คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ปลอมเอกสาร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 284 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปลอมเอกสารและการฉ้อโกง: การแยกพิจารณาความผิดต่างกรรมต่างวาระ
ปลอมไบมอบฉันทะไห้จำนองที่ดินเปนปลอมหนังสือธัมดาไม่ไช่หนังสือสำคัน.
พิจารณาได้ความว่าจำเลยมีความผิดถานปลอมมหนังสือถ้าโจทจะไห้ลงโทสจำเลยถานฉ้อโกงอิกกะทงหนึ่ง จะต้องได้ความว่าจำเลยกะทำการฉ้อโกงต่างกัมต่างวาระจากการกะทำอันเปนองค์ความผิดถานปลอมหนังสือ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1046/2484

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมเอกสารราชการเพื่อหลอกลวงผู้อื่น ถือเป็นความผิดฐานปลอมหนังสือราชการ แม้จะไม่ได้ลอกเลียนแบบจากเอกสารจริง
ไปหลอกลวงว่าทางราชการเรี่ยไรเงิน แล้วออกใบรับเงินในตำแหน่งเสมียนตราและเซ็นชื่ออื่นแม้ไม่ใช่ชื่อของเจ้าพนักงานคนใด ก็เป็นผิดฐานปลอมหนังสือ
ใบรับเงินเรี่ยไรปลอมซึ่งแสดงว่าทางราชการออกให้นั้นเป็นหนังสือราชการ แต่ไม่ใช่หนังสือสำคัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1078/2482

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมเอกสารราชการ (ใบอนุญาตร่อนหาแร่) ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐและเจ้าของสิทธิ
หนังสือใบอนุญาตร่อนหาแร่นั้นเป็นหนังสือราชการปลอมใบอนุญาตร่อนหาแร่โดยพิมพ์ลายนิ้วมือปลอมชื่อผู้อื่นที่มีนามในใบอนุญาตดังนี้ รัฐบาลและผู้มีชื่อตามหนังสือนั้นอาจได้รับความเสียหายได้ จำเลยต้องมีผิดฐานปลอมหนังสือ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1031/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปลอมเอกสารเพื่อหลอกลวงเอาทรัพย์และอำนาจการฟ้องคืนทรัพย์ในคดีอาญา
จำเลยเป็นธรรมการอำเภอทำหนังสือปลอมเป็นใบรับเงินของผู้มีสิทธิจะรับเงินค่าก่อสร้างโรงเรียนไปยื่นต่อนายอำเภอเพื่อให้จ่ายเงิน นายอำเภอหลงเชื่ออนุญาตให้จำเลยรับเงินไปจำเลยเอาเงินนี้ไว้เสียเอง จำเลยไม่มีผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานยักยอกตามกฎหมายอาญา ม.131 และฐานเป็นเจ้าพนักงานปลอมหนังสือซึ่งอยู่ในหน้าที่ตาม ม.229 ทั้งไม่เป็นการปลอมหนังสือสำคัญในราชการตาม ม.225 ด้วยประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.43,253
คดีความผิดฐานปลอมหนังสืออัยยการไม่มีอำนาจฟ้องขอให้จำเลยคืนทรัพย์แทนผู้เสียหายโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมขึ้นมาถึงแม้ทางพิจารณาปรากฎว่าจำเลยทำการฉ้อโกง เมื่ออัยยการไม่ได้ฟ้องฐานนี้เแล้วก็ไม่มีสิทธิขอคืนทรัพย์ตามวิธีพิจารณาอาญา ม.43

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 653/2480

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขโทษจำคุกจากความผิดฐานปลอมเอกสารและการฉ้อโกง: การพิจารณาข้อเท็จจริงและขอบเขตการแก้ไขโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีผิดตาม ม. 304 - 224 ให้จำคุกตาม ม. 224 ซึ่งเป็น+หนักมีกำหนด 1 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีผิดตาม ม. 224 บทเดียว ให้จำคุก 2 ปี ดังนี้เป็นแก่น้อยฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1046/2477

