คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ยักยอก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 437 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 229/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์ vs. ยักยอก: การครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นและการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์
จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างรายวันของเทศบาลนครกรุงเทพ มีหน้าที่ขับรถยนต์ของเทศบาลฯ บรรทุกคนงานไปทำการล้างท่อและซ่อมท่อระบายน้ำ จำเลยที่ 2 เป็นคนล้างท่อและซ่อมท่อจำเลยมีหน้าที่เพียงดูแลรักษารถยนต์และน้ำมันเท่านั้น เทศบาลมิได้มอบการครอบครองรถยนต์และน้ำมันให้จำเลยครอบครองแต่อย่างใดฉะนั้น ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยได้ครอบครองรถยนต์และน้ำมันเบนซินในถังของรถยนต์นั้น เมื่อจำเลยที่ 1 และที่ 2 ได้ร่วมกันดูดเอาน้ำมันเบนซินไปจากถังรถยนต์ที่จำเลยที่ 1 ขับ แล้วนำเอาน้ำมันนั้นไปขายให้จำเลยที่ 3 ดังนี้ จำเลยที่ 1 และที่ 2 ย่อมมีความผิดฐานลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(7)(11) จำเลยที่ 3 รับไว้โดยรู้ ก็ต้องมีความผิดฐานรับของโจรตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2510)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 894/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องอาญาที่ไม่ชัดเจนเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ถูกยักยอก ทำให้จำเลยไม่เข้าใจข้อหา และศาลต้องยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทุจริตเบียดบังยักยอมเงินประเภทต่าง ๆ ไป มิได้บรรยายว่าจำเลยได้รับเงินประเภทใดมาเท่าใด ยักยอกเงินประเภทนั้นไปเท่าใด ไม่ปรากฏว่าผู้มีหน้าที่รับผิดชอบได้ตรวจพบอะไร บรรยายว่าได้เบียดบังยักยอกเงินค่าดวงตราไปรษณีย์หรือดวงตราไปรษณีย์เป็นสองแง่ก็ไม่มีทางทราบว่าจำเลยยักยอกอะไร ดังนี้ เป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158
(อ้างฎีกาที่ 175/2497)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 894/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องอาญาไม่ชอบ หากไม่ระบุรายละเอียดทรัพย์สินที่ถูกยักยอกอย่างชัดเจน ทำให้จำเลยไม่สามารถต่อสู้คดีได้อย่างถูกต้อง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทุจริตเบียดบังยักยอกเงินประเภทต่างๆไป มิได้บรรยายว่าจำเลยได้รับเงินประเภทใดมาเท่าใดยักยอกเงินประเภทนั้นไปเท่าใด ไม่ปรากฏว่าผู้มีหน้าที่รับผิดชอบได้ตรวจพบอะไรบรรยายว่าได้เบียดบังยักยอกเงินค่าดวงตราไปรษณีย์หรือดวงตราไปรษณีย์เป็นสองแง่ ก็ไม่มีทางทราบว่าจำเลยยักยอกอะไร ดังนี้ เป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158 (อ้างฎีกาที่ 175/2497)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1639/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานยักยอกเงินศาสนสมบัติที่เบิกมาตามหน้าที่เข้าตัวเอง มีความผิดตามมาตรา 147 แม้เป็นเงินนอกงบประมาณ
จำเลยมีตำแหน่งเป็นครูประชาบาลเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญชั้นจัตวา นายอำเภอซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาย่อมมีอำนาจสั่งให้จำเลยไปปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการแผนกศึกษาธิการ ให้ทำหน้าที่จัดการศาสนสมบัติอันเป็นราชการได้ เมื่อจำเลยเบิกเงินศาสนสมบัติมาแล้วเบียดบังเอาไปเป็นของตนหรือของผู้อื่นโดยทุจริตจึงมีความผิดตามมาตรา 147 แม้เงินศาสนสมบัติที่ยักยอกไปเป็นเงินนอกงบประมาณแผ่นดิน ก็หาใช่ข้อสำคัญแห่งคดีไม่ เพราะฟังได้ว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินที่จำเลยเบิกมาตามหน้าที่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1140/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนายักยอกเงินค่าขายยาเส้น การยอมรับเงินและการผัดชำระ ไม่เป็นความผิดฐานยักยอก
