พบผลลัพธ์ทั้งหมด 971 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 686/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสืบพยานนอกประเด็นข้อพิพาท ศาลมีสิทธิไม่อนุญาตได้ แม้จะเป็นประเด็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
ศาลไม่ได้กำหนดประเด็นข้อพิพาทไว้ว่าที่พิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินหรือไม่ โจทก์ย่อมไม่มีสิทธินำพยานเข้าสืบในประเด็นดังกล่าวเพราะจะเป็นการนำสืบนอกประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4173/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: ศาลวินิจฉัยว่าการฟ้องคดีใหม่ไม่เป็นฟ้องซ้ำ แม้คดีก่อนมีการสืบพยานแล้ว แต่ศาลยกฟ้องเนื่องจากขาดอำนาจฟ้อง
โจทก์เคยฟ้องจำเลยทั้งสามในเรื่องเดียวกันนี้ครั้งหนึ่งแล้วแต่ศาลพิพากษายกฟ้องเนื่องจากพยานหลักฐานโจทก์ไม่พอรับฟังว่าว.ซึ่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนโจทก์เป็นผู้กระทำการแทนโจทก์ในคดีดังกล่าว โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง แม้คดีก่อนจะมีการสืบพยานในประเด็นแห่งคดีจนเสร็จการพิจารณาแล้วก็ตามแต่ศาลก็พิพากษายกฟ้องเพราะเหตุพยานหลักฐานโจทก์เกี่ยวกับอำนาจฟ้องยังไม่พอรับฟัง โดยยังมิได้วินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นแห่งคดี ทั้งปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องในคดีก่อนกับคดีนี้ก็ต่างกันการที่โจทก์มาฟ้องใหม่ในเรื่องเดียวกันนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4167/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินราคาอันแท้จริงในท้องตลาดของสินค้านำเข้า ศาลมีอำนาจสั่งให้สืบพยานเพื่อพิสูจน์ราคาสินค้า
ประเด็นเรื่องราคาอันแท้จริงในท้องตลาดเป็นปัญหาข้อเท็จจริงที่จะต้องนำสืบ ข้อมูลเกี่ยวกับราคาสินค้าของผู้นำเข้ารายอื่น บัตรราคาสินค้าของกองวิเคราะห์ราคา กรมศุลกากร และรายละเอียดการสำแดงราคาสินค้าส่งออกของบริษัทที่จำหน่ายสินค้าให้แก่จำเลยและลูกค้ารายอื่น ๆ ที่กรมศุลกากรเมืองฮ่องกง ส่งมาให้โจทก์ที่ 1 นั้น เป็นข้อมูลที่สามารถนำมาประกอบการพิจารณาเปรียบเทียบเพื่อบ่งชี้ว่าสินค้าที่จำเลยนำเข้านั้นมีราคาอันแท้จริงในท้องตลาดเท่าใด โจทก์ที่ 1 จึงชอบที่จะนำพยานหลักฐานมาสืบถึงข้อมูลดังกล่าว ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งงดสืบพยานโจทก์ที่ 1 และพยานจำเลยจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4167/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินราคาศุลกากร: โจทก์มีสิทธิสืบพยานหลักฐานเปรียบเทียบราคาเพื่อพิสูจน์ราคาอันแท้จริงในท้องตลาด
ประเด็นเรื่องราคาอันแท้จริงในท้องตลาดเป็นปัญหาข้อเท็จจริงที่จะต้องนำสืบ ข้อมูลเกี่ยวกับราคาสินค้าของผู้นำเข้ารายอื่น บัตรราคาสินค้าของกองวิเคราะห์ราคา กรมศุลกากร และรายละเอียดการสำแดงราคาสินค้าส่งออกของบริษัทที่จำหน่ายสินค้าให้แก่จำเลยและลูกค้ารายอื่น ๆ ที่กรมศุลกากรเมืองฮ่องกงส่งมาให้โจทก์ที่ 1 สามารถนำมาประกอบการพิจารณาเปรียบเทียบเพื่อบ่งชี้ว่าสินค้าที่จำเลยนำเข้านั้นมีราคาอันแท้จริงในท้องตลาดเท่าใดได้ โจทก์ที่ 1 จึงชอบที่จะนำพยานหลักฐานมาสืบถึงข้อมูลดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4167/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินราคาศุลกากร: โจทก์มีสิทธิสืบพยานเพื่อพิสูจน์ราคาอันแท้จริงในท้องตลาด
