คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เช็คพิพาท

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 256 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1733/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คพิพาท: การโอนเช็คโดยส่งมอบ และความรับผิดของผู้สั่งจ่ายเช็คต่อทายาทผู้รับมรดก
เช็คพิพาทเป็นเช็คที่ น.สั่งจ่ายแก่ผู้ถือ ย่อมโอนไปเพียงด้วยส่งมอบให้กันเมื่อตกมาอยู่ในความครอบครองของโจทก์โดยฐานเป็นผู้รับเงิน โจทก์จึงเป็นผู้ทรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904 และ น.เป็นผู้ลงลายมือชื่อในเช็คย่อมจะต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้นตามมาตรา 900 ที่โจทก์กล่าวในฟ้องว่า น.สั่งจ่ายเช็คเพื่อชำระหนี้เงินกู้ให้โจทก์ (ต่อมา น.ถึงแก่กรรม โจทก์ขอให้จำเลยในฐานะทายาทผู้รับมรดกชำระหนี้) แต่จำเลยปฏิเสธนั้นจะเท็จจริงอย่างไรไม่สำคัญ เพราะเป็นรายละเอียดไม่จำต้องบรรยายฟ้องว่าโจทก์ได้รับเช็คมาอย่างไร เมื่อเช็คพิพาทเป็นเช็คที่ออกโดยมีมูลหนี้แม้มิได้ลงวันที่สั่งจ่าย โจทก์ในฐานะผู้ทรงเช็คก็ชอบที่จะลงวันที่ได้ไม่เป็นการฉ้อฉลจำเลยทั้งสองในฐานะผู้รับมรดกของ น. จึงต้องร่วมกันใช้เงินตามเช็คพร้อมทั้งดอกเบี้ยนับแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1733/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คพิพาท: การโอนเช็คด้วยการส่งมอบ และสิทธิของผู้ทรงเช็คแม้เช็คไม่ได้ลงวันที่
เช็คพิพาทเป็นเช็คที่ น. สั่งจ่ายแก่ผู้ถือ ย่อมโอนไปเพียงด้วยส่งมอบให้กันเมื่อตกมาอยู่ในความครอบครองของโจทก์โดยฐานเป็นผู้รับเงิน โจทก์จึงเป็นผู้ทรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904 และ น. เป็นผู้ลงลายมือชื่อในเช็คย่อมจะต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้นตามมาตรา 900 ที่โจทก์กล่าวในฟ้องว่า น. สั่งจ่ายเช็คเพื่อชำระหนี้เงินกู้ให้โจทก์ (ต่อมา น.ถึงแก่กรรม โจทก์ขอให้จำเลยในฐานะทายาทผู้รับมรดกชำระหนี้) แต่จำเลยปฏิเสธนั้นจะเท็จจริงอย่างไรไม่สำคัญ เพราะเป็นรายละเอียดไม่จำต้องบรรยายฟ้องว่าโจทก์ได้รับเช็คมาอย่างไร เมื่อเช็คพิพาทเป็นเช็คที่ออกโดยมีมูลหนี้แม้มิได้ลงวันที่สั่งจ่าย โจทก์ในฐานะผู้ทรงก็ชอบที่จะลงวันที่ได้ไม่เป็นการฉ้อฉล จำเลยทั้งสองในฐานะผู้รับมรดกของ น. จึงต้องร่วมกันใช้เงินตามเช็คพร้อมทั้งดอกเบี้ยนับแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2290/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คพิพาทเสียผลประโยชน์จากการแก้ไขสลักหลัง และธนาคารประมาทเลินเล่อเรียกเก็บเงิน
เช็คพิพาทเป็นเช็คขีดคร่อมระบุจ่ายให้บริษัท พ.บริษัทพ. สลักหลังลอยให้โจทก์ โจทก์ใช้ตรายางประทับด้านหลังเช็คมีข้อความว่าเพื่อฝากเข้าบัญชีของโจทก์เท่านั้น แล้วลงชื่อมอบให้พนักงานของโจทก์ไปฝากเข้าบัญชี พนักงานของโจทก์ได้ลบข้อความที่โจทก์ใช้ตรายางประทับ ทำให้การสลักหลังของโจทก์กลายสภาพเป็นสลักหลังลอย แล้วยักยอกเช็คนั้นไปมอบให้ อ.แล้วอ. นำเช็คไปเข้าบัญชีธนาคารจำเลยเพื่อให้เรียกเก็บเงิน จำเลยเรียกเก็บเงินตามเช็คนั้นแล้วปรากฏว่าการลบถ้อยคำสลักหลังของโจทก์มีร่องรอยที่เห็นได้ชัดเจน เป็นการแก้ไขในส่วนสำคัญ เช็คพิพาทย่อมเสียไปตามมาตรา 1007 อ. จะถือประโยชน์จากเช็คพิพาทไม่ได้ธนาคารจำเลยรับเงินตามเช็คไว้เพื่อ อ. โดยความประมาทเลินเล่อ ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม มาตรา 1000 จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ผู้เป็นเจ้าของเช็คพิพาทอันแท้จริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1463-1464/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คพิพาท ผู้ทรงเช็คโดยชอบ ฟ้องเรียกเงินตามเช็คได้ แม้ไม่ได้ระบุรายละเอียดการรับเช็ค
