คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เจตนาทุจริต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 431 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1929/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฉ้อโกงลงทุนสลากกินแบ่ง: ร่วมกันหลอกลวงประชาชนด้วยข้อมูลเท็จและเจตนาทุจริต
จำเลยนำความไปบอกกล่าวแก่ประชาชนว่า จำเลยได้รับโควต้าสลากกินแบ่งฯ มาเป็นจำนวนพัน ๆ เล่ม และแสดงตนว่าเป็นคนมีฐานะการเงินดี ซึ่งไม่เป็นความจริง ความจริงจำเลยซื้อสลากกินแบ่งฯมาจากที่อื่นโดยยอมขาดทุนแล้วนำไปขายให้แก่ผู้รับซื้อไปจำหน่ายโดยให้ส่วนลดเล่มละ 8 บาทต่องวดที่ออกสลาก แต่ผู้รับซื้อจะต้องนำเงินลงทุนมามอบให้จำเลยไว้เป็นจำนวน 2 เท่าของราคาสลากกินแบ่งฯที่รับไปจำหน่าย เมื่อผู้มาลงทุนเลิกการรับไปจำหน่าย จำเลยจะคืนเงินให้ทั้งหมด แล้วจำเลยออกหนังสือแสดงการรับเงินหรือออกเช็คที่นำไปขึ้นเงินไม่ได้ให้ไว้ จนมีผู้นำเงินมาลงทุนกับจำเลยเป็นจำนวนมากแล้วจำเลยก็หลบหนีไป ไม่มีการจ่ายส่วนลด และไม่จ่ายเงินที่นำมาลงทุนคืนให้ ดังนี้ การกระทำของจำเลยปรับได้ว่าเป็นการหลอกลวงประชาชนด้วยการแสดงข้อความเท็จโดยเจตนาทุจริต ทำให้จำเลยได้ไปซึ่งเงินที่มีผู้นำมาลงทุน จึงเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยต้องกันมาแล้วว่า จำเลยออกเช็คโดยเซ็นชื่อให้ผิดไปจากตัวอย่างที่ให้ไว้กับธนาคาร ออกเช็คให้มีจำนวนเงินสูงกว่าจำนวนเงินที่มีอยู่ในธนาคาร เพื่อใช้เงินทุนเมื่อขอคืนทั้งนี้โดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น การที่จำเลยฎีกาว่าเป็นการออกเช็คเพื่อประกันหนี้ มิใช่ออกให้เพื่อชำระหนี้ จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
เมื่อทรัพย์ของกลางเป็นของจำเลยที่ 1 เป็นทรัพย์ที่ยึดอายัดไว้เป็นพยานหลักฐานในคดี ทั้งยังฟังไม่ได้ความชัดว่าเป็นทรัพย์ที่ใช้หรือได้มาจากการกระทำผิด คำขอของโจทก์ที่ขอให้ศาลสั่งคืนทรัพย์ของกลางนี้ให้แก่ผู้เสียหาย จึงไม่ใช่คำขอให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ผู้เสียหายได้สูญเสียไปเนื่องจากการกระทำผิดตามมาตรา 43 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ที่ให้อำนาจพนักงานอัยการยื่นฟ้องคดีอาญาขอหรือเรียกร้องแทนผู้เสียหายได้
ในระหว่างพิจารณาศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีเฉพาะตัวจำเลยเพราะจำเลยถึงแก่กรรม คำขอใด ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิดทางอาญาของจำเลยย่อมเป็นอันสิ้นสภาพไปด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1486/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้เรื่องการโอนเช็คโดยเจตนาทุจริตและการสมคบคิดฉ้อฉล ผู้รับโอนมีอำนาจฟ้องหรือไม่
จำเลยให้การว่าออกเช็คให้ผู้อื่นเพื่อไปซื้อของให้จำเลย แล้วผู้นั้นพาเช็คหลบหนีไป ต่อมาโจทก์ได้รับเช็คดังกล่าวจากผู้พาเช็คหลบหนีไปโดยสมคบกันเพื่อมาเรียกร้องเอาเงินจากจำเลย ด้วยเจตนาทุจริตและปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ ถือได้ว่าจำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ได้รับเช็ครายพิพาทจากผู้ที่พาเช็คหลบหนีไป โดยคบคิดกันฉ้อฉลจำเลยฉะนั้นจำเลยชอบที่จะนำพยานสืบปฏิเสธความรับผิดได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 526/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมกันออกเช็คโดยเจตนาทุจริต ผู้ให้เงินและเซ็นรับรองลายมือมีความผิดฐานตัวการ
การที่จำเลยเซ็นรับรองลายมือของบุคคลอื่นซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายในเช็ค และจำเลยนำเช็คดังกล่าวไปใช้. จำเลยจำเลยย่อมมีความผิดฐานเป็นตัวการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83. เพราะมาตรา 17 แห่งประมวลกฎหมายอาญาบัญญัติว่าบทบัญญัติในภาค 1 แห่งประมวลกฎหมายอาญานี้ ให้ใช้ในกรณีแห่งความผิดตามกฎหมายอื่นด้วย. เว้นแต่กฎหมายนั้นๆ จะได้บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น และมาตรา 83 ก็เป็นบทบัญญัติในภาค 1. ทั้งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ.2497 ก็มิได้บัญญัติในเรื่องนี้ไว้เป็นอย่างอื่น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 595/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลียนแบบเครื่องหมายการค้า: ความคล้ายคลึงที่ทำให้เกิดความสับสนและเจตนาทุจริต
จำเลยใช้ชื่อเครื่องหมายการค้า SANDREX ผิดกับของโจทก์ซึ่งใช้ANDREX เพียงอักษรตัวหน้าตัวเดียว ซึ่งหากผู้พูดหรือฟังไม่ชัดอาจเข้าใจผิดหลงง่ายทั้งรูปรอยประดิษฐ์ สีก็คล้ายคลึงกัน การวินิจฉัยว่าเลียนแบบหรือไม่ ไม่ถือหลักว่าต้องใช้ความสังเกตอย่างละเอียดเสียก่อน เมื่อสินค้าโจทก์เป็นที่นิยมแพร่หลายการเลียนแบบเครื่องหมายการค้าของโจทก์ย่อมแสดงเจตนาไม่สุจริตของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1866/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับเงินไปซื้อของแทนผู้อื่น หากนำไปใช้ส่วนตัว ถือเป็นการยักยอก
การที่จำเลยรับมอบเงินจากผู้เสียหายเพื่อซื้อข้าวเปลือกและปอฟอกให้ผู้เสียหายเช่นนี้ แม้จะไม่มีกำหนดเวลาว่าจำเลยจะต้องซื้อเมื่อใด ก็ไม่มีลักษณะเป็นการฝากทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 657 และ 672 เพราะไม่ใช่เป็นการมอบเงินให้เก็บรักษาไว้ในอารักขาของจำเลยแล้วจำเลยจะคืนให้ จริงอยู่จำเลยอาจนำธนบัตรฉบับอื่นหรือเหรียญกษาปณ์อันอื่นไปซื้อได้ แต่นั่นเป็นเพราะธนบัตรและเหรียญกษาปณ์เป็นเงินตราที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายด้วยกันตามพระราชบัญญัติเงินตราฯ จะนำธนบัตรฉบับไหนไปซื้อ ก็สมประโยชน์ของผู้เสียหาย และย่อมไม่ใช่การกระทำโดยทุจริตด้วยเหตุนี้เงินจำนวน 15,000 บาท ที่ผู้เสียหายมอบให้จำเลยครอบครอง จึงยังเป็นของผู้เสียหายอยู่จนกว่าจำเลยจะได้ซื้อข้าวเปลือกและปอฟอกให้ผู้เสียหายแล้ว อีกประการหนึ่งการที่จำเลยไม่นำเงินของผู้เสียหายที่ตนครอบครองอยู่ไปซื้อข้าวเปลือกและปอฟอกตามที่ได้รับมอบหมาย บางกรณีอาจเป็นเพียงผิดสัญญาในทางแพ่งได้ก็จริง แต่ทั้งนี้ต้องไม่ใช่เป็นการเบียดบังเอาเงินนั้นเป็นของตนหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต หากเป็นการเบียดบังเอาเงินนั้นเป็นของตนหรือบุคคลที่สามโดยทุจริตแล้ว ย่อมเป็นความผิดฐานยักยอก โดยเฉพาะคดีนี้ข้อเท็จจริงฟังได้ดังกล่าวข้างต้นว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตเบียดบังยักยอกเงินจำนวนนี้ไว้เป็นประโยชน์ของจำเลยเอง จำเลยจึงต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1866/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับเงินเพื่อซื้อของแทน ยักยอกทรัพย์เจตนาทุจริต ความผิดฐานยักยอก
การที่จำเลยรับมอบเงินจากผู้เสียหายเพื่อซื้อข้าวเปลือกและปอฟอกให้ผู้เสียหายเช่นนี้ แม้จะไม่มีกำหนดเวลาว่าจำเลยจะต้องซื้อเมื่อใด ก็ไม่มีลักษณะเป็นการฝากทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 657 และ 672 เพราะไม่ใช่เป็นการมอบเงินให้เก็บรักษาไว้ในอารักขาของจำเลยแล้วจำเลยจะคืนให้ จริงอยู่จำเลยอาจนำธนบัตรฉบับอื่นหรือเหรียญกษาปณ์อันอื่นไปซื้อได้ แต่นั่นเป็นเพราะธนบัตรและเหรียญกษาปณ์เป็นเงินตราที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายด้วยกันตามพระราชบัญญัติเงินตราฯ จะนำธนบัตรฉบับไหนไปซื้อ ก็สมประโยชน์ของผู้เสียหาย และย่อมไม่ใช่การกระทำโดยทุจริตด้วยเหตุนี้เงินจำนวน 15,000 บาท ที่ผู้เสียหายมอบให้จำเลยครอบครอง