ประเด็นเรื่องราคาอันแท้จริงในท้องตลาด เป็นปัญหาข้อเท็จจริงที่โจทก์จะต้องนำสืบ โจทก์กล่าวอ้างในคำฟ้องว่าโจทก์ที่ 1 ตรวจสอบพบว่าจำเลยสำแดงราคาตามใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าต่ำกว่าราคาอันแท้จริงในท้องตลาดโดยอาศัยข้อมูลราคาสินค้าประเภทเดียวกันหรือใกล้เคียงกันที่ผู้อื่นนำเข้า ประกอบกับบัตรราคาสินค้าของกองวิเคราะห์ราคากรมศุลกากรที่กำหนดราคากลางไว้ในระยะเวลาใกล้เคียงกันเป็นเกณฑ์รวมทั้งราคาสินค้าส่งออกของบริษัทที่จำหน่ายสินค้าให้แก่จำเลยและลูกค้ารายต่าง ๆ ในประเทศไทย แหล่งข้อมูลดังกล่าวเมื่อนำมาพิจารณาเปรียบเทียบแล้วสามารถบ่งชี้ให้เห็นว่าสินค้าพิพาทที่จำเลยนำเข้ามาในราชอาณาจักรมีราคาอันแท้จริงในท้องตลาดตามความหมายที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 2วรรคสิบสอง เป็นจำนวนเท่าใด โจทก์ที่ 1 ชอบที่จะนำสืบพยานหลักฐานเพื่อสนับสนุนข้ออ้างของตนตามคำฟ้องได้ คำสั่งศาลภาษีอากรกลางที่ให้งดสืบพยานโจทก์ที่ 1 และพยานจำเลยไม่ชอบด้วยกฎหมายศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาให้ยกคำสั่งดังกล่าวและยกคำพิพากษาของศาลภาษีอากรกลางในส่วนที่เกี่ยวกับโจทก์ที่ 1 ให้ศาลภาษีอากรกลางทำการสืบพยานโจทก์ที่ 1 และพยานจำเลยเกี่ยวกับประเด็นเรื่องราคาอันแท้จริงในท้องตลาด แล้วมีคำพิพากษาใหม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3872/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วันสืบพยานและการขาดนัดพิจารณา: การเผชิญสืบที่พิพาทถือเป็นการสืบพยานแล้ว
จำเลยซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อนขอเผชิญสืบที่พิพาท และศาลได้ไปเผชิญสืบในวันที่จำเลยขอ ถือได้ว่าเป็นการสืบพยานและวันดังกล่าวเป็นวันสืบพยานตาม ป.วิ.พ. มาตรา 1(10)ประกอบมาตรา 102 วรรคแรก การที่โจทก์ได้ร่วมไปเผชิญสืบในวันนั้นย่อมถือได้ว่าโจทก์ได้มาศาลในวันสืบพยานตามมาตรา 197 วรรคสอง แม้โจทก์จะไม่มาศาลในวันสืบพยานจำเลยนัดต่อมา ก็ไม่เป็นการขาดนัดพิจารณาที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาแล้วสืบพยานจำเลยต่อไปโดยมิได้สืบพยานฝ่ายโจทก์ เป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งป.วิ.พ. ว่าด้วยการพิจารณา ศาลฎีกาย่อมเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่มิชอบดังกล่าวเสียตามมาตรา 243(2) ประกอบด้วยมาตรา 247โดยพิพากษายกคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้โจทก์ขาดนัดพิจารณาและกระบวนพิจารณาภายหลังจากนั้นทั้งหมดกับให้ยกคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสอง ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3872/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนัดสืบพยานนอกสถานที่และการขาดนัดพิจารณา ศาลต้องปฏิบัติตามขั้นตอนตามกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ศาลนัดสืบพยานจำเลยซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อนโดยนัดแรกจำเลยขอให้ศาลไปเผชิญสืบที่พิพาทและศาลก็ได้ไปเผชิญสืบในวันที่จำเลยขอ ถือได้ว่าเป็นการสืบพยานและวันดังกล่าวเป็นวันสืบพยานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 