คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
บันดาลโทสะ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 394 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1985/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยบันดาลโทสะ: การป้องกันตัวจากผู้ถูกข่มเหง
ผู้ตายเข้าผลักอกและเตะจำเลยก่อน จำเลยเตะตอบไปหนึ่งทีครั้นจำเลยถอยออกไป ผู้ตายก็ยังคงเดินตามเข้าไปยังจำเลยอีกด้วยท่าทางอย่างคนจะชกต่อย ดังนี้ เห็นได้ว่าจำเลยได้ถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงได้ยิงผู้ตายในขณะนั้นถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1985/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยิงเพื่อป้องกันตัวโดยชอบธรรมและการกระทำโดยบันดาลโทสะ
ผู้ตายเข้าผลักอกและเตะจำเลยก่อน จำเลยเตะตอบไปหนึ่งทีครั้นจำเลยถอยออกไป ผู้ตายก็ยังคงเดินตามเข้าไปยังจำเลยอีกด้วยท่าทางอย่างคนจะชกต่อย ดังนี้ เห็นได้ว่าจำเลยได้ถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงได้ยิงผู้ตายในขณะนั้นถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1893/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าและการบันดาลโทสะ กรณีทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตายจากความขัดแย้งส่วนตัว
ผู้ตายเข้าไปกอดภริยาของจำเลยซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะในร้านขายอาหารจำเลยได้ต่อว่าผู้ตายกับ ว. ซึ่งมากับผู้ตาย ว. ไกล่เกลี่ยปรับความเข้าใจและจะให้ผู้ตายไปขอขมาภริยาจำเลย จำเลยคอยดูอยู่ว่าผู้ตายจะขอขมาภริยาจำเลยหรือไม่ รออยู่ประมาณ 15 นาที ผู้ตายก็มิได้มาขอขมา จำเลยเสียใจได้ใช้ไม้ ยาว 32 นิ้ว กว้าง 6 นิ้ว หนา 1.4 นิ้ว ตีผู้ตายที่ศีรษะอย่างแรง 2 ที เป็นบาดแผลฉกรรจ์ ผู้ตายถึงแก่ความตายเพราะพิษบาดแผลนั้น ดังนี้ ถือว่าจำเลยทำร้ายผู้ตายโดยมีเจตนาฆ่า และการที่จำเลยบันดาลโทสะเพราะผู้ตายลวนลามภริยาของจำเลยได้ขาดตอนไปแล้วและการที่ผู้ตายไม่ขอขมาภริยาจำเลยนั้น ก็ไม่ใช่เป็นการข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จำเลยจะอ้างว่ากระทำโดยบันดาลโทสะไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1207/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดจากบันดาลโทสะ: ศาลลดค่าเสียหายเมื่อผู้ถูกทำร้ายมีส่วนผิดในการข่มเหง
จำเลยกระทำละเมิดโดยใช้ขวานทำร้ายร่างกายโจทก์จนเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับอันตรายสาหัส เนื่องจากจำเลยถูกโจทก์ข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม กล่าวคือโจทก์ได้ด่าจำเลยด้วยถ้อยคำหยาบคายและพาดพิงไปถึงบิดามารดาจำเลย ดังนี้ ถือว่าความเสียหายได้เกิดขึ้นเพราะความผิดของโจทก์ประกอบด้วย ตามนัยบทบัญญัติมาตรา 442 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งให้นำบทบัญญัติมาตรา 223ใช้บังคับโดยอนุโลม ศาลจึงมีอำนาจลดจำนวนค่าเสียหายลงได้ตามสมควรแก่พฤติการณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1207/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดจากบันดาลโทสะ: ลดค่าเสียหายจากความผิดของโจทก์
จำเลยกระทำละเมิดโดยใช้ขวานทำร้ายร่างกายโจทก์จนเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับอันตรายสาหัส เนื่องจากจำเลยถูกโจทก์ข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม กล่าวคือโจทก์ได้ด่าจำเลยด้วยถ้อยคำหยาบคายและพาดพิงไปถึงบิดามารดาจำเลย ดังนี้ ถือว่าความเสียหายได้เกิดขึ้นเพราะความผิดของโจทก์ประกอบด้วย ตามนัยบทบัญญัติมาตรา 442 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งให้นำบทบัญญัติมาตรา 223ใช้บังคับโดยอนุโลม ศาลจึงมีอำนาจลดจำนวนค่าเสียหายลงได้ตามสมควรแก่พฤติการณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1122/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยบันดาลโทสะจากเหตุถูกข่มเหงอย่างร้ายแรง แม้การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ ศาลลดโทษได้
จำเลยอยู่กับผู้ตายซึ่งเป็นมารดาเลี้ยง จำเลยขอเงินผู้ตายเพื่อเอาไปให้หมอเป็นค่ารักษาไข้ ผู้ตายไม่ให้ และด่าจำเลยว่าลูกหมา ชาติหมา แล้วผู้ตายขึ้นไปชั้นบนถือปืนลูกซองลงมาจ้องจะยิงจำเลย จำเลยใช้มือซ้ายจับปากกระบอกปืนและใช้มือขวาจับด้ามขวาน เหวี่ยงสันขวานไปที่ขมับซ้ายของผู้ตาย ผู้ตายปล่อยปืนล้มนอนหงาย จำเลยแย่งปืนจากผู้ตายไว้ ขณะนั้นผู้ตายไม่มีอาวุธอะไรเลย และไม่มีโอกาสทำร้ายจำเลยได้อีกแล้ว จำเลยยังใช้ปืนยิงผู้ตายถึง 2 นัดที่หน้าอกและศีรษะและยังใช้สันขวานทุบศีรษะผู้ตายอีกโดยกระทำไปด้วยความโกรธ พฤติการณ์เช่นนี้ถือไม่ได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันสิทธิตามกฎหมาย เพราะภยันตรายที่จำเลยได้รับผ่านพ้นไปแล้ว และไม่มีภยันตรายที่ใกล้จะถึงอีก แต่การที่ผู้ตายด่าว่าจำเลยดังกล่าวแล้วและเอาปืนมาจ้องจะยิงจำเลย ข่มเหงจำเลยทั้งๆ ที่จำเลยหลบไปข้างประตู ผู้ตายยังถือปืนตามไปจ้องจะยิงจำเลยอีกจำเลยแย่งปืนได้ จึงใช้ปืนนั้นยิงและใช้ขวานทุบผู้ตายดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยกระทำความผิดโดยบันดาลโทสะเพราะถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม แม้จำเลยจะมิได้ยกเหตุนี้ขึ้นต่อสู้ ศาลก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1122/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บันดาลโทสะจากการถูกข่มเหงรุนแรง ลดหย่อนโทษอาญา ฆ่าผู้อื่น
จำเลยอยู่กับผู้ตายซึ่งเป็นมารดาเลี้ยง จำเลยขอเงินผู้ตายเพื่อเอาไปให้หมอเป็นค่ารักษาไข้ ผู้ตายไม่ให้ และด่าจำเลยว่าลูกหมา ชาติหมา แล้วผู้ตายขึ้นไปชั้นบนถือปืนลูกซองลงมาจ้องจะยิงจำเลย จำเลยใช้มือซ้ายจับปากกระบอกปืนและใช้มือขวาจับด้ามขวาน เหวี่ยงสันขวานไปที่ขมับซ้ายของผู้ตาย ผู้ตายปล่อยปืนล้มนอนหงาย จำเลยแย่งปืนจากผู้ตายไว้ ขณะนั้นผู้ตายไม่มีอาวุธอะไรเลย และไม่มีโอกาสทำร้ายจำเลยได้อีกแล้ว จำเลยยังใช้ปืนยิงผู้ตายถึง 2 นัดที่หน้าอกและศีรษะและยังใช้สันขวานทุบศีรษะผู้ตายอีก โดยกระทำไปด้วยความโกรธ พฤติการณ์เช่นนี้ถือไม่ได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันสิทธิตามกฎหมาย เพราะภยันตรายที่จำเลยได้รับผ่านพ้นไปแล้ว และไม่มีภยันตรายที่ใกล้จะถึงอีก แต่การที่ผู้ตายด่าว่าจำเลยดังกล่าวแล้วและเอาปืนมาจ้องจะยิงจำเลย ข่มเหงจำเลยทั้งๆ ที่จำเลยหลบไปข้างประตู ผู้ตายยังถือปืนตามไปจ้องจะยิงจำเลยอีกจำเลยแย่งปืนได้ จึงใช้ปืนนั้นยิงและใช้ขวานทุบผู้ตาย ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยกระทำความผิดโดยบันดาลโทสะเพราะถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม แม้จำเลยจะมิได้ยกเหตุนี้ขึ้นต่อสู้ ศาลก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1118/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันตัว/บันดาลโทสะ: การใช้ความรุนแรงตอบโต้หลังถูกทำร้ายและข่มเหง
มีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด อ.หาว่าจำเลยที่ 2 เป็นคนยิงและใช้มีดแทงจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ถอยออกไปแล้ว อ.คงยืนอยู่ที่เดิม จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นพี่ของจำเลยที่ 2 ได้ร้องห้ามและวิ่งเข้าไปเพื่อจะแย่งมีดจาก อ.. โดยไม่ปรากฏว่า อ. มีท่าทีจะทำร้ายจำเลยที่ 2 อีกต่อไป อ. เข้าใจว่าจำเลยที่ 1จะเข้ามาทำร้ายตน จึงใช้มีดแทงสวนไป 1 ที จำเลยที่ 1ยังกระโดดเข้ามาหา อ. อีก แล้วเกิดปลุกปล้ำแย่งมีดกันขึ้นจำเลยที่ 1 แย่งไม่ได้ จึงถอยห่างออกไปแล้วใช้ปืนยิง อ. 2 นัดถูกหน้าอก อ. และจำเลยที่ 2 ยกเก้าอี้ขึ้นตีศีรษะ อ. อีก 2 ทีดังนี้ ถือไม่ได้ว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการป้องกันหากแต่เป็นการพยายามฆ่าคนโดยบันดาลโทสะ สำหรับจำเลยที่ 2ยังถือไม่ได้ว่าร่วมกับจำเลยที่ 1 ใช้ปืนยิง อ. จึงมีความผิดฐานทำร้ายร่างกาย อ. จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายโดยบันดาลโทสะเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1118/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบธรรม การบันดาลโทสะ และความผิดฐานพยายามฆ่า/ทำร้ายร่างกาย
มีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด อ.หาว่าจำเลยที่ 2 เป็นคนยิง และใช้มีดแทงจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ถอยออกไปแล้ว อ. คงยืนอยู่ที่เดิม จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นพี่ของจำเลยที่ 2 ได้ร้องห้ามและวิ่งเข้าไปเพื่อจะแย่งมีดจาก อ..โดยไม่ปรากฏว่าอ. มีท่าทีจะทำร้ายจำเลยที่ 2 อีกต่อไป อ. เข้าใจว่าจำเลยที่ 1 จะเข้ามาทำร้ายตน จึงใช้มีดแทงสวนไป 1 ที จำเลยที่ 1 ยังกระโดดเข้ามาหา อ. อีก แล้วเกิดปลุกปล้ำแย่งมีดกันขึ้นจำเลยที่ 1 แย่งไม่ได้ จึงถอยห่างออกไปแล้วใช้ปืนยิง อ.2 นัด ถูกหน้าอก อ.และจำเลยที่2ยกเก้าอี้ขึ้นตีศีรษะอ. อีก 2 ที ดังนี้ ถือไม่ได้ว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการป้องกัน หากแต่เป็นการพยายามฆ่าคนโดยบันดาลโทสะ สำหรับจำเลยที่ 2 ยังถือไม่ได้ว่าร่วมกับจำเลยที่ 1 ใช้ปืนยิง อ. จึงมีความผิดฐานทำร้ายร่างกาย อ. จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายโดยบันดาลโทสะเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2792/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บันดาลโทสะจากพฤติการณ์ชู้และการเย้ยหยัน: การกระทำที่ถูกกดขี่ข่มเหงทางจิตใจตามมาตรา 72
จำเลยกับนาง ก. ผู้ตายเป็นสามีภรรยากันประมาณ 16 ปีโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส มีบุตรด้วยกัน 3 คน อยู่กินร่วมเรือนเดียวกันจนถึงวันเกิดเหตุ ก่อนเกิดเหตุ 2 ปี ผู้ตายกับ ท. สนิทสนมกันชอบไปเล่นการพนันด้วยกันและเป็นชู้กัน เวลาจำเลยไม่อยู่บ้าน ท.มาหลับนอนในห้องเดียวกับผู้ตายที่บ้านจำเลย บุตรจำเลยก็เห็นคนอื่นก็เล่าลือกัน จำเลยเคยขอร้องทั้งผู้ตายและ ท. ไม่ให้เกี่ยวข้องกันก็ไม่มีใครเชื่อ ยังนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์กันไปมาเสมอเป็นการกระทบกระเทือนจิตใจของจำเลยเป็นอย่างยิ่งจำเลยมิใช่คนดุร้าย วันเกิดเหตุ ท. ให้ผู้ตายนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปส่งบ้านจำเลยแลเห็นจำเลยขณะจำเลยกำลังเดินไปตามซอยทางเข้าบ้านก็มิได้ส่งผู้ตายลงตรงนั้นกลับขับขี่รถผ่านจำเลยไปห่างเพียง 1 วา ด้วยความทระนงองอาจปราศจากความยำเกรงจำเลยผู้เป็นสามีเป็นการเย้ยหยันสบประมาทอย่างร้ายแรง พฤติการณ์เช่นนี้นับได้ว่าเป็นการกระทำที่กดขี่ข่มเหงในทางจิตใจของจำเลยอย่างร้ายแรง ด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม เมื่อจำเลยพบเห็นภาพดังกล่าวโดยบังเอิญโดยมิได้คาดคิดไม่สามารถอดกลั้นโทสะไว้ได้จึงใช้ปืนยิงผู้ตายกับ ท. ไปในทันทีทันใด ดังนี้ กรณีต้องด้วยมาตรา 72 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 38/2515)
of 40