คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
งดสืบพยาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 298 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 749/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีละเมิดปิดกั้นน้ำ และการงดสืบพยานที่โจทก์ไม่โต้แย้ง
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทำการปิดกั้นน้ำในลำห้วยซึ่งไหลไปสู่นาโจทก์ ไม่ให้ไหลไปโดยจำเลยปิดตัน ซึ่งจำเลยก็ให้การรับว่าได้ปิดกั้นจริง แต่ไม่ได้ปิดตัน ไม่ทำให้โจทก์เสียหาย เช่นนี้เห็นได้ว่าถ้าได้มีการกระทำดังโจทก์ฟ้องและโจทก์เสียหาย การกระทำของจำเลยก็เป็นการละเมิดต่อโจทก์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
ถ้าคดียังเถียงกันอยู่ว่า การกระทำของจำเลยเป็นเหตุให้โจทก์เสียหายหรือไม่ซึ่งโจทก์มีหน้าที่นำสืบ เมื่อไม่มีการสืบพยานกันต่อไป ข้อเท็จจริงก็ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ โจทก์ไม่อาจชนะคดีจำเลยได้
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้งดสืบพยานโจทก์จำเลยและนัดวันฟังคำพิพากษานั้นเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดี เมื่อโจทก์เห็นว่าชอบที่จะได้สืบพยานฝ่ายตนต่อไป ก็ต้องโต้แย้งคำสั่งนั้นไว้เพื่อจะได้อุทธรณ์คำสั่งนั้นต่อไป เมื่อโจทก์ไม่ได้โต้แย้งไว้ โจทก์จึงฎีกาในปัญหาข้อนี้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1393-1395/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าเพื่อค้า vs. ที่อยู่อาศัย, การงดสืบพยาน, และคำสั่งศาลที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
กำหนด 15 วันตามที่บัญญัติไว้ในข้อ 1 ของมาตรา 174 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งนั้น หมายความเฉพาะในชั้นยื่นฟ้องและขอหมายเรียกให้จำเลยแก้คดีเท่านั้นจะนำมาใช้ในชั้นฎีกาไม่ได้
ที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538 บัญญัติว่า'เช่าอสังหาริมทรัพย์นั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใดลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสำคัญ ท่านว่าจะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่ ฯลฯ' นั้น ย่อมหมายความรวมถึงการที่จะยกขึ้นกล่าวอ้างต่อสู้ให้บังคับคดีไปตามข้อกล่าวอ้างนั้นด้วย เพราะการบังคับคดีย่อมทำได้ด้วยกันทั้งสองฝ่าย
คำว่า 'เคหะ' ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ. 2504 หมายถึงสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ฯลฯ แต่ห้องพิพาทจำเลยเช่าเพื่อประกอบการค้าจึงมิใช่เคหะตามความหมายของบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวและไม่ได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ. 2504 มาตรา 17 โจทก์บอกเลิกการเช่าได้
ถ้าศาลเห็นว่าพยานประเด็นที่จำเลยขอให้ส่งประเด็นไปสืบนั้นเป็นพยานหลักฐานฟุ่มเฟือยเกินสมควร ศาลก็มีอำนาจงดการสืบพยานหลักฐานเหล่านั้นเสียได้ ตามนัยมาตรา 86 วรรคสองแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
คำสั่งศาลที่ไม่อนุญาตให้เลื่อนการพิจารณานั้น เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ถ้าจำเลยจะโต้แย้งคำสั่งนั้นอย่างใดก็ชอบที่จะแถลงข้อโต้แย้งให้ศาลชั้นต้นจดลงไว้ในรายงานหรือยื่นคำแถลงโต้แย้งไว้จึงจะอุทธรณ์คำสั่งนั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1044/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อเท็จจริงในคดีก่อนผูกพันคดีหลัง-งดสืบพยาน-ค่าขึ้นศาล
