คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องอาญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 546 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1547/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชอบด้วยกฎหมายของฟ้องอาญาที่ระบุความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาหรือประมาท และการรับสารภาพความผิดฐานประมาท
ฟ้องบรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยกระทำผิด ข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้น ๆ อีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีว่า จำเลยได้กระทำผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาหรือมิฉะนั้นก็กระทำผิดฐานทำให้คนตายโดยประมาทโดยชัดแจ้ง แสดงว่าฟ้องมีความประสงค์จะให้ลงโทษฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาหรือมิฉะนั้นก็ขอให้ลงโทษฐานทำให้คนตายโดยประมาทประกอบกับฟ้องได้บรรยายถึงข้อเท็จจริงที่อ้างว่าจำเลยกระทำเป็นท้องเรื่องมาครบถ้วนชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว ฟ้องโจทก์จึงชอบด้วยกฎหมาย ไม่เคลือบคลุม ไม่ขัดแย้งกัน หรือเอาเปรียบจำเลย จำเลยเข้าใจฟ้องได้ดี เมื่อจำเลยรับสารภาพฐานทำให้คนตายโดยประมาทตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291 ก็ลงโทษจำเลยได้ (อ้างฎีกาที่ 1780/2497และฎีกาที่ 86/2503). (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 24/2511)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1547/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชอบด้วยกฎหมายของฟ้องอาญาฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาหรือประมาท และการรับสารภาพความผิดฐานประมาท
ฟ้องบรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยกระทำผิดข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้นๆ อีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีว่าจำเลยได้กระทำผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา หรือมิฉะนั้นก็กระทำผิดฐานทำให้คนตายโดยประมาทโดยชัดแจ้ง แสดงว่าฟ้องมีความประสงค์จะให้ลงโทษฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาหรือมิฉะนั้นก็ขอให้ลงโทษฐานทำให้คนตายโดยประมาท ประกอบกับฟ้องได้บรรยายถึงข้อเท็จจริงที่อ้างว่าจำเลยกระทำเป็นท้องเรื่องมาครบถ้วนชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว ฟ้องโจทก์จึงชอบด้วยกฎหมาย ไม่เคลือบคลุม ไม่ขัดแย้งกัน หรือเอาเปรียบจำเลย จำเลยเข้าใจฟ้องได้ดี เมื่อจำเลยรับสารภาพฐานทำให้คนตายโดยประมาทตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291 ก็ลงโทษจำเลยได้ (อ้างฎีกาที่ 1780/2497 และฎีกาที่ 86/2503) (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 24/2511)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1522/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขัดขวางการส่งเอกสารตามหมายศาล ไม่ทำให้โจทก์เป็นผู้เสียหายที่จะฟ้องอาญาได้
โจทก์นำหมายศาลที่สั่งเรียกเอกสารซึ่งอยู่ในครอบครองของจำเลยส่งให้จำเลยที่ศาล. จำเลยรับหมายแล้วกล่าวว่า เป็นเรื่องบ้าๆบอๆ แล้วทิ้งหมายลงบนพื้นทางเดิน. ต่อมาโจทก์ได้ให้พนักงานศาลนำส่งหมายเรียกเอกสารเหล่านั้นแก่จำเลยอีก. จำเลยจงใจขัดอำนาจศาล. ไม่ยอมส่งเอกสารต่อศาล. ถือว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย.เพราะโจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายตามนัยแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2 ข้อ 4.ผู้เสียหายคือบุคคลผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดฐานใดฐานหนึ่ง. กรณีนี้เป็นเพียงเรื่องที่งดเว้นไม่ยอมกระทำการอย่างหนึ่งขึ้นเท่านั้น. สิทธิหน้าที่ของโจทก์จำเลยไม่ได้มีต่อกันโดยตรงที่จะต้องให้เอกสารนั้นมาดู. การไม่ยอมส่งของจำเลยจึงไม่ใช่เป็นการงดเว้นที่ล่วงสิทธิหน้าที่ของโจทก์. โจทก์ไม่ใช่เป็นผู้เสียหาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 856/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขฟ้องอาญาที่ไม่สมบูรณ์ และความผิดฐานฉ้อโกงทรัพย์จากการขายแชร์เปียหวย
โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องโดยขอให้ศาลอนุญาตให้โจทก์ลงชื่อในท้ายฟ้อง หรือถือเอาคำร้องเป็นการลงชื่อในช่องโจทก์ท้ายฟ้องได้ ก่อนที่จะได้มีการสืบพยานโจทก์ การขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องเช่นนี้หาใช่ทำให้จำเลยต้องเสียเปรียบหรือหลงต่อสู้คดีแต่อย่างใดไม่ ควรอนุญาตให้โจทก์แก้ไขเพิ่มเติมฟ้องเสียให้ถูกต้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 163, 164