จำเลยรับฝากยาเส้นไว้จากผู้เสียหายแล้วเอาไปขายจริง แต่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตยักยอกเอาเงินค่ายาเส้นไว้เป็นประโยชน์ส่วนตัว มิได้ฟ้องว่ายักยอกยาเส้น เมื่อทางพิจารณาฟังได้ว่า ผู้เสียหายได้ยอมตกลงรับเงินค่ายาเส้นจากจำเลย และยังยอมให้จำเลยผัดชำระเงินด้วย ดังนี้ เมื่อจำเลยยังมิได้ชำระก็เป็นเรื่องที่จะต้องไปฟ้องร้องกันในทางแพ่ง การที่จำเลยยังไม่มีเงินค่ายาเส้นชำระให้ไม่เป็นผิดทางอาญาฐานยักยอกดังฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1125/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทุจริตในการจำนำทรัพย์ที่ยังผ่อนชำระค้างอยู่ ถือเป็นความผิดฐานยักยอกได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเช่าซื้อจักรเย็บผ้า 1 หลัง จากบริษัทซิงเกอร์โซอิงแมชีน จำเลยต้องส่งเงินค่าเช่าซื้อเป็นรายเดือน ได้ผ่อนชำระมาบ้างแล้ว ที่เหลือจำเลยไม่ยอมชำระ และจำเลยได้นำเอาจักรดังกล่าวไปจำนำเสียที่สถานธนานุบาล โดยจำเลยมีเจตนาทุจริตคิดยักยอกเบียดบังเอาจักรเป็นอาณาประโยชน์ส่วนตัว ดังนี้ พอแปลความหมายได้ว่าจำเลยเบียดบังเอาจักรเป็นของตนโดยทุจริต อันเป็นองค์สำคัญในความผิดทางอาญาฐานยักยอกแล้ว ฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องที่ยืนยันข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้กระทำผิดทางอาญาฐานยักยอกโดยสมบูรณ์ เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อหาแล้ว ศาลก็ลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1125/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทุจริตเบียดบังทรัพย์สินเช่าซื้อเป็นความผิดฐานยักยอก แม้ผิดสัญญาเช่าซื้อ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเช่าซื้อจักรเย็บผ้า 1 หลังจากบริษัทซิงเกอร์โชอิงแมชีน. จำเลยต้องส่งเงินค่าเช่าซื้อเป็นรายเดือน ได้ผ่อนชำระมาบ้างแล้ว ที่เหลือจำเลยไม่ยอมชำระ และจำเลยได้นำเอาจักรดังกล่าวไปจำนำเสียที่สถานธนานุบาล โดยจำเลยมีเจตนาทุจริตคิดยักยอกเบียดบังเอาจักร เป็นอาณาประโยชน์ส่วนตัว ดังนี้ พอแปลความหมายได้ว่าจำเลยเบียดบังเอาจักรเป็นของตนโดยทุจริต อันเป็นองค์สำคัญในความผิดทางอาญาฐานยักยอกแล้วฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องที่ยืนยันข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้กระทำผิดทางอาญาฐานยักยอกโดยสมบูรณ์ เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อหาแล้ว ศาลก็ลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1123/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฐานยักยอกต้องมีลักษณะเป็นผู้ประกอบอาชีพที่น่าเชื่อถือ มิใช่ความสัมพันธ์ส่วนตัว
การกระทำผิดฐานยักยอกตามมาตรา 154 จะต้องได้ความว่าผู้กระทำผิดได้กระทำในฐานเป็นผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้ว่างใจของประชาชนด้วย มิใช่เป็นเรื่องระหว่างกันเองโดยเฉพาะ
การที่โจทก์บรรยายฟ้องเพียงวา จำเลยมีอาชีพรับแก้เครื่องยนต์ แม้จะบรรยายต่อไปว่า "เป็นอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน" ด้วยก็ตาม ก็เป็นเพียงประโยคประกอบซึ่งโจทก์ขยายความออกไปตามความเห็นของโจทก์เองเท่านั้น เมื่อไม่มีข้อเท็จจริงและรายละเอียดว่าจำเลยกระทำในฐานเป็นผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนอย่างไร หรือเพราะเหตุใดพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี จำเลยย่อมไม่มีความผิดฐานยักยอกตามมาตรา 354

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1123/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยักยอก: ต้องพิสูจน์การกระทำในฐานะผู้มีอาชีพที่ไว้วางใจได้
การกระทำผิดฐานยักยอกตามมาตรา 354 จะต้องได้ความว่าผู้กระทำผิดได้กระทำในฐานเป็นผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนด้วยมิใช่เป็นเรื่องระหว่างกันเองโดยเฉพาะ
การที่โจทก์บรรยายฟ้องเพียงว่า จำเลยมีอาชีพรับจ้างแก้เครื่องยนต์ แม้จะบรรยายต่อไปว่า "เป็นอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน" ด้วยก็ตามก็เป็นเพียงประโยคประกอบซึ่งโจทก์ขยายความออกไปตามความเห็นของโจทก์เองเท่านั้น เมื่อไม่มีข้อเท็จจริงหรือรายละเอียดว่าจำเลยกระทำในฐานเป็นผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนอย่างไรหรือเพราะเหตุใดพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี จำเลยย่อมไม่มีความผิดฐานยักยอกตามมาตรา 354

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 841/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดของผู้จัดการธนาคารที่ปลอมเอกสารเบิกเงินและยักยอกทรัพย์สินของธนาคาร
การที่จำเลยซึ่งเป็นผู้จัดการมีหน้าที่เป็นผู้รับผิดชอบทั่วไปในธุระกิจและควบคุมบังคับบัญชาพนักงานของธนาคารออกสินสาขา บังอาจปลอมใบถอนเงินของผู้ฝากแล้วกรอกจำนวนเงินนำไปเบิกต่อธนาคารออกสินที่จำเลยเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่แล้วเบียดบังยักยอกไว้เป็นของตนโดยทุจริตนั้น ถือว่าเป็ฯความผิดที่จำเลยได้กระทในฐานเป็นผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนแล้ว.
of 44