พบผลลัพธ์ทั้งหมด 308 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1976/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้คดีว่าลงชื่อในสัญญากู้เพื่อค้ำประกัน ไม่ใช่ผู้กู้จริง มีสิทธิพิสูจน์ได้ว่าไม่มีมูลหนี้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญากู้เงินโจทก์ไป 7,000 บาท ได้มอบตราจองที่ดินของจำเลยให้โจทก์ยึดถือไว้ แล้วจำเลยไม่ชำระ จำเลยให้การต่อสู้คดีว่า น้องสาวและน้องเขยของจำเลยกู้เงินโจทก์ 14,000 บาท ได้นำตราจองไปให้โจทก์ยึดถือไว้ เนื่องจากจำเลยและน้องสาวของจำเลยมีชื่อถือกรรมสิทธิ์ร่วมในตราจองดังกล่าว จำเลยจึงลงชื่อในสัญญากู้เพื่อค้ำประกันหนี้ของน้องสาวและน้องเขย โดยจำเลยไม่ได้รับเงินตามสัญญากู้ไปจากโจทก์ ดังนี้ จำเลยมีสิทธินำสืบพยานบุคคลตามข้อต่อสู้ของจำเลยได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 วรรคท้าย เพราะเป็นการนำสืบถึงข้อตกลงอันเป็นมูลเหตุและความประสงค์ที่ทำสัญญาเพื่อแสดงว่าไม่มีมูลหนี้ตามหนังสือสัญญากู้ที่จะทำให้จำเลยต้องรับผิดใช้เงินแก่โจทก์ประการหนึ่ง และหนี้เงินกู้ตามที่ระบุไว้ในสัญญากู้ไม่สมบูรณ์ เพราะโจทก์ไม่ได้ส่งมอบเงินที่กู้ให้จำเลยอีกประการหนึ่ง(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 15 และ 16/2518)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 599/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไต่สวนคำร้องเพิกถอนคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราว และหลักเกณฑ์ 'คดีมีมูล' ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย
จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นสั่งเพิกถอนคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยชั่วคราว ศาลชั้นต้นนัดพิจารณาคำร้อง และในวันนัดได้สอบข้อเท็จจริงจากคู่ความแล้วเห็นว่าวินิจฉัยได้โดยไม่ต้องทำการไต่สวนต่อไป วินิจฉัยให้ยกคำร้องของจำเลยเสียนั้น ถือได้ว่าเป็นการไต่สวนคำร้องของจำเลยแล้ว
ตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ ศาลจะพิพากษาให้จำเลยล้มละลายจะต้องพิจารณาให้ได้ความจริงตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในมาตรา 9 หรือ 10 คำว่าคดีมีมูล ตามที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 17 ซึ่งเป็นบทว่าด้วยการคุ้มครองชั่วคราวในระหว่างพิจารณาเพื่อป้องกันความเสียหายอันเกิดจากการกระทำของลูกหนี้ในระหว่างนั้นจึงมีความหมายว่ามีมูลที่จะพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายได้หาได้หมายความเพียงมีมูลเป็นหนี้สินกันอยู่จริงแต่อย่างเดียวไม่
ตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ ศาลจะพิพากษาให้จำเลยล้มละลายจะต้องพิจารณาให้ได้ความจริงตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในมาตรา 9 หรือ 10 คำว่าคดีมีมูล ตามที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 17 ซึ่งเป็นบทว่าด้วยการคุ้มครองชั่วคราวในระหว่างพิจารณาเพื่อป้องกันความเสียหายอันเกิดจากการกระทำของลูกหนี้ในระหว่างนั้นจึงมีความหมายว่ามีมูลที่จะพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายได้หาได้หมายความเพียงมีมูลเป็นหนี้สินกันอยู่จริงแต่อย่างเดียวไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 438/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือรับสภาพหนี้ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง และเริ่มนับใหม่ตามอายุความของมูลหนี้เดิม
