คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
พิจารณา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 380 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 860/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมรับราคาประมาณในคดีมรดก: ศาลต้องพิจารณาราคาจริงหากโจทก์ไม่ยอมรับราคาที่ศาลเปรียบเทียบ
โจทก์ฟ้องเรียกร้องเอาทรัพย์สิ่งของจากจำเลยและประมาณราคาที่โจทก์ควรได้รับมาในชั้นชี้สองสถานจำเลยยอมใช้ราคาตามที่โจทก์ฟ้องตามคำเปรียบเทียบของศาลโจทก์กลับไม่ยอมรับเงินจะให้ศาลดำเนินการพิจารณาต่อไปศาลชั้นต้นสั่งว่าโจทก์ได้รับราคาทรัพย์สินตามที่ฟ้องเรียกร้องแล้ว ไม่มีอะไรที่จะต้องพิจารณาต่อไป จึงสั่งตัดพยานและพิพากษาให้โจทก์รับเงินตามที่โจทก์ฟ้องเรียกร้อง
ศาลฎีกาพิพากษาว่า ราคาทรัพย์สินที่โจทก์เรียกมาเพียงแต่ประมาณเมื่อโจทก์ไม่ยอมตามที่ศาลเปรียบเทียบก็ต้องพิจารณากันไปและตัดสินไปตามรูปคดีโดยถือว่าโจทก์ฟ้องเรียกร้องเอาเพียงที่ประมาณมาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดหลายฐานโดยผู้กระทำผิดคนเดียวกัน: อำนาจศาลและหลักการพิจารณาความเกี่ยวพัน
ถ้าปรากฏความผิดหลายฐานได้กระทำลงโดยผู้กระทำผิดคนเดียวก็ย่อมฟ้องคดีทุกเรื่องต่อศาลซึ่งมีอำนาจชำระในฐานความผิดซึ่งมีอัตราโทษสูงได้ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 24(1)นั้น
กฎหมายถือเอาบุคคลผู้กระทำผิดเป็นสำคัญ มิใช่อาศัยแต่การเกี่ยวพันเฉพาะฐานความผิดเท่านั้น
จำเลยกระทำผิดฐานปล้นทรัพย์ที่จังหวัดปากพนัง และถูกฟ้องยังศาลปากพนัง คดีอยู่ระหว่างพิจารณาจำเลยมากระทำผิดฐานมีอาวุธปืนและลูกระเบิดมือที่จังหวัดนครศรีธรรมราชอีกดังนี้ โจทก์จึงฟ้องคดีหลังต่อศาลจังหวัดปากพนังได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 670/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องซ้ำในคดีอาญา: การกระทำต่างกรรมต่างวาระไม่ถือเป็นการฟ้องซ้ำ
พฤติการณ์ที่ไม่ถือว่าเป็นการฟ้องซ้ำในคดีอาญา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1696/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนสัญชาติไทยจากกรณีการกระทำความผิดทางอาญาและการพิจารณาถึงสัญชาติเดิมของบิดามารดา
กรณีที่ผู้มีสัญชาติไทยเพราะเกิดในราชอาณาจักร แต่บิดาเป็นคนต่างด้าว กระทำผิด พระราชบัญญัติวิทยุสื่อสารฯโดยบังอาจมีตั้งและใช้เครื่องส่งและรับวิทยุติดต่อกับต่างประเทศนั้น เป็นการกระทำอันเป็นเหตุที่ศาลจะสั่งให้ถอนสัญชาติไทยได้
มาตรา 7 แห่ง พระราชบัญญัติสัญชาติซึ่งแก้ไข เป็นเรื่องเกี่ยวแก่การได้สัญชาติโดยการเกิด หาได้หมายถึงเรื่องที่จะสั่งถอนสัญชาติตามมาตรา 16 แห่ง พระราชบัญญัติสัญชาติไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1460/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาในข้อเท็จจริงต้องพิจารณาจากทุนทรัพย์ ณ เวลาที่ยื่นฎีกา ไม่ใช่ตอนฟ้อง
คดีแพ่งที่มีทุนทรัพย์ไม่เกินกว่า 5,000 บาทนั้น จะฏีกาในข้อเท็จจริงได้หรือไม่ ต้องแล้วแต่ว่าศาลสั่งรับฏีกาเมื่ดใดไม่ใช่ถือเอาวันที่โจทก์ฟ้องคดีในศาลชั้นต้น เมื่อจำเลยยื่นฎีกาเมื่อใช้ ป.วิ.แพ่ง มาตรา 248 ตามที่แก้ไขพ.ศ. 2499 แล้วก็ต้องถือทุนทรัพย์ตามประมวลฉบับใหม่ (เทียบคำสั่งคำร้องศาลฏีกาที่ 466/2499).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 810/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาความชัดเจนของฟ้องอาญา ต้องพิจารณาจากข้อความทั้งหมดที่บรรยายไว้