จำเลยเอาความเท็จไปหลอกลวงโจทก์ว่าเป็นหัวหน้าวงแชร์เปียหวยและมีแชร์อยู่ โจทก์หลงเชื่อจึงตกลงรับซื้อแชร์ไว้ โดยจ่ายเงินให้จำเลยไป 7,000 บาท ซึ่งความจริงจำเลยไม่ได้เปิดวงแชร์เปียหวยตามที่จำเลยอ้าง ดังนี้ จำเลยย่อมมีความผิดฐานฉ้อโกงทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1298/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องอาญา: การแจ้งความไม่ระบุชื่อจำเลยร่วมกระทำความผิด ทำให้ขาดอายุความฟ้อง
คำร้องทุกข์ของผู้เสียหายไม่ได้ระบุชื่อจำเลยเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดจึงไม่เป็นคำร้องทุกข์ที่ผู้เสียหายประสงค์จะให้จำเลยรับโทษตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(7),123
ความผิดอันยอมความได้ เมื่อผู้เสียหายไม่ร้องทุกข์กล่าวโทษจำเลยภายในสามเดือนนับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดคดีเป็นอันขาดอายุความ สิทธินำคดีมาฟ้องร้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(6)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 679/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องอาญาฐานปลอมแปลงเอกสารต้องแสดงหลักฐานการสมคบร่วมกัน การให้การรับสารภาพเพียงอย่างเดียวไม่ถือเป็นความผิด
ฟ้องที่ไม่มีข้อความอันแสดงว่าจำเลยได้สมคบหรือร่วมมือกับผู้อื่นในการปลอมเอกสารหรือใช้เอกสารปลอม ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 264,265,268,83 ที่โจทก์อ้าง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 228/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดเช็ค: การปฏิเสธการจ่ายเงินคือจุดเริ่มต้นความผิด การระบุวันเขียนเช็คไม่จำเป็น
ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ฯ เกิดขึ้นต่อเมื่อธนาคารซึ่งมีชื่อเป็นผู้ใช้เงินตามเช็คได้ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้น และแม้เป็นการออกเช็คล่วงหน้า ก็ถือไม่ได้ว่าวันที่จำเลยเขียนเช็คนั้นเป็นเวลาเกิดเหตุการกระทำผิด ฉะนั้น การที่โจทก์ไม่ระบุวันจำเลยเขียนเช็คมาในฟ้อง จึงหาขาดสารสำคัญไม่ และที่โจทก์ไม่ระบุเลขที่ของเช็ค ไม่มีสำเนาเช็ค สำเนาใบคืนเช็ค ที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินมาท้ายฟ้อง ก็หาทำให้ฟ้องของโจทก์ขาดสารสำคัญไม่ ฟ้องไม่เคลือบคลุม อนึ่งโจทก์ได้บรรยายฟ้องมาโดยชัดแจ้งว่า จำเลยออกเช็คธนาคารนครหลวงไทย จำกัด เบตง จึงเป็นที่เข้าใจได้ว่า ธนาคารที่ปฏิเสธการจ่ายเงินนั้น คือธนาคารดังกล่าวนั่นเอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1638/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องอาญาเบียดบังทรัพย์ไม่สมบูรณ์ เหตุไม่ระบุวันกระทำผิดชัดเจน
ฟ้องที่มิได้บรรยายให้ชัดแจ้ง ไม่เป็นการแน่นอนว่าโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยเบียดบังทรัพย์ของโจทก์ไว้เป็นประโยชน์ของจำเลยเมื่อวันเดือนใด ฯลฯ ไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1638/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องอาญาไม่ชัดเจนวันกระทำผิด ทำให้ฟ้องไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย
ฟ้องที่มิได้บรรยายให้ชัดแจ้ง ไม่เป็นการแน่นอนว่าโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยเบียดบังทรัพย์ของโจทก์ไว้เป็นประโยชน์ของจำเลยเมื่อวัน เดือนใด ฯลฯ ไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1360/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องอาญาต้องระบุรายละเอียดทรัพย์สินที่ถูกปล้น เพื่อให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ชัดเจน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับพวกสมคบกันปล้นทรัพย์ของนายชายและนางแอ๋ไปรวมราคา 3,344 บาท ตามบัญชีท้ายฟ้อง และบัญชีท้ายฟ้องระบุเพียงว่าทรัพย์ของนายชายราคา 1,344 บาท ทรัพย์ของนางแอ๋ราคา 2,000 บาท เมื่อโจทก์ไม่ได้ระบุว่าจำเลยปล้นทรัพย์อะไรไปบ้าง ฟ้องโจทก์จึงไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรเท่าที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีตามมาตรา 158(5) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาจึงเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 25/2509)
of 55