หนังสือรับสภาพหนี้ เป็นหนังสือที่ลูกหนี้ยอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องต่อเจ้าหนี้ มีผลแต่เพียงทำให้ อายุความสะดุดหยุดลงแล้วเริ่มนับอายุความขึ้นใหม่ตามอายุความแห่งมูลหนี้ที่ลูกหนี้รับสภาพต่อเจ้าหนี้ ตั้งแต่เวลาเมื่อเหตุที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงนั้นสุดสิ้นไป
จำเลยทำหนังสือรับสภาพหนี้ค่าซื้อสินค้าเงินเชื่อให้โจทก์ไว้เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2511 สัญญาว่าจะนำเงินที่เป็นหนี้มาชำระให้โจทก์เสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2511 ถึงกำหนดแล้วจำเลยไม่ชำระให้ โจทก์มาฟ้องคดีเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2514นับแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2511 เกินสองปีแล้ว คดีโจทก์จึงขาดอายุความ
จำเลยทำหนังสือรับสภาพหนี้ค่าซื้อสินค้าเงินเชื่อให้โจทก์ไว้เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2511 สัญญาว่าจะนำเงินที่เป็นหนี้มาชำระให้โจทก์เสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2511 ถึงกำหนดแล้วจำเลยไม่ชำระให้ โจทก์มาฟ้องคดีเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2514นับแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2511 เกินสองปีแล้ว คดีโจทก์จึงขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 438/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือรับสภาพหนี้ทำให้อายุความสะดุดหยุด และเริ่มนับใหม่ตามอายุความของมูลหนี้เดิม คดีขาดอายุความหากเกินกำหนด
หนังสือรับสภาพหนี้เป็นหนังสือที่ลูกหนี้ยอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องต่อเจ้าหนี้ มีผลแต่เพียงทำให้อายุความสะดุดหยุดลงแล้วเริ่มนับอายุความขึ้นใหม่ตามอายุความแห่งมูลหนี้ที่ลูกหนี้รับสภาพต่อเจ้าหนี้ ตั้งแต่เวลาเมื่อเหตุที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงนั้นสุดสิ้นไป
จำเลยทำหนังสือรับสภาพหนี้ค่าซื้อสินค้าเงินเชื่อให้โจทก์ไว้เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2511 สัญญาว่าจะนำเงินที่เป็นหนี้มาชำระให้โจทก์เสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2511 ถึงกำหนดแล้วจำเลยไม่ชำระให้ โจทก์มาฟ้องคดีเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2514 นับแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2511 เกินสองปีแล้ว คดีโจทก์จึงขาดอายุความ
