พบผลลัพธ์ทั้งหมด 687 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5126-5127/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละประโยชน์แห่งเงื่อนเวลาในสัญญาจ้าง กรณีเรียกคืนเงินประกันก่อนกำหนด
ระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานกำหนดว่าจำเลยจะคืนเงินประกันให้หลังจากลูกจ้างพ้นสภาพจากการเป็นลูกจ้างภายใน30วันเป็นเงื่อนเวลาซึ่งเป็นประโยชน์แก่จำเลยในการปฏิเสธที่จะคืนเงินประกันให้โจทก์ทั้งสองซึ่งเป็นลูกจ้างได้เมื่อโจทก์ทั้งสองเรียกเงินคืนก่อนกำหนดแต่จำเลยหาได้ยกประโยชน์แห่งเงื่อนเวลาขึ้นปฏิเสธไม่กลับปฏิเสธว่าโจทก์ทั้งสองก่อความเสียหายให้แก่จำเลยถือว่าจำเลยสละประโยชน์แห่งเงื่อนเวลานั้นแล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา192วรรคท้ายและการสละประโยชน์แห่งเงื่อนเวลานี้ไม่จำต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษรจำเลยจึงไม่อาจยกประโยชน์แห่งเงื่อนเวลามาเป็นข้อต่อสู้โจทก์ทั้งสองได้อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2616/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแย้งไม่ชัดเจน, เลิกจ้างโดยชอบธรรมตามสัญญา, เหตุเลิกจ้างต้องระบุในหนังสือเลิกจ้าง
ฟ้องแย้งของจำเลยบรรยายเพียงว่า ผู้ที่สั่งจองห้องพักของจำเลยไว้ ได้ยกเลิกการจองห้องพักในภายหลังเพราะไม่พอใจการกระทำของโจทก์ ค่าห้องพักที่ถูกยกเลิกการสั่งจองคิดเป็นเงินจำนวน 10,936,655.50 บาทโดยไม่มีรายละเอียดเพียงพอที่จะให้เข้าใจได้ว่า ผู้จองห้องพักและได้ยกเลิกการสั่งจองในภายหลังนั้น ได้จองห้องพักเมื่อใด จองห้องพักจำนวนมากน้อยและมีกำหนดระยะเวลาที่จองนานเท่าใด กับได้ยกเลิกการสั่งจองห้องพักเมื่อใด เป็นฟ้องแย้งที่ไม่แจ้งชัดซี่งสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น เป็นฟ้องแย้งที่เคลือบคลุม
ตามสัญญาจ้างกำหนดว่าจำเลยจ้างโจทก์มีกำหนดระยะเวลา3 ปี โดยจำเลยหรือโจทก์ต่างมีสิทธิบอกเลิกสัญญาจ้างก่อนครบกำหนดระยะเวลา3 ปีดังกล่าวได้ การที่จำเลยบอกเลิกจ้างโจทก์ก่อนครบกำหนดระยะเวลา 3 ปีเป็นการใช้สิทธิเลิกสัญญาจ้างตามที่กำหนดไว้ในสัญญาจ้างดังกล่าว ถือไม่ได้ว่าเป็นการเลิกจ้างโจทก์โดยไม่เป็นธรรม
จำเลยจะมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์โดยไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายหรือเงินจำนวนใด ๆ ให้โจทก์ดังคำให้การต่อสู้คดีของจำเลยทั้งสองเพียงใดหรือไม่จะต้องพิจารณาถึงเหตุของการเลิกจ้างในขณะที่เลิกจ้างเป็นสำคัญ ซึ่งตามหนังสือเลิกจ้างโจทก์ของจำเลยไม่ได้ระบุเหตุของการเลิกจ้างว่าเพราะโจทก์กระทำผิดตามประเด็นข้อพิพาทข้อ 3 ถึงข้อ 6 การที่จำเลยให้การต่อสู้ว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์เพราะโจทก์กระทำผิดตามประเด็นข้อพิพาทข้อ 3 ถึงข้อ 6 จึงเป็นการยกข้อต่อสู้นอกเหนือหนังสือเลิกจ้างซึ่งจำเลยจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ไม่ได้
ตามสัญญาจ้างกำหนดว่าจำเลยจ้างโจทก์มีกำหนดระยะเวลา3 ปี โดยจำเลยหรือโจทก์ต่างมีสิทธิบอกเลิกสัญญาจ้างก่อนครบกำหนดระยะเวลา3 ปีดังกล่าวได้ การที่จำเลยบอกเลิกจ้างโจทก์ก่อนครบกำหนดระยะเวลา 3 ปีเป็นการใช้สิทธิเลิกสัญญาจ้างตามที่กำหนดไว้ในสัญญาจ้างดังกล่าว ถือไม่ได้ว่าเป็นการเลิกจ้างโจทก์โดยไม่เป็นธรรม
จำเลยจะมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์โดยไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายหรือเงินจำนวนใด ๆ ให้โจทก์ดังคำให้การต่อสู้คดีของจำเลยทั้งสองเพียงใดหรือไม่จะต้องพิจารณาถึงเหตุของการเลิกจ้างในขณะที่เลิกจ้างเป็นสำคัญ ซึ่งตามหนังสือเลิกจ้างโจทก์ของจำเลยไม่ได้ระบุเหตุของการเลิกจ้างว่าเพราะโจทก์กระทำผิดตามประเด็นข้อพิพาทข้อ 3 ถึงข้อ 6 การที่จำเลยให้การต่อสู้ว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์เพราะโจทก์กระทำผิดตามประเด็นข้อพิพาทข้อ 3 ถึงข้อ 6 จึงเป็นการยกข้อต่อสู้นอกเหนือหนังสือเลิกจ้างซึ่งจำเลยจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2616/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างก่อนครบกำหนดสัญญา และการยกข้อต่อสู้เกินกว่าที่ระบุในหนังสือเลิกจ้าง
ฟ้องแย้งของจำเลยบรรยายเพียงว่าผู้ที่สั่งจองห้องพักของจำเลยไว้ได้ยกเลิกการจองห้องพักในภายหลังเพราะไม่พอใจการกระทำของโจทก์ค่าห้องพักที่ถูกยกเลิกการสั่งจองคิดเป็นเงินจำนวน10,936,655.50บาทโดยไม่มีรายละเอียดเพียงพอที่จะให้เข้าใจได้ว่าผู้จองห้องพักและได้ยกเลิกการสั่งจองในภายหลังนั้นได้จองห้องพักเมื่อใดจองห้องพักจำนวนมากน้อยและมีกำหนดระยะเวลาที่จองนานเท่าใดกับได้ยกเลิกการสั่งจองห้องพักเมื่อใดเป็นฟ้องแย้งที่ไม่แจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นเป็นฟ้องแย้งที่เคลือบคลุม ตามสัญญาจ้างกำหนดว่าจำเลยจ้างโจทก์มีกำหนดระยะเวลา3ปีโดยจำเลยหรือโจทก์ต่างมีสิทธิบอกเลิกสัญญาจ้างก่อนครบกำหนดระยะเวลา3ปีดังกล่าวได้การที่จำเลยบอกเลิกจ้างโจทก์ก่อนครบกำหนดระยะเวลา3ปีเป็นการใช้สิทธิเลิกสัญญาจ้างตามที่กำหนดไว้ในสัญญาจ้างดังกล่าวถือไม่ได้ว่าเป็นการเลิกจ้างโจทก์โดยไม่เป็นธรรม จำเลยจะมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์โดยไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายหรือเงินจำนวนใดๆให้โจทก์ดังคำให้การต่อสู้คดีของจำเลยทั้งสองเพียงใดหรือไม่จะต้องพิจารณาถึงเหตุของการเลิกจ้างในขณะที่เลิกจ้างเป็นสำคัญซึ่งตามหนังสือเลิกจ้างโจทก์ของจำเลยไม่ได้ระบุเหตุของการเลิกจ้างว่าเพราะโจทก์กระทำผิดตามประเด็นข้อพิพาทข้อ3ถึงข้อ6การที่จำเลยให้การต่อสู้ว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์เพราะโจทก์กระทำผิดตามประเด็นข้อพิพาทข้อ3ถึงข้อ6จึงเป็นการยกข้อต่อสู้นอกเหนือหนังสือเลิกจ้างซึ่งจำเลยจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2116/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าปรับรายวันในสัญญาจ้างสูงเกินส่วน ศาลลดค่าปรับได้ตามกฎหมาย
ค่าปรับรายวันตามสัญญาจ้างเป็นค่าเสียหายที่กำหนดไว้ล่วงหน้าให้จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ในกรณีที่จำเลยผิดสัญญาจ้าง ซึ่งมีลักษณะเป็นการกำหนดเบี้ยปรับ ดังนั้น เมื่อศาลเห็นว่าเบี้ยปรับตามที่กำหนดไว้ดังกล่าวสูงเกินส่วน ศาลย่อมให้ลดลงเป็นจำนวนพอสมควรได้ตาม ป.พ.พ.มาตรา 383 วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2116/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบี้ยปรับในสัญญาจ้างสูงเกินส่วน ศาลลดหย่อนได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383
ค่าปรับรายวันตามสัญญาจ้างเป็นค่าเสียหายที่กำหนดไว้ล่วงหน้าให้จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ในกรณีที่จำเลยผิดสัญญาจ้าง ซึ่งมีลักษณะเป็นการกำหนดเบี้ยปรับ ดังนั้นเมื่อศาลเห็นว่าเบี้ยปรับตามที่กำหนดไว้ดังกล่าวสูงเกินส่วนศาลย่อมให้ลดลงเป็นจำนวนพอสมควรได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 19-20/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องคดีสัญญาจ้างเหมา: ไม่ใช่ความชำรุดบกพร่อง แต่เป็นการผิดสัญญา จึงใช้ อายุความ 10 ปี
