พบผลลัพธ์ทั้งหมด 432 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1277/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคืนของกลางที่โรงรับจำนำรับจำนำโดยรู้หรือควรรู้ว่าได้มาจากการกระทำผิด ศาลฎีกาตัดสินให้คืนเจ้าของ
ตามฟ้องเดิมโจทก์ขอให้ริบของกลางซึ่งศาลชั้นต้นได้พิพากษาริบแล้วตามขอ.โจทก์จะฎีกาขอให้คืนของกลางอันเป็นคำขอเข้ามาใหม่ไม่ได้.
โรงรับจำนำรับจำนำของกลางไว้โดยมีเหตุอันควรจะรู้ว่าของกลางนั้นได้มาโดยการกระทำความผิด. โรงรับจำนำจะต้องคืนเครื่องคิดเลขของกลางให้แก่เจ้าของตามพระราชบัญญัติโรงรับจำนำ พ.ศ.2505 มาตรา 25(2).
โรงรับจำนำรับจำนำของกลางไว้โดยมีเหตุอันควรจะรู้ว่าของกลางนั้นได้มาโดยการกระทำความผิด. โรงรับจำนำจะต้องคืนเครื่องคิดเลขของกลางให้แก่เจ้าของตามพระราชบัญญัติโรงรับจำนำ พ.ศ.2505 มาตรา 25(2).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ แม้เป็นเจ้าของ ก็ต้องใช้สิทธิทางกฎหมาย ไม่สามารถกระทำการรบกวนเองได้
แม้ห้องพิพาทจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ของจำเลย. แต่เมื่อโจทก์ยังครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้นและยังโต้แย้งสิทธิตามสัญญาเช่าอยู่. ถ้าจำเลยเข้าไปกระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองของโจทก์โดยปกติสุข. จำเลยก็มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362 ได้.
การที่จำเลยใช้ไม้กระดานตีขวางทับประตูห้องที่โจทก์ครอบครองในขณะที่โจทก์ไม่อยู่และปิดห้องไว้. ทำให้โจทก์เข้าอยู่ในห้องไม่ได้. เป็นการล่วงล้ำเข้าไปในอำนาจการครอบครองของโจทก์. ถือได้ว่าเข้าไปกระทำการรบกวนการครอบครองของโจทก์โดยปกติสุขตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362แล้ว.(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 29/2511).
การที่จำเลยใช้ไม้กระดานตีขวางทับประตูห้องที่โจทก์ครอบครองในขณะที่โจทก์ไม่อยู่และปิดห้องไว้. ทำให้โจทก์เข้าอยู่ในห้องไม่ได้. เป็นการล่วงล้ำเข้าไปในอำนาจการครอบครองของโจทก์. ถือได้ว่าเข้าไปกระทำการรบกวนการครอบครองของโจทก์โดยปกติสุขตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362แล้ว.(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 29/2511).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 361/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์รถเช่าซื้อ: แม้ครอบครองเพื่อใช้ในธุรกิจ แต่ป้ายทะเบียนแสดงเจ้าของเดิม ยืนยันกรรมสิทธิ์
เมื่อทำสัญญาเช่าซื้อรถพิพาทแล้ว จำเลยเอารถมาใช้รับส่งเด็กนักเรียนของจำเลย ได้เขียนเครื่องหมายอักษรย่อชื่อโรงเรียนไว้ที่กระจกท้ายรถตลอดมา จนเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไปยึดเอามา แต่ที่กระจกหน้ารถมีกระดาษวงกลมของนายทะเบียนยานพาหนะระบุชื่อผู้เป็นเจ้าของรถ และทะเบียนรถมีอยู่ที่กองทะเบียนยานพาหนะก็ลงว่าผู้ร้องเป็นเจ้าของรถ ดังนี้ แม้รถจะอยู่ในความครอบครองหรืออำนาจสั่งการในธุรกิจของจำเลยด้วยความยินยอมของผู้ร้อง ตามพฤติการณ์ยังไม่ทำให้เห็นว่าจำเลยเป็นเจ้าของรถ เพราะป้ายทะเบียนวงกลมของนายทะเบียนยานพาหนะยังแสดงให้ประจักษ์แก่คนทั้งหลายว่าผู้ร้องเป็นเจ้าของรถ ส่วนตราอักษรชื่อย่อของโรงเรียนเขียนไว้ที่กระจกด้านหลังรถก็เป็นเพียงแสดงให้รู้ว่าเป็นรถรับส่งนักเรียนโรงเรียนใดเท่านั้น