พบผลลัพธ์ทั้งหมด 468 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2221/2521
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            แม้พิพากษายกฟ้อง แต่ของกลางผิดกฎหมาย ศาลยังสามารถริบได้
                        
                        เฮโรอีนเป็นของที่มีไว้เป็นความผิด  แม้ศาลพิพากษายกฟ้องเพราะจำเลยมิใช่ผู้มีเฮโรอีนนั้น  ศาลก็ริบเฮโรอีนของกลาง
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1950/2521
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การสั่งริบของกลางต้องเป็นไปตามคำขอของโจทก์ การพิพากษาเกินคำขอเป็นเหตุให้ต้องแก้ไข
                        
                        แม้ข้อเท็จจริงจะได้ความชัดว่าจำเลยได้ใช้รถไถ 3 คันของกลางในการกระทำผิด อันอยู่ในข่ายควรริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 หรือต้องริบเสียทั้งสิ้นตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ มาตรา 35 ก็ตาม  แต่เมื่อโจทก์มิได้ขอให้ริบของกลางรายนี้ ศาลจะสั่งริบไม่ได้เพราะเป็นการพิพากษาเกินคำขอ  ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคต้น
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1780/2521
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การริบซองกระสุนปืนของกลางในคดีอาญา เนื่องจากเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ใช้ในการกระทำผิด
                        
                        ฟ้องยืนยันว่าซองกระสุนปืนของกลางจำเลยใช้ยิงฆ่าคน ปืนที่ใช้เป็นปืนพกสั้นแบบออโตเมติก  ถ้าไม่มีซองกระสุนก็ใช้ยิงไม่ได้  ศาลริบปืนของกลางกับซองกระสุน
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1519/2521
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์และการริบของกลาง
                        
                        จำเลยกับพวกร่วมกันกระทำความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์รถยนต์บรรทุก 10 ล้อ ที่บรรทุกสินค้า  โดยพวกจำเลยขับรถยนต์กระบะตามหลังรถบรรทุกที่จะปล้นไปในระยะกระชั้นชิด แล้วจำเลยได้ปีนจากรถกระบะขณะที่แล่นตามหลังรถบรรทุกขึ้นไปบนรถบรรทุก  เห็นได้ว่าจำเลยได้ใช้รถกระบะเป็นยานพาหนะเพื่อกระทำผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์รายนี้แล้ว  และถือได้ว่ารถยนต์กระบะนั้นเป็นทรัพย์สินซึ่งจำเลยได้ใช้ในการกระทำผิดศาลจึงมีอำนาจสั่งริบเสียได้
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 781/2520
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            อาวุธปืนไม่มีทะเบียนพ้นกำหนดจดทะเบียน จำเลยยกเว้นโทษ แต่ริบของกลาง
                        
                        อาวุธปืนของกลางเป็นปืนไม่มีทะเบียนและล่วงเลยระยะเวลาที่จะนำไปขอจดทะเบียนตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6)พ.ศ.2518 แล้ว จำเลยได้รับยกเว้นโทษ แต่ต้องริบปืน
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1124/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การริบกางเกงที่เตรียมไว้เพื่อติดเครื่องหมายการค้าปลอม แม้ยังไม่ได้ติดก็ถือเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำผิดได้
                        
                        กางเกงขายาวของกลางที่เจ้าพนักงานยึดได้พร้อมกางเกงขายาวที่ติดเครื่องหมายการค้าปลอม  และแผ่นป้ายเครื่องหมายการค้าปลอม  แม้จะยังไม่ได้ติดเครื่องหมายการค้าปลอม  ก็ถือได้ว่าเป็นกางเกงที่เตรียมรอติดเครื่องหมายการค้าปลอม  จึงเป็นของที่จำเลยมีไว้ด้วยเจตนาเพื่อใช้ในการกระทำความผิด  พึงริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(1)
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1124/2520
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การริบกางเกงที่เตรียมติดเครื่องหมายการค้าปลอม แม้ยังไม่ได้ติด ก็ถือเป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำผิดได้
                        
                        กางเกงขายาวของกลางที่เจ้าพนักงานยึดได้พร้อมกางเกงขายาวที่ติดเครื่องหมายการค้าปลอม  และแผ่นป้ายเครื่องหมายการค้าปลอมแม้จะยังไม่ได้ติดเครื่องหมายการค้าปลอม ก็ถือได้ว่าเป็นกางเกงที่เตรียมรอติดเครื่องหมายการค้าปลอม จึงเป็นของที่จำเลยมีไว้ด้วยเจตนาเพื่อใช้ในการกระทำความผิด พึงริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(1)
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 790/2519
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การริบของกลางคดีป่าไม้: ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยได้แม้ไม่มีประเด็นในชั้นอุทธรณ์ หากเป็นประโยชน์แก่จำเลยและเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย
                        
