พบผลลัพธ์ทั้งหมด 516 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1324/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนฟ้องคดีขับไล่และการอุทธรณ์ดุลพินิจศาล: ข้อจำกัดการอุทธรณ์ข้อเท็จจริงในคดีค่าเช่าต่ำ
การอนุญาตให้ถอนฟ้องหรือไม่เป็นดุลพินิจของศาลที่จะสั่งได้ตามที่เห็นสมควรจึงเป็นปัญหาข้อเท็จจริง จำเลยอุทธรณ์โต้แย้งการใช้ดุลพินิจดังกล่าว จึงเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจวินิจฉัยแม้ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยให้ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์จำเลยไม่มีสิทธิยกปัญหาดังกล่าวขึ้นฎีกาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1324/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนฟ้องคดีขับไล่และการอุทธรณ์ดุลพินิจศาล: ข้อจำกัดการอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
การอนุญาตให้ถอนฟ้องหรือไม่เป็นดุลพินิจของศาลที่จะสั่งได้ตามที่เห็นสมควร จึงเป็นปัญหาข้อเท็จจริง จำเลยอุทธรณ์โต้แย้งการใช้ดุลพินิจดังกล่าว จึงเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจวินิจฉัยแม้ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยให้ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ จำเลยไม่มีสิทธิยกปัญหาดังกล่าวขึ้นฎีกาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 867/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนฟ้องคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัวก่อนคดีถึงที่สุด ศาลอนุญาตได้หากไม่มีการคัดค้าน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา341 จำเลยที่ 3 หลบหนี ศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่ 3 ชั่วคราว โจทก์ขอถอนฟ้องจำเลยที่ 1 ศาลชั้นต้นอนุญาต ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา โจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้อง จำเลยที่ 2 ไม่คัดค้าน เมื่อเป็นคดีความผิดต่อส่วนตัวและไม่มีการคัดค้านศาลฎีกาอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้และให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 769/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผิดสัญญาประกันเนื่องจากจำเลยไม่มาศาลหลังโจทก์ถอนฟ้องคดีความผิดอันยอมความได้ ศาลพิจารณาเหตุผลและลดค่าปรับ
ในคดีความผิดอันยอมความได้ จำเลยให้การรับสารภาพและได้ประกันตัว โจทก์ยื่นคำร้องก่อนวันนัดฟังคำพิพากษาว่า จำเลยชำระหนี้ให้โจทก์ครบถ้วนแล้ว ขอถอนฟ้อง ถึงวันนัดจำเลยไม่มาศาลก็ต้องถือว่าผู้ประกันผิดสัญญาประกัน.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5146/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจดุลพินิจศาลแรงงานในการอนุญาตให้ถอนฟ้องหลังยื่นคำให้การแล้ว
ในการพิจารณาคดีแรงงานเมื่อโจทก์ขอถอนฟ้อง ศาลแรงงานกลางต้องนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 175 วรรคสอง มาใช้บังคับโดยในนัยแห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 31 ดังนั้น ศาลแรงงานกลางจะอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องหรือไม่ จึงเป็นอำนาจของศาลที่จะใช้ดุลพินิจ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5146/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลอนุญาตถอนฟ้องคดีแรงงานและการอุทธรณ์ดุลพินิจ
ในการพิจารณาคดีแรงงาน เมื่อโจทก์ขอถอนฟ้อง ศาลแรงงานกลางต้องนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 175 วรรคสองมาใช้บังคับโดยนัยแห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 31 ดังนั้น ศาลแรงงานกลางจะอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องหรือไม่ จึงเป็นอำนาจของศาลที่จะใช้ดุลพินิจจำเลยจะอุทธรณ์ดุลพินิจดังกล่าว ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงและต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯ พ.ศ. 2522มาตรา 54 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 38/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นต้องมีข้อเท็จจริงเพียงพอ ศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจอนุญาตให้ถอนฟ้องได้
การวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24 ได้ จะต้องปรากฏว่าคดีนั้นมีข้อเท็จจริงเพียงพอที่ศาลจะรับฟังได้ หรือเป็นข้อเท็จจริงที่ยุติแล้ว มิใช่ว่าเมื่อคู่ความฝ่ายใดยื่นคำร้องเข้ามาแล้ว โดยจะมีข้อเท็จจริงอยู่หรือไม่ ศาลจะต้องวินิจฉัยชี้ขาดให้เสมอไป
โจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้อง ส่วนจำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมาย เมื่อศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีไม่มีเหตุที่จะวินิจฉัยเบื้องต้นและสั่งยกคำร้องของจำเลยไปแล้ว ก็ย่อมใช้ดุลพินิจอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้.
โจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้อง ส่วนจำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมาย เมื่อศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีไม่มีเหตุที่จะวินิจฉัยเบื้องต้นและสั่งยกคำร้องของจำเลยไปแล้ว ก็ย่อมใช้ดุลพินิจอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3144/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนฟ้องคดีผิดศาลไม่ทำให้จำเลยเสียหาย โจทก์มีสิทธิฟ้องใหม่ได้
จำเลยยื่นคำให้การตัดฟ้องว่าโจทก์ฟ้องผิดศาล การที่โจทก์ทราบภายหลังว่าฟ้องคดีผิดไปจากศาลที่ได้ตกลงไว้ในสัญญาและขอถอนคำฟ้อง นับว่าเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาเพื่อให้เป็นไปโดยถูกต้องและในกรณีฟ้องผิดศาลนั้นแม้ศาลชั้นต้นจะพิจารณาไปโดยผิดหลงแล้วมีคำพิพากษายกฟ้องเพราะคดีไม่อยู่ในเขตอำนาจศาล โจทก์อาจฟ้องจำเลยใหม่ยังศาลที่คดีนั้นอยู่ในเขตอำนาจได้อีก และแม้กำหนดอายุความในเรื่องนี้จะสิ้นไปแล้วในระหว่างพิจารณากฎหมายก็ยังขยายอายุความออกไปให้อีกระยะหนึ่งด้วยตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 176 บัญญัติไว้ การอนุญาตให้ถอนคำฟ้องจึงไม่ทำให้จำเลยเสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2522/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนฟ้องคดีค่าชดเชยแล้วฟ้องใหม่ได้ หากการถอนฟ้องไม่ได้เป็นการสละสิทธิ และค่าชดเชยตามระเบียบของบริษัทไม่ถือเป็นค่าชดเชยตามกฎหมาย
ในคดีก่อนโจทก์แถลงถึงเหตุผลของการถอนฟ้องว่า ตอนออกจากงานโจทก์ได้รับเงินจากจำเลยเป็นค่าชดเชยตามระเบียบแล้ว เมื่อทราบจากคำให้การจำเลยว่า จำเลยจ่ายเงินดังกล่าวเป็นค่าชดเชย จึงไม่ติดใจดำเนินคดีต่อไป ขอถอนฟ้อง คำแถลงดังกล่าวมีข้อความไม่ชัดแจ้ง หรือแปลได้ว่าโจทก์สละสิทธิที่จะเรียกร้องในมูลกรณีเดียวกันนั้นกับจำเลยอีกในภายหลัง เป็นแต่เพียงโจทก์เชื่อตามคำให้การของจำเลยว่าโจทก์ไม่มีสิทธิได้รับค่าชดเชย จึงขอถอนฟ้องเท่านั้นโจทก์ฟ้องคดีนี้ได้ใหม่
จำเลยวางระเบียบการจ่ายเงินทดแทนให้พนักงานและคนงานประจำที่ลาออกจากหน้าที่การงาน หรือถูกเลิกจ้าง ต่อมาได้เปลี่ยนคำว่าเงินทดแทนเป็นค่าชดเชย แม้จะเปลี่ยนคำให้ตรงกับคำในกฎหมายแต่หลักเกณฑ์การจ่ายค่าชดเชยของจำเลยก็ต่ำกว่าหลักเกณฑ์ที่จะต้องจ่ายตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน เงินที่จำเลยจ่ายให้โจทก์ไปตามระเบียบของจำเลยจึงมีลักษณะเป็นเงินสงเคราะห์เพื่อตอนแทนการทำงานของพนักงานหรือลูกจ้างที่ทำงานตลอดมาจนออกจากงานหรือลาออกเอง หรือถึงแก่ความตายดังนี้เงินดังกล่าวไม่ใช่ค่าชดเชยตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานข้อ 47 ของประกาศกระทรวงมหาดไทยที่กำหนดให้จ่ายแก่ลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างโดยไม่ได้กระทำความผิดใด ๆ.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
จำเลยวางระเบียบการจ่ายเงินทดแทนให้พนักงานและคนงานประจำที่ลาออกจากหน้าที่การงาน หรือถูกเลิกจ้าง ต่อมาได้เปลี่ยนคำว่าเงินทดแทนเป็นค่าชดเชย แม้จะเปลี่ยนคำให้ตรงกับคำในกฎหมายแต่หลักเกณฑ์การจ่ายค่าชดเชยของจำเลยก็ต่ำกว่าหลักเกณฑ์ที่จะต้องจ่ายตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน เงินที่จำเลยจ่ายให้โจทก์ไปตามระเบียบของจำเลยจึงมีลักษณะเป็นเงินสงเคราะห์เพื่อตอนแทนการทำงานของพนักงานหรือลูกจ้างที่ทำงานตลอดมาจนออกจากงานหรือลาออกเอง หรือถึงแก่ความตายดังนี้เงินดังกล่าวไม่ใช่ค่าชดเชยตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานข้อ 47 ของประกาศกระทรวงมหาดไทยที่กำหนดให้จ่ายแก่ลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างโดยไม่ได้กระทำความผิดใด ๆ.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2227/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจถอนฟ้องในชั้นอุทธรณ์ และขอบเขตอำนาจของทนายตามใบแต่งทนาย
การถอนคำร้องขอถอนฟ้องในชั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จะอนุญาตหรือไม่ก็ได้ แล้วแต่ศาลอุทธรณ์จะพิจารณาเห็นสมควร ในคดีความผิดต่อส่วนตัว ใบแต่งทนายของโจทก์ระบุว่าให้ทนายความมีอำนาจว่าต่าง แก้ต่าง ถอนฟ้อง ประนีประนอมยอมความอุทธรณ์ ฎีกา ดังนี้ ทนายโจทก์มีอำนาจถอนฟ้องได้ก่อนคดีถึงที่สุด