จำเลยร่วมเล่นแชร์และประมูลแชร์ได้ไปแล้ว ได้ออกเช็คพิพาทไว้ให้เพื่อให้ผู้ประมูลได้ภายหลังนำไปขึ้นเงินได้ทันที เช็คพิพาทเป็นเช็คสั่งจ่ายแก่ผู้ถือ จึงโอนกันได้เพียงการส่งมอบ เมื่อโจทก์เป็นผู้เล่นแชร์วงนี้ด้วย และรับโอนเช็คเหล่านี้มาจากผู้เล่นคนอื่นๆ โจทก์จึงเป็นผู้ทรงเช็คพิพาทโดยชอบ จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 989 และมาตรา 914
โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็คดังกล่าว โดยบรรยายฟ้องว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คและจำเลยเป็นผู้สั่งจ่าย การบรรยายฟ้องของโจทก์จึงชัดเจนเพียงพอที่จะทำให้จำเลยเข้าใจสภาพแห่งข้อหาและหน้าที่ของจำเลยที่จะต้องชำระเงินตามเช็คพิพาทเหล่านี้แล้ว ไม่จำต้องบรรยายว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมายด้วยมูลหนี้อะไร มีผู้สลักหลังให้มาหรืออย่างไร ฯลฯ
การเล่นแชร์เป็นสัญญาชนิดหนึ่ง มุ่งหมุนเวียนเงินมาจับจ่ายใช้สอยโดยผลัดกันยืมแล้วผ่อนใช้ การที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดเล่นแชร์เพื่อหาเงินมาใช้ในการดำเนินกิจการของนิติบุคคลเช่นนี้ จึงไม่เป็นการนอกเหนือวัตถุประสงค์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1697/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนเช็คพิพาทโดยไม่สุจริต ทำให้ผู้รับโอนไม่มีสิทธิเรียกร้องเงินจากผู้สั่งจ่าย
โจทก์รับโอนเช็คพิพาทจากผู้สลักหลังโดยไม่สุจริต จึงไม่มีสิทธิจะเรียกเงินตามเช็คพิพาทจากผู้สั่งจ่าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1162/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คพิพาท: ผู้ถือเช็คมีสิทธิเรียกร้องเงินจากผู้สั่งจ่าย แม้โอนสิทธิไปแล้ว และการชำระค่าเอกสารไม่จำเป็นต้องทันที
จำเลยเขียนเช็คพิพาทสั่งจ่ายเงินให้ในนามของโจทก์หรือผู้ถือ ต่อมาโจทก์สลักหลังเช็คพิพาทแล้วมอบให้ ป. เป็นผู้รับเงิน แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินป.จึงคืนเช็คพิพาทให้โจทก์ ดังนี้ แม้โจทก์จะโอนสิทธิรับเงินให้ ป. ไปแล้วก็ตาม แต่เช็คพิพาทมีคำจดแจ้งว่าหรือให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ เมื่อเช็คพิพาทกลับคืนมาอยู่กับโจทก์อีก โจทก์จึงเป็นผู้ทรงเช็คพิพาทโดยฐานเป็นผู้ถือ จำเลยลงลายมือชื่อในเช็ค จึงต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คพิพาท
ความเสียหายอันเกิดจากผู้ทรงไม่นำเช็คไปขึ้นเงินต่อ ธนาคารภายในกำหนดตามมาตรา 990 นั้น หมายถึงผู้สั่งจ่ายเสียเงินที่มีอยู่ในธนาคาร เพราะการที่ผู้ทรงเช็คไม่นำเช็คไปขึ้นเงินภายในกำหนดเช่นธนาคารล้มละลายเป็นต้น ถ้าหากผู้สั่งจ่ายไม่เสียหายดังกล่าวนี้แล้ว ผู้ทรงเช็คก็เรียกเงินตามเช็คต่อผู้สั่งจ่ายได้(วินิจฉัยตามฎีกาที่ 1865/2492)
การชำระค่าอ้างเอกสารนั้น กฎหมายเพียงแต่กำหนดให้มีหน้าที่ชำระตั้งแต่เมื่อส่งเอกสารเป็นต้นไป มิใช่ว่าหากไม่ชำระค่าอ้างเอกสารทันทีแล้วจะรับฟังเอกสารนั้น ๆไม่ได้ ผู้ร้องย่อมมีโอกาสเสียได้เสมอก่อนที่ศาลจะพิพากษา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนเช็คพิพาทโดยไม่สุจริต ผู้สั่งจ่ายไม่ต้องรับผิด
โจทก์ได้รับโอนเช็คพิพาทไว้โดยคบคิดกันฉ้อฉลกับจำเลยที่ 2 เป็นการได้เช็คพิพาทไว้โดยไม่สุจริต จำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายย่อมปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 905, 916 ประกอบด้วยมาตรา 989
จำเลยที่ 1 ให้การว่าโจทก์ได้เช็คพิพาทโดยคบคิดกันฉ้อฉลกับจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นการได้มาโดยทุจริต หรือมิฉะนั้นโจทก์ได้เช็คพิพาทมาด้วยการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ข้อต่อสู้ดังกล่าวนี้เป็นประเด็นพิพาทซึ่งจำเลยที่ 1 ย่อมจะนำสืบต่อสู้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คพิพาท - การได้มาโดยทุจริต/ประมาทเลินเล่อของผู้รับโอน ผู้สั่งจ่ายไม่ต้องรับผิด
