อจำเลยที่ 1 แทงแล้วก็วิ่งหนี ผู้ตายถือปืนไล่ยิงจำเลยที่ 1 พอผ่านจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 จึงใช้มีดแทงกลางหลังผู้ตายอีก 1 ที การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงเป็นการป้องกันมิให้จำเลยที่ 1 ได้รับภยันตรายจากการที่ผู้ตายจะยิงจำเลยที่ 1 จึงเป็นการกระทำที่พอสมควรแก่เหตุเช่นเดียวกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1427/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าโดยใช้ขวานฟัน แต่ไม่ถึงขั้นทารุณโหดร้าย ศาลฎีกาตัดสินจำเลยมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่น
จำเลยซึ่งเป็นภรรยาผู้ตายคบคิดกับพวกใช้ขวานเป็นอาวุธฟันทำร้ายผู้ตายเป็นบาดแผล 16 แห่ง ขณะที่ผู้ตายกำลังนอนหลับ เป็นลักษณะการกระทำที่มีเจตนาจะให้ตายทันทีไม่ถึงขนาดที่จะถือว่าเป็นการฆ่าโดยทารุณโหดร้ายอันจะเข้าลักษณะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(5)