                        แม้จะมีประเด็นในชั้นอุทธรณ์เพียงประเด็นเดียวว่าจะริบถ่านไม้ของกลางได้หรือไม่ก็ตาม  ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจวินิจฉัยในทางที่เป็นประโยชน์แก่จำเลยว่า  จำเลยไม่มีความผิดในข้อหานำของป่าเคลื่อนที่โดยไม่มีใบเบิกทางของพนักงานเจ้าหน้าที่กำกับได้  เพราะเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย
จำเลยได้ถ่านไม้ของกลางมาโดยมิชอบ การที่จำเลยนำถ่านไม้ของกลางเคลื่อนที่ จึงมิใช่เป็นกรณีตามมาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ซึงแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2518 มาตรา 18 อันจะพึงขอใบเบิกทางได้ ไม่เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 39
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีถ่านไม้อันเป็นของป่าหวงห้ามไว้ในความครอบครองเกินปริมาณที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประกาศกำหนดไว้ โดยจำเลยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ จำเลยให้การรับสารภาพ ดังนี้ ต้องฟังข้อเท็จจริงตามฟ้อง จำเลยจะฎีกาอ้างข้อเท็จจริงซึ่งไม่ปรากฏในสำนวนว่าถ่านไม้ของกลาง จำเลยได้รับอนุญาตให้ตัดฟันและเผาโดยชอบด้วยกฎหมายแล้วหาได้ไม่
                                    จำเลยได้ถ่านไม้ของกลางมาโดยมิชอบ การที่จำเลยนำถ่านไม้ของกลางเคลื่อนที่ จึงมิใช่เป็นกรณีตามมาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ซึงแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2518 มาตรา 18 อันจะพึงขอใบเบิกทางได้ ไม่เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 39
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีถ่านไม้อันเป็นของป่าหวงห้ามไว้ในความครอบครองเกินปริมาณที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประกาศกำหนดไว้ โดยจำเลยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ จำเลยให้การรับสารภาพ ดังนี้ ต้องฟังข้อเท็จจริงตามฟ้อง จำเลยจะฎีกาอ้างข้อเท็จจริงซึ่งไม่ปรากฏในสำนวนว่าถ่านไม้ของกลาง จำเลยได้รับอนุญาตให้ตัดฟันและเผาโดยชอบด้วยกฎหมายแล้วหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1865/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การริบของกลางจากการเล่นการพนันและการขอคืนของกลางของผู้รับสารภาพ
                        
                        โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกับพวกร่วมกันเล่นการพนัน เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยเงินอันเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการเล่นการพนันจากวงการเล่นเป็นของกลาง จำเลยให้การรับว่าการกระทำความผิดตามฟ้องจริง แปลได้ว่ารับสารภาพตามฟ้องทุกประการ เมื่อโจทก์กล่าวในฟ้องว่าเงินของกลางเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการเล่นการพนัน จึงต้องริบตามพระราชบัญญัติการพนัน ถ้าจำเลยเห็นว่าเงินนั้นส่วนหนึ่งเป็นของตนซึ่งมิได้เอาออกพนัน ก็ชอบที่จะให้การต่อสู้ไว้ และจำเลยก็มิได้อุทธรณ์คำพิพากษาให้ริบของกลางจนคดีนี้ถึงที่สุดแล้ว กรณีจึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 ที่จำเลยจะมีสิทธิยื่นคำร้องขอเงินของกลางคืนได้
ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีในชั้นขอให้คืนของกลาง แล้วสั่งคืนให้ผู้ร้องประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 ทวิ มิได้ห้ามโจทก์อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวนี้
                                    ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีในชั้นขอให้คืนของกลาง แล้วสั่งคืนให้ผู้ร้องประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 ทวิ มิได้ห้ามโจทก์อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1865/2519
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การรับสารภาพในคดีพนันและการริบของกลาง ผู้ร้องไม่มีสิทธิขอคืนเมื่อไม่ได้ต่อสู้คดี
                        
                        โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกับพวกร่วมเล่นการพนัน เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยเงินอันเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการเล่นการพนันจากวงการเล่นเป็นของกลางจำเลยให้การรับว่ากระทำความผิดตามฟ้องจริง แปลได้ว่ารับสารภาพตามฟ้องทุกประการเมื่อโจทก์กล่าวในฟ้องว่าเงินของกลางเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการเล่นการพนัน  จึงต้องริบตามพระราชบัญญัติการพนัน  ถ้าจำเลยเห็นว่าเงินนั้นส่วนหนึ่งเป็นของตนซึ่งมิได้เอาออกพนัน  ก็ชอบที่จะให้การต่อสู้ไว้  และจำเลยก็มิได้อุทธรณ์คำพิพากษาที่ให้ริบของกลางจนคดีถึงที่สุดแล้ว กรณีจึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 ที่จำเลยจะมีสิทธิยื่นคำร้องขอเงินของกลางคืนได้
ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีในชั้นขอให้คืนของกลาง แล้วสั่งคืนให้ผู้ร้องประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 ทวิ มิได้ห้ามโจทก์อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวนี้
                                    ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีในชั้นขอให้คืนของกลาง แล้วสั่งคืนให้ผู้ร้องประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 ทวิ มิได้ห้ามโจทก์อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวนี้