คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ชอบด้วยกฎหมาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 507 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 182/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: ยิงเพื่อยับยั้งการทำร้าย และการครอบครองอาวุธเพื่อป้องกัน
จำเลยใช้ปืนยิงโจทก์ร่วมด้านหน้าซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 3 เมตรโดยยิงไปที่ขา 3 นัด ถูกขาโจทก์ร่วม 1 นัด แล้วจำเลยไม่ได้ยิงต่ออีกถือว่าจำเลยมีเจตนาทำร้ายโจทก์ร่วมเท่านั้น มิได้มีเจตนาฆ่าด้วย โจทก์ร่วมถือไม้เป็นอาวุธไปที่หน้าบ้านจำเลยพร้อมกับ ส. และร้องท้าทายจำเลยให้ออกมาตีกัน แล้วโจทก์ร่วมเดินเข้าหาจำเลยจำเลยตกใจเกรงว่าโจทก์ร่วมจะเข้ามาทำร้าย จึงวิ่งไปเอาอาวุธปืนสั้นของสามีที่เก็บไว้ที่หัวนอนแล้วยิงไปที่ขาโจทก์ร่วม 3 นัด จำเลยเป็นหญิง โจทก์ร่วมมีไม้เป็นอาวุธและมากับ ส. ถือว่าจำเลยยิงโจทก์ร่วมเพียงเพื่อยับยั้งมิให้โจทก์ร่วมเข้ามาทำร้ายจำเลยเท่านั้นการกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย การที่จำเลยหยิบอาวุธปืนของกลางมาใช้เพื่อป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย ถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาครอบครองอาวุธปืนดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1652/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การใช้กำลังเพื่อป้องกันการถูกทำร้าย
ผู้ตายเป็นฝ่ายก่อเหตุวิวาทและทำร้ายร่างกายจำเลยก่อน โดยจำเลยไม่ได้สมัครใจวิวาทด้วย การที่จำเลยแทงผู้ตายเนื่องจากถูกผู้ตายใช้ขวดเปล่าขว้างถูกหน้าผากจำเลยและใช้ไม้ไผ่ตันตีทำร้ายร่างกายจำเลยก่อน จำเลยย่อมมีสิทธิที่จะแทงผู้ตายเพื่อป้องกันตัวได้และที่ผู้ตายถูกจำเลยใช้มีดแทงถึง 3 แห่ง ที่หน้าอกซ้าย หน้าอกขวาและต้นขาซ้ายนั้นเกิดจากการชุลมุนกอดรัดกันขณะจำเลยถูกทำร้ายล้มลงแล้ว จำเลยไม่มีโอกาสเลือกแทงผู้ตายได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1631/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดชอบด้วยกฎหมายเมื่อราคาเหมาะสมและไม่มีพฤติการณ์ทุจริต แม้ราคาต่ำกว่าราคาประเมิน
การที่จะอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์สินโดยไม่ชอบนั้น จะต้องปรากฏว่าการขายทอดตลาดนั้นขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และกฎกระทรวงที่ว่าด้วยเรื่องการขายทอดตลาดทรัพย์สินเมื่อผู้แทนโจทก์ค้านเฉพาะราคาทรัพย์สินพิพาทว่าผู้เข้าประมูลสู้ราคาประมูลราคาต่ำไป และโจทก์นำสืบแต่เพียงว่าราคาประมูลต่ำกว่าราคาที่สำนักงานวางทรัพย์กลางประเมินไว้โดยไม่มีหลักฐานอื่นประกอบให้เห็นว่าราคาทรัพย์สินพิพาทที่แท้จริงควรจะเป็นจำนวนเท่าใด และในการขายทอดตลาดดังกล่าวไม่ปรากฏว่ามีพฤติการณ์ส่อให้เห็นว่าการประมูลซึ่งทรัพย์สินพิพาทที่ขายทอดตลาดเป็นการสมรู้กันกดราคาซื้อหรือไม่สุจริต การขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทจึงชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1382/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขาดนัดพิจารณาคดี: ศาลชอบด้วยกฎหมายที่จะพิจารณาคดีไปฝ่ายเดียว
จำเลยทราบนัดโดยชอบแล้ว ไม่มาศาลในวันสืบพยานและไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ถือว่าจำเลยขาดนัดพิจารณา การที่ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีโดยสืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียว แล้วพิพากษาคดีไปในวันเดียวกันนั้นจึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1345/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญากู้ยืมเงินที่ชอบด้วยกฎหมาย แม้มีมูลหนี้จากการซื้อขายรถยนต์ และการคิดดอกเบี้ยที่ไม่เข้าข่ายผิดกฎหมาย
โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดตามสัญญากู้ เมื่อฟังได้ว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์และทำสัญญากู้ตามฟ้อง มูลหนี้จะเป็นการกู้ยืมเงินสดหรือเงินที่ค้างชำระในการซื้อขายรถยนต์ก็เป็นหนี้ที่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระเงินตามสัญญากู้นั้นได้ ไม่เป็นการนอกฟ้อง