จำเลยทำหนังสือรับสภาพหนี้ค่าซื้อสินค้าเงินเชื่อให้โจทก์ไว้เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2511 สัญญาว่าจะนำเงินที่เป็นหนี้มาชำระให้โจทก์เสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2511 ถึงกำหนดแล้วจำเลยไม่ชำระให้ โจทก์มาฟ้องคดีเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2514 นับแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2511 เกินสองปีแล้ว คดีโจทก์จึงขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2478/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คเพื่อค้ำประกันไม่พ้นความรับผิด เช็คเป็นเพียงตราสารสั่งจ่ายเงิน มูลหนี้เป็นรายละเอียดที่สืบได้
โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็ค จำเลยให้การต่อสู้เป็นประเด็นไว้ในคำให้การว่าจำเลยออกเช็คเพื่อเป็นหลักประกันมิใช่จ่ายเงินตามเช็คเพื่อชำระหนี้ให้โจทก์ ดังนี้ แม้จำเลยจะนำสืบฟังได้ตามข้อต่อสู้ก็ไม่พ้นความรับผิดเพราะการออกเช็คเพื่อค้ำประกันลูกหนี้ให้โจทก์ก็เป็นการออกเช็คโดยเจตนาจะให้ผูกพันและชำระหนี้ได้ตามกฎหมายโดยลูกหนี้มีมูลหนี้ต่อโจทก์จริง
การฟ้องเรียกเงินตามเช็ค แม้จะมิได้ระบุมูลหนี้ก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะเช็คเป็นเพียงตราสารที่สั่งให้ธนาคารจ่ายเงินมูลหนี้เป็นค่าอะไร เป็นรายละเอียดที่จะนำสืบกันได้ในชั้นพิจารณา
การฟ้องเรียกเงินตามเช็ค แม้จะมิได้ระบุมูลหนี้ก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะเช็คเป็นเพียงตราสารที่สั่งให้ธนาคารจ่ายเงินมูลหนี้เป็นค่าอะไร เป็นรายละเอียดที่จะนำสืบกันได้ในชั้นพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2478/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คค้ำประกันยังผูกพันตามกฎหมาย แม้ไม่ระบุมูลหนี้ในฟ้องก็ไม่เคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็ค จำเลยให้การต่อสู้เป็นประเด็นไว้ในคำให้การว่าจำเลยออกเช็คเพื่อเป็นหลักประกันมิใช่จ่ายเงินตามเช็คเพื่อชำระหนี้ให้โจทก์ ดังนี้แม้จำเลยจะนำสืบฟังได้ตามข้อต่อสู้ก็ไม่พ้นความรับผิดเพราะการออกเช็คเพื่อค้ำประกันลูกหนี้ให้โจทก์ก็เป็นการออกเช็คโดยเจตนาจะให้ผูกพันและชำระหนี้ได้ตามกฎหมายโดยลูกหนี้มีมูลหนี้ต่อโจทก์จริง
การฟ้องเรียกเงินตามเช็ค แม้จะมิได้ระบุมูลหนี้ก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุมเพราะเช็คเป็นเพียงตราสารที่สั่งให้ธนาคารจ่ายเงินมูลหนี้เป็นค่าอะไร เป็นรายละเอียดที่จะนำสืบกันได้ในชั้นพิจารณา
การฟ้องเรียกเงินตามเช็ค แม้จะมิได้ระบุมูลหนี้ก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุมเพราะเช็คเป็นเพียงตราสารที่สั่งให้ธนาคารจ่ายเงินมูลหนี้เป็นค่าอะไร เป็นรายละเอียดที่จะนำสืบกันได้ในชั้นพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2354/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบรายละเอียดการซื้อขายที่เป็นมูลหนี้ ไม่เป็นการนำสืบนอกข้อหา
ในคดีฟ้องเรียกให้ชำระเงินค่าซื้อวัสดุก่อสร้างที่ค้างชำระโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยได้ติดต่อขอซื้อไปจากโจทก์ แต่ในชั้นพิจารณาโจทก์นำสืบว่า จำเลยได้มอบให้ ก. เป็นตัวแทนมาติดต่อขอซื้อไปจากโจทก์ ดังนี้ เป็นการนำสืบถึงรายละเอียดในการติดต่อขอซื้อวัสดุก่อสร้างจากโจทก์อันเป็นมูลแห่งหนี้ ซึ่งเกี่ยวแก่ประเด็นแห่งคดีโดยตรง มิใช่เป็นการนำสืบนอกข้อหาในคำฟ้องอันจะรับฟังเป็นพยานหลักฐานสนับสนุนคำฟ้องไม่ได้(อ้างฎีกาที่ 1025/2516)