ไม่ได้ระบุว่าโรงเรียนเป็นเจ้าของรถ แม้ที่รถมีทั้งป้ายวงกลมของกองทะเบียนและตราอักษรย่อชื่อโรงเรียนดังกล่าวอยู่ด้วย ผู้เห็นจะต้องเข้าใจว่าผู้ร้องเป็นเจ้าของรถมากกว่าจะคิดว่าโรงเรียนเป็นเจ้าของ และที่ผู้ร้องเป็นเจ้าของรถอันแท้จริง ยอมให้รถอยู่ในความครอบครองใช้สอยของจำเลย ก็เกิดจากสัญญาเช่าซื้อ พฤติการณ์ดังกล่าวย่อมไม่ทำให้เห็นว่าจำเลยผู้ล้มละลายเป็นเจ้าของรถพิพาท อันจะทำให้รถพิพาทตกเป็นทรัพย์สินในกองล้มละลายอันอาจแบ่งแก่เจ้าหนี้ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 109 (3)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1669/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในเรือนสร้างบนที่ดินเช่า: สิทธิของผู้ออกค่าใช้จ่ายสร้างย่อมเป็นเจ้าของเรือน แม้ที่ดินเป็นของผู้อื่น
สามีจำเลยกับจำเลยปลูกร้านในที่ดินที่เช่าจากสำนักงานทรัพย์สินฯ โจทก์ขอเช่าจากจำเลย ต่อมาโจทก์จำเลยตกลงกันให้โจทก์รื้อร้าน แล้วปลูกเรือน 2 ชั้นขึ้นตรงที่ปลูกร้านนั้นเป็นบ้านพักของโจทก์ พร้อมกับปลูกเรือนชั้นเดียวติดกับเรือน 2 ชั้น โดยโจทก์เป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย ดังนี้ เรือน 2 ชั้นกับเรือนพิพาทต้องถือว่าเป็นของโจทก์ตั้งแต่โจทก์ปลูก เหตุที่ปลูกในที่ดินที่จำเลยเช่า ก็ไม่ทำให้เรือนตกเป็นของจำเลย แม้เอกสารยกบ้านให้โจทก์จะไม่มีผลเป็นการโอนกรรมสิทธิ์ในเรือนพิพาทให้โจทก์ ก็หากระทบกระเทือนถึงสิทธิของโจทก์ในเรือนพิพาทไม่ หนังสือสัญญาเช่าร้านเดิมที่โจทก์ทำไว้กับจำเลยย่อมสิ้นผลไป เพราะร้านอันเป็นวัตถุแห่งการเช่าไม่มีอยู่
ใบเสร็จรับเงินระบุว่าเป็นค่าเช่าบ้าน โจทก์ย่อมนำสืบความจริงได้ว่าเป็นค่าเช่าที่ดิน โดยไม่ต้องมีหลักฐานการเช่าที่ดินมาแสดงเพราะโจทก์มิได้นำสืบเพื่อขอให้บังคับตามสัญญาเช่าที่ดินโดยตรง
ใบเสร็จรับเงินระบุว่าเป็นค่าเช่าบ้าน โจทก์ย่อมนำสืบความจริงได้ว่าเป็นค่าเช่าที่ดิน โดยไม่ต้องมีหลักฐานการเช่าที่ดินมาแสดงเพราะโจทก์มิได้นำสืบเพื่อขอให้บังคับตามสัญญาเช่าที่ดินโดยตรง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1669/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในเรือนสร้างบนที่ดินเช่า: การสร้างด้วยเงินตนเองย่อมเป็นเจ้าของ แม้ที่ดินเป็นของผู้อื่น
สามีจำเลยกับจำเลยปลูกร้านในที่ดินที่เช่าจากสำนักงานทรัพย์สินฯ. โจทก์ขอเช่าจากจำเลย. ต่อมาโจทก์จำเลยตกลงกันให้โจทก์รื้อร้าน. แล้วปลูกเรือน 2 ชั้นขึ้นตรงที่ปลูกร้านนั้นเป็นบ้านพักของโจทก์. พร้อมกับปลูกเรือนชั้นเดียวติดกับเรือน 2 ชั้น โดยโจทก์เป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย. ดังนี้ เรือน 2 ชั้นกับเรือนพิพาทต้องถือว่าเป็นของโจทก์ตั้งแต่โจทก์ปลูก. เหตุที่ปลูกในที่ดินที่จำเลยเช่า. ก็ไม่ทำให้เรือนตกเป็นของจำเลย. แม้เอกสารยกบ้านให้โจทก์จะไม่มีผลเป็นการโอนกรรมสิทธิ์ในเรือนพิพาทให้โจทก์. ก็หากระทบกระเทือนถึงสิทธิของโจทก์ในเรือนพิพาทไม่. หนังสือสัญญาเช่าร้านเดิมที่โจทก์ทำไว้กับจำเลยย่อมสิ้นผลไป. เพราะร้านอันเป็นวัตถุแห่งการเช่าไม่มีอยู่.
ใบเสร็จรับเงินระบุว่าเป็นค่าเช่าบ้าน. โจทก์ย่อมนำสืบความจริงได้ว่าเป็นค่าเช่าที่ดิน. โดยไม่ต้องมีหลักฐานการเช่าที่ดินมาแสดง. เพราะโจทก์มิได้นำสืบเพื่อขอให้บังคับตามสัญญาเช่าที่ดินโดยตรง.