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมเอกสารราชการ แม้ไม่เกิดความเสียหาย ก็เป็นความผิดได้ หากอาจก่อให้เกิดความเสียหายได้
ตั๋วพิมพ์รูปพรรณโคเป็นหนังสือสำคัญในราชการ ผู้ใดปลอมมีผิดตามมาตรา 225 การปลอมหนังสือถ้าอาจจะเกิดเสียหายขึ้นได้ก็เป็นความผิดไม่ต้องถึงกับให้การเสียหายเกิดขึ้นแล้วฎีกาอ้างว่าเป็นข้อกฎหมายแต่ไม่ได้อธิบายข้อกฎหมายนั้นไม่เป็นฎีกาชี้แจงในข้อกฎหมาย ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 607/2475

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปลอมเอกสาร โดยการลงชื่อบุคคลที่ไม่มีอยู่จริง
ปลอมชื่อบุคคลซึ่งไม่มีตัวจริง มีผิดฐานปลอม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 298/2474

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมเอกสาร (บัตร์สนเทห์) ต้องพิสูจน์ความเสียหายต่อผู้อื่นจึงจะมีผิด
พะยาน หน้าที่นำสืบฟ้องหาว่าปลอมหนังสือโจทก์ต้องสืบว่าอาจทำให้ผู้หนึ่งผู้ใดเสียหายจำเลยจึงจะมีผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5258/2558

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานปลอมเอกสารโดยไม่มีอำนาจหน้าที่โดยตรง ไม่เป็นความผิดตาม ป.อ.มาตรา 161
การที่จำเลยกระทำการปลอมเอกสารใบรับฝากส่งไปรษณีย์ด่วนพิเศษของที่ทำการไปรษณีย์พิษณุโลก ด้วยการกรอกข้อความให้ปรากฏว่าเป็นการรับฝากส่งไปรษณีย์ด่วนพิเศษว่าได้ส่งไปตามหน่วยราชการต่าง ๆ แล้วอันเป็นเท็จ นั้น ตามใบรับฝากไปรษณีย์ในประเทศ รวม 7 ฉบับ ด้านบนมีข้อความระบุว่า ผู้ฝากส่งเป็นผู้กรอกข้อความ เมื่อผู้ฝากส่งกรอกข้อความแล้วได้นำส่งให้แก่เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ เพื่อนำซองเอกสารนั้นชั่งน้ำหนักและดำเนินการต่อโดยกรอกข้อความในส่วนด้านล่างที่มีข้อความระบุว่า เจ้าหน้าที่เป็นผู้กรอกข้อความซึ่งหมายถึงเจ้าพนักงานไปรษณีย์ผู้มีหน้าที่โดยตรงในการจัดทำเอกสารดังกล่าวซึ่งเป็นเอกสารของที่ทำการไปรษณีย์พิษณุโลก ดังนั้น การที่จำเลยกระทำการปลอมเอกสารดังกล่าว โดยจำเลยมีหน้าที่ตามคำสั่งองค์การบริหารส่วนตำบล ผ. เพียงเป็นผู้ปลดและผู้นำส่งประกาศประกวดราคาจ้างเหมาของผู้เสียหาย จำเลยจึงไม่เป็นเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจหน้าที่โดยตรงในการจัดทำเอกสารใบรับฝากส่งไปรษณีย์ด่วนพิเศษดังกล่าว การที่จำเลยปลอมเอกสารดังกล่าว จึงไม่ถือว่ากระทำโดยอาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่นั้น ไม่เป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 161 ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
โจทก์บรรยายฟ้องเพียงว่าจำเลยได้รับการแต่งตั้งจากนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ผ. ให้เป็นเจ้าหน้าที่พัสดุ เป็นเจ้าหน้าที่มีหน้าที่ปลดและนำส่งเอกสารประกาศประกวดราคาจ้างเหมาก่อสร้างของผู้เสียหายซึ่งกำหนด ให้มีหน้าที่นำเอกสารประกาศประกวดราคาจ้างเหมาก่อสร้างดังกล่าว เผยแพร่ไปยังสถานที่ราชการต่าง ๆ รวมเจ็ดแห่ง ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุขององค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2538 ข้อ 31 ดังนั้น ข้อฎีกาของโจทก์ที่ว่าจำเลยมีหน้าที่กรอกข้อความในใบรับฝากไปรษณีย์ด่วนพิเศษตามมติคณะรัฐมนตรี พ.ศ.2542 และตามหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดังกล่าวจึงเป็นการนอกฟ้องและเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 6 เป็นฎีกาที่ไม่ชอบตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง ป.วิ.อ. มาตรา 15