เมื่อ ก. สั่งซื้อวัสดุก่อสร้างในฐานะตัวแทนของห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ต้องรับผิดใช้เงินแก่โจทก์ จำเลยที่ 1 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมรับผิดด้วย
เมื่อ ก. สั่งซื้อวัสดุก่อสร้างในฐานะตัวแทนของห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ต้องรับผิดใช้เงินแก่โจทก์ จำเลยที่ 1 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมรับผิดด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1585/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความค่าเสียหายจากสัญญาเช่าซื้อ: แยกพิจารณาตามมูลหนี้และประเภทความเสียหาย
ค่าเสียหายจากการที่โจทก์ขาดประโยชน์ที่เอารถไปให้ผู้อื่นเช่าไม่ได้มีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 164 ส่วนค่าเสียหายจากการที่จำเลยใช้รถชำรุดบุบสลายมีอายุความ 6 เดือน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 563 จะนำอายุความตามมาตรา 164 ซึ่งเป็นบททั่วไปมาใช้บังคับไม่ได้ แม้จำเลยยกอายุความตามมาตรา 165 มีกำหนด 2 ปีขึ้นต่อสู้ แต่ในคดีแพ่งเพียงจำเลยยกอายุความขึ้นตัดฟ้อง การจะปรับบทมาตราใด เป็นหน้าที่ของศาลจะยกขึ้นปรับแก่คดี
โจทก์มีรถไว้ให้เช่า การที่รถอยู่ในความครอบครองของจำเลยตลอดเวลาที่จำเลยผิดนัด โจทก์ใช้ประโยชน์ในทรัพย์นั้นไม่ได้ ยิ่งเห็นอยู่ในตัวว่าโจทก์ย่อมเสียหายขาดประโยชน์ที่จะพึงได้จากการให้เช่าทรัพย์นั้น มิใช่ความเสียหายพิเศษซึ่งจำเลยไม่อาจคาดเห็นล่วงหน้าจำเลยจึงต้องรับผิดในค่าเสียหายนั้น
โจทก์มีรถไว้ให้เช่า การที่รถอยู่ในความครอบครองของจำเลยตลอดเวลาที่จำเลยผิดนัด โจทก์ใช้ประโยชน์ในทรัพย์นั้นไม่ได้ ยิ่งเห็นอยู่ในตัวว่าโจทก์ย่อมเสียหายขาดประโยชน์ที่จะพึงได้จากการให้เช่าทรัพย์นั้น มิใช่ความเสียหายพิเศษซึ่งจำเลยไม่อาจคาดเห็นล่วงหน้าจำเลยจึงต้องรับผิดในค่าเสียหายนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2820/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลงหนี้ค่าสินค้าเป็นหนี้เงินกู้ และหลักฐานการชำระหนี้ตามสัญญากู้
การกู้ยืมเงินกันนั้น ผู้กู้อาจยอมรับเอาสิ่งของหรือทรัพย์สินอื่นแทนจำนวนเงินหรืออาจนำหนี้สินอย่างอื่นมาแปลงเป็นหนี้เงินกู้ก็ได้ หาจำต้องมีการรับเงินกันเสมอไปไม่
จำเลยรับว่าได้ทำสัญญากู้เงินให้โจทก์ไว้ โดยจำนวนเงินในสัญญากู้เป็นหนี้ค่าเครื่องทำไฟซึ่งจำเลยค้างชำระโจทก์อยู่แม้จำเลยมิได้กู้เงินโจทก์ โจทก์จำเลยก็มีมูลหนี้ต่อกันจำเลยมิได้ต่อสู้ว่ามูลหนี้นั้นไม่สมบูรณ์เพราะเหตุใด เมื่อมูลหนี้เดิมสมบูรณ์อยู่แล้วย่อมไม่มีประเด็นที่จำเลยจะนำสืบหักล้างเอกสารสัญญากู้ได้
โจทก์จำเลยเอาหนี้ค่าเครื่องทำไฟมาทำเป็นสัญญากู้ สัญญากู้นั้นย่อมสมบูรณ์บังคับกันได้และผูกพันอย่างหนี้เงินกู้ เมื่อการกู้ยืมมีหลักฐานเป็นหนังสือ การนำสืบถึงการใช้เงินก็ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือหรือเอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมนั้นได้เวนคืนแล้ว หรือได้แทงเพิกถอนลงในเอกสารนั้นแล้ว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรคสองจำเลยจะขอสืบพยานบุคคลว่าได้ชำระเงินให้โจทก์แล้วหาได้ไม่