ดอกเบี้ยก่อนทำสัญญากู้ที่ตกลงกันให้คิดจากค่างวดที่ค้างชำระตามสัญญาซื้อขายนั้น มีลักษณะเป็นค่าเสียหาย ไม่ใช่ดอกเบี้ยจากการกู้ยืม จึงไม่ต้องห้ามตามพระราชบัญญ้ติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราฯ
การนำสืบการใช้เงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 653วรรคสองนั้นหมายถึงต้นเงินไม่หมายรวมถึงดอกเบี้ย
การที่ศาลจะให้ฝ่ายใดใช้ค่าฤชาธรรมเนียมนั้นเป็นดุลพินิจของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 161 เมื่อคดียังไม่ถึงที่สุด และแม้คู่ความอีกฝ่ายจะมิได้ขอ ศาลก็มีอำนาจใช้ดุลพินิจตามที่เห็นสมควรได้.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 979/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กำนันรายงานการรุกล้ำที่สาธารณะชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นละเมิด
เมื่อมีราษฎรมาร้องเรียนต่อจำเลยซึ่งเป็นกำนันท้องที่ว่าโจทก์บุกรุกที่ป่าช้าสาธารณสถาน จำเลยก็ชอบที่จะรายงานนายอำเภอซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาตามที่ราษฎรร้องเรียนได้ กรณีเป็นเพียงรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มิได้ยืนยันหรือออกความเห็น นายอำเภอจะดำเนินการอย่างไรต่อไปก็แล้วแต่นายอำเภอจะพิจารณาเองดังนี้จำเลยได้กระทำตามอำนาจหน้าที่โดยชอบ หาใช่กระทำละเมิดต่อโจทก์ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6212/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งหมายนัดพิจารณาคดีที่ชอบด้วยกฎหมาย แม้ผู้รับหมายไม่ยอมรับหรือไม่อยู่ที่ภูมิลำเนาที่แจ้งไว้
กระบวนพิจารณาที่ศาลได้กระทำไปภายหลังจากที่พนักงานเดินหมายปิดหมายนัดสืบพยานจำเลยตามคำสั่งศาลยังภูมิลำเนาของทนายจำเลยและตัวจำเลย เนื่องจากไม่มีบุคคลใดยอมรับหมายแทนต้องถือว่าชอบแล้ว จำเลยจะอ้างในภายหลังว่าความจริงทนายจำเลยและตัวจำเลยมิได้มีภูมิลำเนาตามที่ปรากฏโดยที่มิได้แจ้งการเปลี่ยนแปลงให้ศาลทราบไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5066/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิเรียกร้อง: ไม่ต้องแจ้งเจ้าหนี้, ชอบด้วยกฎหมายหากแจ้งลูกหนี้แล้ว
การโอนสิทธิเรียกร้องนั้น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 306 คงบังคับแต่เพียงให้บอกกล่าวการโอนไปยังลูกหนี้หรือให้ลูกหนี้ยินยอมด้วยในการโอนเท่านั้น ไม่มีบทกฎหมายใดที่บังคับให้ต้องแจ้งแก่เจ้าหนี้หรือได้รับความยินยอมจากเจ้าหนี้ ดังนั้น เมื่อการโอนสิทธิเรียกร้องได้ทำเป็นหนังสือแจ้งให้ลูกหนี้ทราบแล้ว แม้มิได้แจ้งให้เจ้าหนี้ทราบก็สมบูรณ์และใช้บังคับได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4383/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปิดงานโดยชอบด้วยกฎหมาย แม้ไม่ได้ให้ลูกจ้างทำงานในช่วงแจ้งล่วงหน้า แต่จ่ายค่าจ้างให้
เมื่อกรณีเป็นข้อพิพาทแรงงานที่ตกลงกันไม่ได้ นายจ้างได้แจ้งการปิดงานให้พนักงานประนอมข้อพิพาทแรงงานและลูกจ้างทราบล่วงหน้าตามกฎหมายแล้ว แม้นายจ้างไม่ยอมให้ลูกจ้างเข้าทำงานในช่วงเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงที่ประกาศแจ้งล่วงหน้า แต่ก็ได้จ่ายค่าจ้างในช่วงเวลาดังกล่าวให้แก่ลูกจ้าง ถือได้ว่าคงมีการทำงานอยู่จนถึงกำหนดวันเวลาที่แจ้งให้การปิดงานมีผล มิใช่เป็นการปิดงานนับแต่วันเวลาที่แจ้ง จึงเป็นการปิดงานโดยชอบด้วยกฎหมายลูกจ้างไม่มีสิทธิเรียกค่าจ้างในระหว่างที่มีการปิดงาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4378/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งหมายเรียกโดยปิดหมายที่ภูมิลำเนาที่ปรากฏในทะเบียนบ้านชอบด้วยกฎหมาย แม้จำเลยย้ายไปอยู่แห่งอื่น
เจ้าพนักงานเดินหมายปิดหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องกับปิดหมายนัดสืบพยานโจทก์ไว้ที่บ้าน ซึ่งมีชื่อจำเลยในทะเบียนบ้านตามคำสั่งศาลบ้านนั้นยังเป็นของสามีจำเลย และจำเลยยอมรับในอุทธรณ์ว่าบ้านดังกล่าวเป็นภูมิลำเนาแห่งหนึ่งของจำเลย ดังนี้ เป็นการส่งหมายชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 74 (2) และมาตรา 79 เมื่อจำเลยมิได้ยื่นคำให้การภายในกำหนดและไม่ได้มาศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์ ถือได้ว่าจำเลยจงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาจึงไม่มีเหตุที่จะขอให้พิจารณาคดีใหม่ได้
of 51