ใบเสร็จรับเงินระบุว่าเป็นค่าเช่าบ้าน. โจทก์ย่อมนำสืบความจริงได้ว่าเป็นค่าเช่าที่ดิน. โดยไม่ต้องมีหลักฐานการเช่าที่ดินมาแสดง. เพราะโจทก์มิได้นำสืบเพื่อขอให้บังคับตามสัญญาเช่าที่ดินโดยตรง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 901/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าของเช่าซื้อในการติดตามเรียกคืนทรัพย์สินจากผู้รับจำนำ แม้มีข้อจำกัดตามพรบ.โรงรับจำนำ
เจ้าของจักรได้ให้เช่าซื้อจักรไปโดยมีข้อสัญญาว่าผู้เช่าซื้อจะไม่นำไปจำนำแก่บุคคลอื่น เมื่อผู้เช่าซื้อนำไปจำนำ โจทก์ผู้เป็นเจ้าของชอบที่จะกลับเข้าครอบครองจักรรายพิพาทได้ และใช้สิทธิติดตามฟ้องเรียกคืนจากผู้รับจำนำได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336 เว้นแต่ผู้รับจำนำจะได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติโรงรับจำนำ แต่ปรากฏว่าเวลาที่รับจำนำจักรรายพิพาทยังอยู่ในระหว่างเวลาที่พระราชบัญญัติโรงรับจำนำ พ.ศ. 2480 และพระราชบัญญัติโรงรับจำนำ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2484 ยังใช้บังคับ ซึ่งกำหนดให้โรงรับจำนำรับจำนำแต่ละรายไม่เกิน 400 บาท เมื่อผู้รับจำนำรับจำนำไว้แต่ละรายเกินกว่า 400 บาท ก็ไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติโรงรับจำนำดังกล่าว ส่วนพระราชบัญญัติโรงรับจำนำ พ.ศ.2505 ก็ไม่อาจนำมาใช้บังคับ เพราะผู้รับจำนำรับจำนำไว้ก่อน โจทก์ไม่จำต้องนำสืบว่าผู้เช่าซื้อมีเจตนาทุจริตหรือไม่และไม่จำต้องฟ้องเรียกร้องตามสัญญาจากผู้ค้ำประกันก่อน โจทก์มีสิทธิติดตามฟ้องเรียกจักรรายพิพาทคืนจากผู้รับจำนำได้โดยตรง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 663/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานบริการอาบนวดที่เปิดให้มีการค้าประเวณีถือเป็นสถานการค้าประเวณี เจ้าของมีความผิดตาม พ.ร.บ. ปรามการค้าประเวณี
พฤติการณ์ของร้านบริการอาบนวดที่ถือเป็นสถานการค้าประเวณีตามพระราชบัญญัติปรามการค้าประเวณี มาตรา 4,
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 187/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีหนี้ซื้อเชื่อ: โจทก์ในฐานะผู้จัดการร้านค้าที่มิได้เป็นเจ้าของ ไม่มีอำนาจฟ้องแทน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ซื้อเชื่อสิ่งของจากร้านค้าของโจทก์ ทางพิจารณาปรากฏว่าจำเลยได้ซื้อเชื่อสิ่งของจากร้านวิศาลพานิช และรับสภาพหนี้เป็นลูกหนี้ของร้านวิศาลพานิช ร้านวิศาลพานิชเป็นของบิดาโจทก์ โจทก์ไม่ใช่เจ้าของร้าน โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1303/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ช้างของกลาง: การริบเฉพาะส่วนของเจ้าของที่รู้เห็นเป็นใจ
ช้างของกลางเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของสองคน คนละกึ่งหนึ่งเจ้าของคนหนึ่งรู้เห็นเป็นใจให้จำเลยนำช้างของกลางไปชักลากไม้ที่แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ดังนี้ ศาลย่อมริบช้างของกลางกึ่งหนึ่งเฉพาะส่วนของเจ้าของคนที่รู้เห็นเป็นใจสำหรับอีกกึ่งหนึ่งให้ตกได้แก่เจ้าของที่ไม่ได้รู้เห็นเป็นใจ จะริบทั้งหมดหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1076-1079/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองในที่ดิน: การได้มาซึ่งสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายต้องมีฐานะเป็นเจ้าของเดิมหรือผู้มีสิทธิ
ผู้ที่ไม่มีสิทธิในที่ดิน แม้จะได้ไปแจ้งการครอบครองได้รับ ส.ค.1และได้รับหนังสือรับรองการทำประโยชน์ น.ส.3 ก็ไม่ก่อให้เกิดสิทธิครอบครอง ในที่นั้น
รับซื้อที่ดินซึ่งมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ น.ส.3 ไว้โดยสุจริตเสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนโดยถูกต้องตามกฎหมาย แต่เมื่อปรากฏว่าผู้ที่มีชื่อในหนังสือรับรองการทำประโยชน์ น.ส.3 ไม่มีสิทธิในที่ดินนั้น ผู้ซื้อก็ไม่มีสิทธิอย่างใด
รับซื้อที่ดินซึ่งมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ น.ส.3 ไว้โดยสุจริตเสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนโดยถูกต้องตามกฎหมาย แต่เมื่อปรากฏว่าผู้ที่มีชื่อในหนังสือรับรองการทำประโยชน์ น.ส.3 ไม่มีสิทธิในที่ดินนั้น ผู้ซื้อก็ไม่มีสิทธิอย่างใด