การพิเคราะห์ฟ้องของโจทก์นั้นจะต้องพิจารณาข้อความที่โจทก์บรรยายไว้ทั้งหมดประกอบกัน
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยวิ่งราวทรัพย์โจทก์ไปต่หน้าเป็นเงิน 1,700 บาท
ดังนี้เรียกว่าโจทก์บรรยายฟ้องไว้แล้วว่าทรัพย์ที่จำเลยทำการฉกฉวยไปนั้นเป็นเงิน จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 308/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่า พิจารณาจากอาวุธ, ลักษณะบาดแผล, และผลการกระทำ
ได้ความว่าจำเลยใช้มีดปลายแหลมขนาดข่อนค้างใหญ่ตัวมีดวัดได้ยาวถึง 21 ซม. จำเลยแทงผู้ตายโดยเต็มแรงตรงชายโครงด้านขวาซึ่งเป็นที่สำคัญปรากฏว่าผู้ตายถูกแทงเป็นบาดแผลลึกถึง 14 1/2 ซม. กว้าง 3 ซม.ทะลุภายในช่องท้องถึงกะเพาะอาหารลำใส้ขาดทะลักออกมาจุกปากแผลโลหิตตกใน ผู้ตายถูกแทงแล้ววิ่งไล่จำเลยไปได้ 4 วาก็ล้มลงขาดใจตาย การกระทำของจำเลยอาจแลเห็นผลได้ว่าผู้ที่ตนแทงอาจถึงแก่ความตายถือว่าจำเลยฆ่าคนตายโดยเจตนา
จำเลยจะฆ่าคนตายโดยเจตนาหรือไม่เจตนานั้นศาลจะต้องพิเคราะห์ถึงอาวุธที่ใช้ทำร้ายว่าร้ายแรงเพียงใดลักษณะของบาดแผลที่ถูกทำร้าย ผลอันเนื่องมาจากการกระทำร้าย ประกอบกันเข้าเป็นเกณฑ์วินิจฉัยความผิดของจำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 308/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่า พิจารณาจากอาวุธ, ลักษณะบาดแผล, และผลที่เกิดขึ้น
ได้ความว่าจำเลยใช้มีดปลายแหลมขนาดค่อนข้างใหญ่ตัวมีดวัดวัดได้ยาวถึง 21 ซม. จำเลยแทงผู้ตายโดยเต็มแรงตรงชายโครงด้านขวาซึ่งเป็นที่สำคัญปรากฏว่าผู้ตายถูกแทงเป็นบาดแผลลึกถึง14.5 ซม.กว้าง3ซม.ทะลุภายในช่องท้องถึงกะเพาะอาหารลำไส้ขาดทะลักออกมาจุกปากแผลโลหิตตกใน ผู้ตายถูกแทงแล้ววิ่งไล่จำเลยไปได้ 4 วาก็ล้มลงขาดใจตายการกระทำของจำเลยอาจแลเห็นผลได้ว่าผู้ที่ตนแทงอาจถึงแก่ความตายถือว่าจำเลยฆ่าคนตายโดยเจตนา
จำเลยจะฆ่าคนตายโดยเจตนาหรือไม่เจตนานั้นศาลจะต้องพิเคราะห์ถึงอาวุธที่ใช้ทำร้ายว่าร้ายแรงเพียงใด ลักษณะของบาดแผลที่ถูกทำร้าย ผลอันเนื่องมาจากการกระทำร้ายประกอบกันเข้าเป็นเกณฑ์วินิจฉัยความผิดของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1529/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งระหว่างพิจารณาไม่สามารถอุทธรณ์ฎีกาได้ หากศาลยังไม่ได้ฟังข้อเท็จจริง
การที่ศาลชั้นต้นมิได้ชี้ขาดข้อกฎหมายเบื้องต้นโดยต้องฟังข้อเท็จจริงก่อนเช่นนี้เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาจะอุทธรณ์ฎีกาหาได้ไม่ ต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่ง ม.226.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1529/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งระหว่างพิจารณาไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่อุทธรณ์ฎีกาได้ตามมาตรา 226
การที่ศาลชั้นต้นมิได้ชี้ขาดข้อกฎหมายเบื้องต้นโดยต้องฟังข้อเท็จจริงก่อนเช่นนี้เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาจะอุทธรณ์ฎีกาหาได้ไม่ ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226
of 38