โจทก์ผู้ว่าจ้างฟ้องให้จำเลยที่1ผู้รับจ้างซึ่งฝ่าฝืนข้อสัญญาให้ชำระค่าจ้างเพราะความผิดของจำเลยที่1ที่โจทก์ได้ให้บุคคลภายนอกทำการแก้ไขสิ่งที่บกพร่องให้คืนดีและเป็นไปตามสัญญาแทนจำเลยที่1ซึ่งโจทก์ได้จ่ายเงินให้บุคคลภายนอกไปแล้วโดยสิ้นเชิงซึ่งจำเลยที่1ต้องออกค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นด้วยจึงไม่เป็นการฟ้องจำเลยที่1ผู้รับจ้างเพื่อการที่ทำชำรุดบกพร่องได้ปรากฎขึ้นในตัวทรัพย์ที่ส่งให้โจทก์อันมีอายุความ1ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา601ตามที่โจทก์ฟ้องให้ผู้รับจ้างรับผิดในกรณีเช่นนี้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะจึงต้องใช้อายุความสิบปีตามมาตรา164เดิม(มาตรา193/30ที่แก้ไขใหม่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 903/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าปรับจากสัญญาจ้างก่อสร้างและการไม่เกิดดอกเบี้ยเมื่อมีการหักเงินค่าปรับไว้แล้ว
จำเลยปรับโจทก์ตามสัญญาโดยหักเงินค่าปรับไว้จากเงินค่าจ้างเมื่อศาลพิพากษาลดค่าปรับลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 383 วรรคแรก ให้จำเลยคืนเงินค่าปรับบางส่วนแก่โจทก์โจทก์หามีสิทธิได้ดอกเบี้ยจากเงินค่าปรับที่ได้รับคืนนั้นไม่เพราะการที่จำเลยหักเงินค่าปรับไว้เป็นการใช้สิทธิตามสัญญาจ้างซึ่งเป็นสิทธิโดยชอบที่จำเลยจะกล่าวอ้างได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7420/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประท้วงหยุดงานโดยมิชอบเป็นละเมิดสัญญาจ้าง
ลูกจ้างมีหน้าที่ต้องปฏิบัติงานให้แก่นายจ้างตามสัญญาจ้าง การที่นายจ้างยังไม่ได้ประกาศจ่ายเงินโบนัสแก่ลูกจ้าง ไม่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายใดให้สิทธิแก่ลูกจ้างในการที่จะประท้วงด้วยการหยุดงาน การประท้วงหยุดงานของลูกจ้างจึงเป็นการผิดสัญญาจ้าง ถือได้ว่าเป็นการละทิ้งหน้าที่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7420/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประท้วงหยุดงานโดยไม่แจ้งข้อเรียกร้อง ถือเป็นการละทิ้งหน้าที่และผิดสัญญาจ้าง
ลูกจ้างมีหน้าที่ต้องปฏิบัติงานให้แก่นายจ้างตามสัญญาจ้างการที่นายจ้างยังไม่ได้ประกาศจ่ายเงินโบนัสแก่ลูกจ้าง ไม่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายใดให้สิทธิแก่ลูกจ้างในการที่จะประท้วงด้วยการหยุดงาน การประท้วงหยุดงานของลูกจ้างจึงเป็นการผิดสัญญาจ้าง ถือได้ว่าเป็นการละทิ้งหน้าที่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7370/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวแทนโดยปริยายและขอบเขตความรับผิดในสัญญาจ้าง
จำเลยรับเงินค่าจ้างของลูกจ้างโจทก์ 3 คน ไว้โดยคนทั้งสามยินยอมให้จำเลยรับแทน จำเลยย่อมได้ชื่อว่าเป็นตัวแทนโดยปริยายของลูกจ้างโจทก์ทั้งสามคนดังกล่าวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 797 วรรคสอง การที่จำเลยจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่คนทั้งสามน้อยกว่าจำนวนที่จำเลยรับจากโจทก์ไว้แทนคนทั้งสาม ก็เป็นเรื่องที่คนทั้งสามจะว่ากล่าวเอาแก่จำเลยโดยตรง โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเรียกเงินค่าจ้างของคนทั้งสามในส่วนที่จำเลยรับไว้จากโจทก์แล้วไม่จ่ายให้แก่คนทั้งสามคืนจากจำเลย