1(10) ดังนั้นการที่โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 และโจทก์ที่ 6 ร่วมไปเผชิญสืบที่พิพาทในวันดังกล่าวย่อมถือได้ว่าโจทก์ได้มาศาลในวันสืบพยานตามมาตรา 197 วรรคสองแล้ว แม้โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 และโจทก์ที่ 6 จะไม่มาศาลในวันสืบพยานจำเลยนัดต่อมาก็ตามก็ไม่เป็นการขาดนัดพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3777/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อุทธรณ์ที่ไม่ชัดเจน: จำเป็นต้องระบุเหตุผลความไม่ชอบด้วยกฎหมายของการงดสืบพยานอย่างชัดเจน
อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองบรรยายแต่เพียงว่า ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานจำเลย ทำให้จำเลยเสียเปรียบเป็นคำสั่งที่ขัดต่อกฎหมาย จำเลยไม่ได้ประวิงคดีและยังมีปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยที่ต้องนำสืบโดยมิได้กล่าวให้ชัดแจ้งว่า ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานของจำเลยทั้งสองเป็นการไม่ชอบอย่างไร และทำไมจึงทำให้จำเลยทั้งสองเสียเปรียบเพราะเหตุใดคำสั่งของศาลชั้นต้นจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่ชอบอย่างไร เหตุใดการกระทำของจำเลยไม่เป็นการประวิงคดี และคดีมีปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยที่จะต้องนำสืบมีว่าอย่างไร ดังนี้อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองจึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2398/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดสืบพยานและการรับฟังพยานเอกสาร: ศาลชอบที่จะงดสืบพยานจำเลยหากจำเลยขอเลื่อนเอง และการชำระค่าเอกสารเป็นหน้าที่ตามกฎหมาย
นัดก่อนจำเลยแถลงว่ามีพยานมาศาลเท่านี้ ขอเลื่อนคดีไป และพยานจำเลยคงเหลือ 2 ปาก นัดหน้าจะสืบเสร็จ ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนคดี นัดต่อมาจำเลยสืบพยานได้อีก 2 ปากแล้ว แถลงขอเลื่อนคดีเพื่อสืบพยานอีกโจทก์แถลงคัดค้าน ดังนี้ ศาลชั้นต้นย่อมชอบที่จะสั่งงดสืบพยานจำเลย เพราะจำเลยแถลงขอสืบต่อไปเพียง2 ปากเท่านั้น การเสียค่าอ้างเอกสารตามตาราง 2 ท้าย ป.วิ.พ. นั้นเป็นค่าธรรมเนียมอย่างหนึ่ง ซึ่งกฎหมายกำหนดให้มีหน้าที่ชำระตั้งแต่เมื่อส่งเอกสารเป็นต้นไปมิใช่ว่าหากไม่ชำระค่าอ้างเอกสารทันทีแล้วจะรับฟังเอกสารนั้น ๆ ไม่ได้ ผู้อ้างเอกสารย่อมมีโอกาสเสียค่าอ้างเอกสารได้เสมอ เมื่อโจทก์เสียค่าอ้างเอกสารจึงรับฟังเอกสารดังกล่าวเป็นพยานได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1963/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดสืบพยานนอกประเด็นและการประวิงคดีในคดีซื้อขายตั๋วสัญญาใช้เงิน
จำเลยทั้งสองให้การแต่เพียงว่า ไม่เคยขายตั๋วสัญญาใช้เงิน กับโจทก์ไม่เคยทำสัญญาใด ๆ กับโจทก์ เอกสารท้ายคำฟ้องเป็นเอกสารปลอมจำเลยทั้งสองมิได้ให้การต่อสู้เกี่ยวกับเรื่องดอกเบี้ย หรือการ ซื้อขายตั๋วสัญญาใช้เงินไม่ถูกต้องหรือผิดแบบประเพณีการค้า แต่อย่างใด การที่จำเลยทั้งสองขอให้ส่งประเด็นไปสืบ ผู้จัดการธนาคารแห่งประเทศไทยสาขาขอนแก่น ในเรื่องการคิดดอกเบี้ย และวิธีการซื้อขายตั๋วสัญญาใช้เงิน จึงเป็นการขอสืบพยานนอกประเด็น พฤติการณ์ของจำเลยเห็นได้ชัดว่าเป็นการประวิงคดี ที่ศาลชั้นต้น สั่งงดสืบพยานดังกล่าวจึงชอบแล้ว.