ข้อเท็จจริงในคดีก่อนซึ่งได้ว่ากันมาแล้วจนถึงที่สุดในชั้นฎีกา ย่อมผูกพันคู่กรณีในคดีหลังซึ่งเคยเป็นคู่ความกันมาในคดีก่อน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปิดกั้นคูหรือลำรางพิพาท จำเลยให้การรับว่าปิดจริง แต่ปิดกั้นคูหรือลำรางในที่ดินของจำเลย ดังนี้ จึงไม่มีประเด็นจะต้องสืบในข้อที่ว่าจำเลยปิดกั้นคูหรือลำรางหรือไม่
ในชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกา จำเลยเพียงแต่ขอให้ศาลชั้นต้นพิจารณาสืบพยานเท่านั้น ไม่ได้ขอให้พิพากษาให้จำเลยชนะคดี จึงเท่ากับจำเลยขอให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ที่ให้งดสืบพยานดำเนินการสืบพยานต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ ดังนั้น ค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกา จำเลยจึงควรเสียเพียงศาลละ 50 บาทตามตาราง 1 ข้อ 2 ก. ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
(อ้างฎีกาที่ 1689/2497)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1016/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประวิงคดีและการงดสืบพยาน: ศาลชอบธรรมในการงดสืบพยานเมื่อโจทก์ไม่สามารถนำตัวพยานมาศาลได้
วันนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์ พยานโจทก์ 2 ปากไม่มาศาล โจทก์ขอเลื่อน ศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์ประวิงความ ให้งดสืบพยานโจทก์นั้นเสีย โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกาว่าการที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ขอเลื่อนการพิจารณาไปอีกทั้ง ๆ ที่ศาลชั้นต้นได้กำชับแล้ว เหตุที่ร้อยตรีทวีปมาศาลไม่ได้ อ้างว่าป่วยเป็นไข้หวัดทั้งสองครั้งศาลชั้นต้นจะไปเผชิญสืบ ทนายโจทก์ก็ขัดข้องว่าไม่ทราบที่อยู่ของพยาน ไม่สามารถนำศาลไปเผชิญสืบได้ ส่วนพยานโจทก์อีกปากหนึ่งนั้น โจทก์อ้างว่าไปต่างจังหวัด ไม่ทราบที่อยู่ของพยาน ตามพฤติการณ์เช่นนี้ เป็นการประวิงคดีที่ศาลชั้นต้นให้งดสืบพยานโจทก์ 2 ปากนั้น ชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1016/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประวิงคดีและการงดสืบพยาน: ศาลชอบที่จะงดสืบพยานเมื่อโจทก์ไม่สามารถนำพยานมาศาลได้และมีพฤติการณ์ประวิงคดี
วันนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์ พยานโจทก์ 2 ปากไม่มาศาลโจทก์ขอเลื่อนศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์ประวิงความ ให้งดสืบพยานโจทก์นั้นเสีย โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกาว่าการที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์ขอเลื่อนการพิจารณาไปอีกทั้งๆ ที่ศาลชั้นต้นได้กำชับแล้ว เหตุที่ร้อยตรีทวีปมาศาลไม่ได้ อ้างว่าป่วยเป็นไข้หวัดทั้งสองครั้งศาลชั้นต้นจะไปเผชิญสืบ ทนายโจทก์ก็ขัดข้องว่าไม่ทราบที่อยู่ของพยาน ไม่สามารถนำศาลไปเผชิญสืบได้ ส่วนพยานโจทก์อีกปากหนึ่งนั้น โจทก์อ้างว่าไปต่างจังหวัด ไม่ทราบที่อยู่ของพยาน. ตามพฤติการณ์เช่นนี้ เป็นการประวิงคดีที่ศาลชั้นต้นให้งดสืบพยานโจทก์ 2 ปากนั้น ชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 570/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประวิงคดีและการงดสืบพยาน: ศาลชอบที่จะชี้ขาดโดยไม่ต้องสืบพยานเมื่อจำเลยประวิงคดีโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
ศาลนัดสืบพยานจำเลยครั้งแรกวันที่ 28 สิงหาคม 2504 จำเลยขอเลื่อน 11 ครั้งอ้างเหตุทนายป่วยบ้าง ตัวจำเลยป่วยบ้าง ตัวจำเลยไปต่างจังหวัดบ้าง จนถึงนัดสุดท้ายวันที่ 14 มกราคม 2506 ทนายจำเลยแถลงลอย ๆ ว่า จำเลยป่วยอยู่ต่างจังหวัด พยานอื่นก็ไม่ได้นำมาขอเลื่อนคดีอีก เช่นนี้ ส่อให้เห็นว่าเป็นการประวิงคดีศาลสั่งงดสืบพยานจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 570/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประวิงคดีและการงดสืบพยาน: ศาลชอบที่จะพิจารณาคดีโดยไม่ต้องสืบพยานจำเลยหากมีพฤติการณ์ประวิงคดีอย่างชัดเจน
ศาลนัดสืบพยานจำเลยครั้งแรกวันที่ 28 สิงหาคม 2504 จำเลยขอเลื่อน 11 ครั้งอ้างเหตุทนายป่วยบ้าง ตัวจำเลยป่วยบ้าง ตัวจำเลยไปต่างจังหวัดบ้าง จนถึงนัดสุดท้ายวันที่ 14 มกราคม 2506 ทนายจำเลยแถลงลอยๆว่า จำเลยป่วยอยู่ต่างจังหวัด พยานอื่นก็ไม่ได้นำมาขอเลื่อนคดีอีกเช่นนี้ ส่อให้เห็นว่าเป็นการประวิงคดี ศาลสั่งงดสืบพยานจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 290/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดสืบพยานจำเลยเนื่องจากประวิงคดี และการยุติข้อเท็จจริงจากคำวินิจฉัยศาลชั้นต้น
ศาลชั้นต้นได้ดำเนินการพิจารณาคดีมาโดยลำดับ โดยได้สืบพยานโจทก์แล้วสืบพยานจำเลยโดยสืบตัวจำเลยซึ่งมาศาลในวันนัดสืบพยานจำเลยนัดที่สอง แล้วจำเลยแถลงว่าไม่มีพยานมาศาลอีก ศาลชั้นต้นจึงได้งดสืบพยานอื่นของจำเลย เพราะจำเลยได้แถลงไว้ในนัดก่อนว่าพยานจำเลยคนใดไม่มาก็ไม่ติดใจสืบ ทั้งพฤติการณ์ที่จำเลยปฏิบัติในคดีแต่ต้นมาส่อไปในทางประวิงคดี ถือว่าเป็นการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลชั้นต้นชอบด้วยกระบวนพิจารณาแล้ว
เมื่อจำเลยไม่ได้อุทธรณ์คัดค้านข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นพิพากษา และมิได้กล่าวอ้างคัดค้านในฎีกา ข้อเท็จจริงจึงยุติตามศาลชั้นต้น และเมื่อการฟังข้อเท็จจริงเป็นเหตุให้ศาลฎีกายกฟ้องแย้งของจำเลยแล้ว ปัญหาที่ว่าฟ้องแย้งของจำเลยเคลือบคลุมหรือไม่ จึงไม่จำต้องวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 290/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดสืบพยานเมื่อจำเลยแถลงไม่ติดใจสืบ และผลของการไม่โต้แย้งข้อเท็จจริงต่อการวินิจฉัยฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นได้ดำเนินการพิจารณาคดีมาโดยลำดับโดยได้สืบพยานโจทก์แล้วสืบพยานจำเลยโดยสืบตัวจำเลยซึ่งมาศาลในวันนัดสืบพยานจำเลยนัดที่สองแล้วจำเลยแถลงว่าไม่มีพยานมาศาลอีกศาลชั้นต้นจึงได้งดสืบพยานอื่นของจำเลยเพราะจำเลยได้แถลงไว้ในนัดก่อนว่าพยานจำเลยคนใดไม่มาก็ไม่ติดใจสืบทั้งพฤติการณ์ที่จำเลยปฏิบัติในคดีแต่ต้นมาส่อไปในทางประวิงคดีถือว่าการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลชั้นต้นชอบด้วยกระบวนพิจารณาแล้ว
เมื่อจำเลยไม่ได้อุทธรณ์คัดค้านข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นพิพากษาและมิได้กล่าวอ้างคัดค้านในฎีกาข้อเท็จจริงจึงยุติตามศาลชั้นต้น และเมื่อการฟังข้อเท็จจริงเป็นเหตุให้ศาลฎีกายกฟ้องแย้งของจำเลยแล้วปัญหาที่ว่าฟ้องแย้งของจำเลยเคลือบคลุมหรือไม่จึงไม่จำต้องวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1179/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งงดสืบพยานระหว่างพิจารณาคดี: ไม่อุทธรณ์ได้ทันที ต้องรอคำพิพากษา
การที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยกำหนดประเด็นหน้าที่นำสืบและมีคำสั่งให้งดสืบในประเด็นข้อใด เป็นการสั่งโดยอาศัยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 86 วรรคสอง ก่อนที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดี จึงเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามมาตรา 226(1) จะอุทธรณ์ในทันทีทันใดมิได้ โจทก์ชอบที่จะโต้แย้งคำสั่งไว้ และอุทธรณ์คำสั่งนั้นได้เมื่อศาลพิพากษาหรือชี้ขาดตัดสินคดี กรณีไม่เข้าข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 228(3)
of 30