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14496/2558

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ องค์ประกอบความผิดฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม รวมถึงความรับผิดฐานของทนายความในการรับรองเอกสาร
โจทก์กล่าวหาจำเลยที่ 1 ว่าปลอมรายงานการประชุมวิสามัญ ครั้งที่ 3/2527 ของบริษัท ง. รายงานการประชุมระบุว่า ป. กับพวก ซื้อที่ดินโฉนดตราจองเลขที่ 169 มาจากบุคคลภายนอกในนามกิจการ โดยให้ ช. ถือกรรมสิทธิ์แทน ซึ่งเป็นความเท็จ ทั้งไม่มีการประชุมจริง แต่ในคำฟ้องมิได้บรรยายว่าเป็นการปลอมเอกสารสิทธิโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนและกระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง อันเป็นองค์ประกอบของความผิดฐานปลอมเอกสาร รายงานการประชุมวิสามัญ ครั้งที่ 3/2527 ตามเอกสารท้ายฟ้องถือเป็นส่วนหนึ่งของฟ้องซึ่งเป็นรายละเอียดที่แสดงให้เห็นว่าใครร่วมประชุมและประชุมเรื่องใดบ้าง ใครเป็นผู้ลงลายมือชื่อในรายงานการประชุม แต่ก็มิใช่องค์ประกอบความผิด และการนำไปเป็นหลักฐานเสนอต่อศาลชั้นต้นเพื่อประกอบ การฟ้องคดีแพ่ง ก็อาจมิได้มีมูลเหตุจูงใจที่จะให้ศาลหลงเชื่อว่ารายงานการประชุมเป็นเอกสารที่แท้จริงได้ เมื่อฟ้องโจทก์ขาดองค์ประกอบความผิดฐานปลอมเอกสาร จึงเป็นฟ้องที่ไม่ชอบตาม ป.วิ.อ. มาตรา 158 (5) ศาลต้องพิพากษายกฟ้องตามมาตรา 161 ส่วนความผิดฐานทำคำรับรองเป็นเอกสารอันเป็นความเท็จนั้น จำเลยที่ 3 ลงลายมือชื่อรับรองสำเนารายงานการประชุมวิสามัญฉบับดังกล่าว เป็นเพียงการให้คำรับรองว่าสำเนาเอกสารนี้มีข้อความถูกต้องตรงกับต้นฉบับหาได้มีความหมายเป็นการรับรองว่า บริษัท ง. ได้จัดให้มีการประชุมวิสามัญตามเนื้อความที่ระบุในสำเนารายงานการประชุมวิสามัญฉบับดังกล่าวแต่อย่างใดไม่ แม้จะได้ความตามที่โจทก์ทั้งสามกล่าวอ้างว่าบริษัท ง. ไม่ได้จัดให้มีการประชุมวิสามัญ และรายงานการประชุมวิสามัญเป็นเอกสารเท็จ จำเลยที่ 3 ก็ไม่มีความผิดฐานทำคำรับรองเป็นเอกสารอันเป็นเท็จ
of 29