โจทก์ได้รับโอนเช็คพิพาทไว้โดยคบคิดกันฉ้อฉลกับจำเลยที่ 2 เป็นการได้เช็คพิพาทไว้โดยไม่สุจริต จำเลยที่1 ผู้สั่งจ่ายย่อมปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 905, 916 ประกอบด้วยมาตรา 989
จำเลยที่ 1 ให้การว่าโจทก์ได้เช็คพิพาทโดยคบคิดกันฉ้อฉลกับจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นการได้มาโดยทุจริต หรือมิฉะนั้นโจทก์ได้เช็คพิพาทมาด้วยการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ข้อต่อสู้ดังกล่าวนี้เป็นประเด็นพิพาทซึ่งจำเลยที่ 1 ย่อมจะนำสืบต่อสู้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8848/2559

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องเช็คพิพาท: ข้อเท็จจริงต้องได้จากการดำเนินกระบวนพิจารณา & ความรับผิดตามเช็ค
ปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้คู่ความมิได้ยกขึ้นต่อสู้ในศาลชั้นต้น ก็มีสิทธิยกขึ้นอ้างในชั้นอุทธรณ์ได้ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 225 วรรคสอง ก็ตาม แต่ข้อกฎหมายที่ยกขึ้นอ้างอิงในอุทธรณ์ดังกล่าวจะต้องเป็นข้อกฎหมายที่ได้ข้อเท็จจริงมาจากการดำเนินกระบวนพิจารณาโดยชอบด้วย มิใช่ได้ข้อเท็จจริงมาจากเรื่องนอกฟ้อง นอกคำให้การ หรือนอกประเด็น หรือที่ไม่เกี่ยวกับที่คู่ความต้องนำสืบ คดีนี้เมื่อจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์สืบพยานโจทก์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 198 ทวิ วรรคสอง (2) คดีจึงมีประเด็นเพียงว่าจำเลยต้องรับผิดตามเช็คพิพาทหรือไม่เพียงใด ไม่มีประเด็นเรื่องอำนาจฟ้องและโจทก์ฟ้องคดีโดยสุจริตหรือไม่ ดังนั้นที่จำเลยอุทธรณ์อ้างว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องและใช้สิทธิฟ้องโดยไม่สุจริตโดยอ้างอิงจากคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นจึงเป็นการกล่าวอ้างข้อเท็จจริงที่มิใช่ข้อเท็จจริงที่ได้มาจากการดำเนินกระบวนพิจารณาโดยชอบ ที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยเพราะเห็นว่าไม่ใช่ข้อที่ยกขึ้นว่ากล่าวมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นต้องห้ามอุทธรณ์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 225 วรรคหนึ่ง นั้น จึงชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
คดีนี้โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็คในฐานะโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คพิพาท มิใช่ฟ้องให้จำเลยรับผิดตามมูลหนี้อื่น เมื่อจำเลยมิได้ปฏิเสธว่าลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายในเช็คพิพาททั้ง 7 ฉบับ มิใช่ลายมือชื่อของจำเลย และมิได้ต่อสู้ว่าจำเลยมิได้เป็นผู้กรอกจำนวนเงินในเช็คพิพาท แต่โจทก์เป็นผู้กรอกจำนวนเงิน และจำนวนเงินตามเช็คพิพาททั้งหมดมากกว่าที่เป็นหนี้กันอยู่จริง จำเลยจึงต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้น ตาม ป.พ.พ. มาตรา 900

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 342/2559

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของโจทก์ และการบังคับชำระหนี้ตามเช็คพิพาท พร้อมทั้งหน้าที่ศาลในการสั่งค่าฤชาธรรมเนียม
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นและให้จำเลยใช้ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์จำนวน 6,000 บาท แทนโจทก์ โดยไม่ได้สั่งเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมอื่น เป็นการไม่ชอบ เพราะคำสั่งในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียม แม้จะไม่มีคำขอของคู่ความฝ่ายใดก็เป็นหน้าที่ของศาลจะต้องสั่งลงไว้ในคำพิพากษาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 167 วรรคหนึ่ง แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดกล่าวอ้าง ศาลฎีกาก็มีอำนาจแก้ไขให้ถูกต้องได้
of 26