จำเลยรับว่าได้ทำสัญญากู้เงินให้โจทก์ไว้ โดยจำนวนเงินในสัญญากู้เป็นหนี้ค่าเครื่องทำไฟซึ่งจำเลยค้างชำระโจทก์อยู่แม้จำเลยมิได้กู้เงินโจทก์ โจทก์จำเลยก็มีมูลหนี้ต่อกันจำเลยมิได้ต่อสู้ว่ามูลหนี้นั้นไม่สมบูรณ์เพราะเหตุใด เมื่อมูลหนี้เดิมสมบูรณ์อยู่แล้วย่อมไม่มีประเด็นที่จำเลยจะนำสืบหักล้างเอกสารสัญญากู้ได้
โจทก์จำเลยเอาหนี้ค่าเครื่องทำไฟมาทำเป็นสัญญากู้ สัญญากู้นั้นย่อมสมบูรณ์บังคับกันได้และผูกพันอย่างหนี้เงินกู้ เมื่อการกู้ยืมมีหลักฐานเป็นหนังสือ การนำสืบถึงการใช้เงินก็ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือหรือเอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมนั้นได้เวนคืนแล้ว หรือได้แทงเพิกถอนลงในเอกสารนั้นแล้ว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรคสองจำเลยจะขอสืบพยานบุคคลว่าได้ชำระเงินให้โจทก์แล้วหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2820/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลงหนี้เดิมเป็นหนี้เงินกู้ สัญญากู้สมบูรณ์ การพิสูจน์การชำระหนี้ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ
การกู้ยืมเงินกันนั้น ผู้กู้อาจยอมรับเอาสิ่งของหรือทรัพย์สินอื่นแทนจำนวนเงินหรืออาจนำหนี้สินอย่างอื่นมาแปลงเป็นหนี้เงินกู้ก็ได้ หาจำต้องมีการรับเงินกันเสมอไปไม่
จำเลยรับว่าได้ทำสัญญากู้เงินให้โจทก์ไว้ โดยจำนวนเงินในสัญญากู้เป็นหนี้ค่าเครื่องทำไฟซึ่งจำเลยค้างชำระโจทก์อยู่ แม้จำเลยมิได้กู้เงินโจทก์ โจทก์จำเลยก็มีมูลหนี้ต่อกัน จำเลยมิได้ต่อสู้ว่ามูลหนี้นั้นไม่สมบูรณ์เพราะเหตุใดเมื่อมูลหนี้เดิมสมบูรณ์อยู่แล้วย่อมไม่มีประเด็นที่จำเลยจะนำสืบหักล้างเอกสารสัญญากู้ได้
โจทก์จำเลยเอาหนี้ค่าเครื่องทำไฟมาทำเป็นสัญญากู้สัญญากู้นั้นย่อมสมบูรณ์บังคับกันได้และผูกพันอย่างหนี้เงินกู้ เมื่อการกู้ยืมมีหลักฐานเป็นหนังสือ การนำสืบถึงการใช้เงิน ก็ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือหรือเอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมนั้นได้เวนคืนแล้ว หรือได้แทงเพิกถอนลงในเอกสารนั้นแล้ว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรคสอง จำเลยจะขอสืบพยานบุคคลว่าได้ชำระเงินให้โจทก์แล้วหาได้ไม่
จำเลยรับว่าได้ทำสัญญากู้เงินให้โจทก์ไว้ โดยจำนวนเงินในสัญญากู้เป็นหนี้ค่าเครื่องทำไฟซึ่งจำเลยค้างชำระโจทก์อยู่ แม้จำเลยมิได้กู้เงินโจทก์ โจทก์จำเลยก็มีมูลหนี้ต่อกัน จำเลยมิได้ต่อสู้ว่ามูลหนี้นั้นไม่สมบูรณ์เพราะเหตุใดเมื่อมูลหนี้เดิมสมบูรณ์อยู่แล้วย่อมไม่มีประเด็นที่จำเลยจะนำสืบหักล้างเอกสารสัญญากู้ได้
โจทก์จำเลยเอาหนี้ค่าเครื่องทำไฟมาทำเป็นสัญญากู้สัญญากู้นั้นย่อมสมบูรณ์บังคับกันได้และผูกพันอย่างหนี้เงินกู้ เมื่อการกู้ยืมมีหลักฐานเป็นหนังสือ การนำสืบถึงการใช้เงิน ก็ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือหรือเอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมนั้นได้เวนคืนแล้ว หรือได้แทงเพิกถอนลงในเอกสารนั้นแล้ว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรคสอง จำเลยจะขอสืบพยานบุคคลว่าได้ชำระเงินให้โจทก์แล้วหาได้ไม่