จึงยังเป็นของผู้เสียหายอยู่จนกว่าจำเลยจะได้ซื้อข้าวเปลือกและปอฟอกให้ผู้เสียหายแล้ว อีกประการหนึ่งการที่จำเลยไม่นำเงินของผู้เสียหายที่ตนครอบครองอยู่ไปซื้อข้าวเปลือกและปอฟอกตามที่ได้รับมอบหมาย บางกรณีอาจเป็นเพียงผิดสัญญาในทางแพ่งได้ก็จริง แต่ทั้งนี้ต้องไม่ใช่เป็นการเบียดบังเอาเงินนั้นเป็นของตนหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต หากเป็นการเบียดบังเอาเงินนั้นเป็นของตนหรือบุคคลที่สามโดยทุจริตแล้ว ย่อมเป็นความผิดฐานยักยอก โดยเฉพาะคดีนี้ข้อเท็จจริงฟังได้ดังกล่าวข้างต้นว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตเบียดบังยักยอกเงินจำนวนนี้ไว้เป็นประโยชน์ของจำเลยเอง จำเลยจึงต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1554/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทุจริตในการซื้อขายโค: ฉ้อโกงหรือผิดสัญญา
เมื่อพฤติการณ์เป็นว่าจำเลยใช้อุบายไปขอซื้อโคจากผู้เสียหายโดยขอให้ผู้เสียหายนำโคไปส่งที่บ้านจำเลยแล้วจำเลยจะชำระราคาให้ ครั้นเมื่อผู้เสียหายปฏิบัติตามนั้นแล้ว จำเลยกลับบ่ายเบี่ยงว่ายังเบิกเงินที่ธนาคารไม่ได้ ให้กลับไปรับเงินใหม่ในวันรุ่งขึ้นและในคืนนั้นเองจำเลยก็พาโคหนีไป ดังนี้ เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตหลอกลวงให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าจำเลยจะซื้อโคจริงมาแต่ต้น ด้วยการวางแผนเป็นขั้น ๆ และไม่มีเจตนาจะใช้ราคาโคเลย การกระทำของจำเลยครบองค์ประกอบความผิดฐานฉ้อโกงแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1554/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทุจริตหลอกลวงซื้อขายโค ศาลฎีกาวินิจฉัยเป็นความผิดฐานฉ้อโกง
เมื่อพฤติการณ์เป็นว่าจำเลยใช้อุบายไปขอซื้อโคจากผู้เสียหายโดยขอให้ผู้เสียหายนำโคไปส่งที่บ้านจำเลย แล้วจำเลยจะชำระราคาให้ครั้นเมื่อผู้เสียหายปฏิบัติตามนั้นแล้ว จำเลยกลับบ่ายเบี่ยงว่ายังเบิกเงินที่ธนาคารไม่ได้ ให้กลับไปรับเงินใหม่ในวันรุ่งขึ้นและในคืนนั้นเองจำเลยก็พาโคหนีไป ดังนี้ เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตหลอกลวงให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าจำเลยจะซื้อโคจริงมาแต่ต้น ด้วยการวางแผนเป็นขั้นๆ และไม่มีเจตนาจะใช้ราคาโคเลย การกระทำของจำเลยครบองค์ประกอบความผิดฐานฉ้อโกงแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1554/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทุจริตหลอกลวงซื้อขายโค ฉ้อโกงครบองค์ประกอบ
เมื่อพฤติการณ์เป็นว่าจำเลยใช้อุบายไปขอซื้อโคจากผู้เสียหายโดยขอให้ผู้เสียหายนำโคไปส่งที่บ้านจำเลย.แล้วจำเลยจะชำระราคาให้. ครั้นเมื่อผู้เสียหายปฏิบัติตามนั้นแล้ว. จำเลยกลับบ่ายเบี่ยงว่ายังเบิกเงินที่ธนาคารไม่ได้. ให้กลับไปรับเงินใหม่ในวันรุ่งขึ้นและในคืนนั้นเองจำเลยก็พาโคหนีไป. ดังนี้ เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตหลอกลวงให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าจำเลยจะซื้อโคจริงมาแต่ต้น. ด้วยการวางแผนเป็นขั้นๆ และไม่มีเจตนาจะใช้ราคาโคเลย. การกระทำของจำเลยครบองค์ประกอบความผิดฐานฉ้อโกงแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 626/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนที่ดินด้วยเจตนาทุจริตและผลกระทบต่อผู้รับโอนโดยสุจริต
พฤติการณ์ที่แสดงถึงความไม่สุจริต
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการโอนขายที่ดินของโจทก์ ซึ่งมีผู้ปลอมลายมือชื่อของโจทก์ไปทำการโอนขาย เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าโจทก์ไม่สุจริต โจทก์จะอ้างเอาความไม่สุจริตของโจทก์มาขอให้เพิกถอนการโอนจากจำเลยผู้ที่รับโอนที่พิพาทนั้นไว้โดยสุจริตและโดยเสียค่าตอบแทนหาได้ไม่
of 44