พบผลลัพธ์ทั้งหมด 279 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1366/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินแบ่งแปลงไม่ถือเป็นการแปลงหนี้ สัญญาเดิมยังใช้บังคับได้
ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินบ้านและที่สวนรวม 2 แปลง ราคา 3,000 บาทวันโอนกันที่อำเภอผู้ซื้อมีเงินไม่ถึง 3,000 บาท จึงตกลงขายที่บ้านแปลงเดียวก่อนตีราคา 2,600 บาท ส่วนที่สวนตีราคา 400 บาท นัดโอนกันภายหลัง ดังนี้ ย่อมถือได้ว่า คู่กรณีมิได้ตกลงกันเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญแห่งหนี้ให้ผิดแผกไปจากเดิมเลย ที่ให้โอนที่บ้านก่อนแล้วจึงมาโอนที่สวนภายหลังก็เพื่อความสะดวกของผู้ซื้อในเรื่องเงิน จำนวนราคาเมื่อรวมกันก็เป็น 3,000 บาท เท่าเดิม จึงไม่ใช่เรื่องแปลงหนี้ สัญญาจะซื้อขายฉบับเดิมหาได้ระงับไปไม่ผู้ขายยังมีสิทธิฟ้องบังคับให้ผู้ซื้อซื้อที่สวนในราคา 400 บาทได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1039/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลงหนี้จากหนี้ซื้อเชื่อเป็นหนี้กู้ยืมและการฟ้องร้องตามสัญญาใหม่
ซื้อเชื่อครั่งของเขาไป ภายหลังตกลงทำเป็นสัญญากว่ากู้เงินของเขาไปเป็นจำนวนเงินเท่าราคาครั่งที่เชื่อไป และมีกำหนดต้องเสียดอกเบี้ยด้วย ดังนี้เป็นการแปลงหนี้ใหม่ เพราะคู่กรณีได้ทำสัญญาเปลี่ยนสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งหนี้ต่อกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1039/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลงหนี้จากหนี้ซื้อเชื่อเป็นหนี้กู้ การมีดอกเบี้ยเป็นสาระสำคัญ
ซื้อเชื่อครั่งของเขาไป ภายหลังตกลงทำเป็นสัญญาว่ากู้เงินของเขาไปเป็นจำนวนเงินเท่าราคาครั่งที่ซื้อเชื่อไป และมีกำหนดต้องเสียดอกเบี้ยด้วย ดังนี้เป็นการแปลงหนี้ใหม่เพราะคู่กรณีได้ทำสัญญาเปลี่ยนสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งหนี้ต่อกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 662/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลงหนี้ดอกเบี้ยเป็นหนี้ต้นเงินใหม่ มีผลเปลี่ยนอายุความตาม ป.พ.พ. มาตรา 655
การที่ตกลงกันเอาดอกเบี้ยจำนองที่ค้างชำระมาทำบันทึกเป็นสัญญาจำนอง เป็นรับต้นเงินเพิ่มขึ้นนั้น มีผลทำให้หนี้ดอกเบี้ยเดิมระงับ กลายเป็นหนี้เงินขึ้นใหม่ ตามประมวลกฎหมายแพ่ง มาตรา 655 ซึ่งมีอายุความ 10 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 662/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลงหนี้ดอกเบี้ยเป็นหนี้ต้นเงินใหม่ อายุความ 10 ปี
การที่ตกลงกันเอาดอกเบี้ยจำนองที่ค้างชำระมาทำบันทึกท้ายสัญญาจำนอง เป็นรับต้นเงินเพิ่มขึ้นนั้น มีผลทำให้หนี้ดอกเบี้ยเดิมระงับ กลายเป็นหนี้ต้นเงินขึ้นใหม่ ตามประมวลกฎหมายแพ่ง มาตรา 655ซึ่งมีอายุความ 10 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 420/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แปลงหนี้จำนองเป็นขายฝาก: สัญญาเดิมระงับ สัญญาใหม่บังคับได้ ดอกเบี้ยค้างชำระรวมต้นเงินได้
เดิมจดทะเบียนจำนองที่ไว้แก่เขา ภายหลังตกลงเปลี่ยนเป็นทำสัญญาทะเบียนขายฝาก ดังนี้ เป็นการแปลงหนี้จำนองเดิมเป็นขายฝาก สัญญาจำนองเดิมเป็นอันระงับสิ้นไปในตัว บังคับตามสัญญาขายฝากได้โดยไม่จำต้องจดทะเบียนเพิกถอนสัญญาจำนองเดิมเสียก่อน
การตกลงกันให้เอาดอกเบี้ยที่ค้างอยู่กว่า 5 ปี ตามสัญญาจำนองมาคิดรวมเป็นต้นเงินในสัญญาขายฝาก+ขึ้นใหม่นั้นก็หาต้องห้ามตามกฏหมายไม่
การตกลงกันให้เอาดอกเบี้ยที่ค้างอยู่กว่า 5 ปี ตามสัญญาจำนองมาคิดรวมเป็นต้นเงินในสัญญาขายฝาก+ขึ้นใหม่นั้นก็หาต้องห้ามตามกฏหมายไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 420/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลงหนี้จำนองเป็นขายฝาก: สัญญาจำนองระงับ และการคิดดอกเบี้ยค้างชำระเป็นต้นเงิน
เดิมจดทะเบียนจำนองที่ไว้แก่เขาภายหลังตกลงเปลี่ยนเป็นทำสัญญาจดทะเบียนขายฝากดังนี้ เป็นการแปลงหนี้จำนองเดิมเป็นขายฝากสัญญาจำนองเดิมเป็นอันระงับสิ้นไปในตัว บังคับตามสัญญาขายฝากได้โดยไม่จำต้องจดทะเบียนเพิกถอนสัญญาจำนองเดิมเสียก่อน
การตกลงกันให้เอาดอกเบี้ยที่ค้างอยู่กว่า 5 ปีตามสัญญาจำนองมาคิดรวมเป็นต้นเงินในสัญญาขายฝากที่ทำขึ้นใหม่นั้นหาต้องห้ามตามกฎหมายไม่
การตกลงกันให้เอาดอกเบี้ยที่ค้างอยู่กว่า 5 ปีตามสัญญาจำนองมาคิดรวมเป็นต้นเงินในสัญญาขายฝากที่ทำขึ้นใหม่นั้นหาต้องห้ามตามกฎหมายไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 30/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลงหนี้จำนองเป็นหนี้ซื้อขาย และผลกระทบต่อสิทธิไถ่ถอน
ผู้จำนองตกลงขายที่ดินที่จำนองให้แก่ผู้รับจำนองโดยให้เงินที่ค้างชำระเป็นการชำระราคานั้น ถือว่าเป็นการแปลงหนี้ใหม่แล้ว สิทธิขอไถ่ถอนก็ย่อมเป็นอันระงับไป,
จำเลยอุทธรณ์ว่าศาลแขวงพิพากษาให้จำเลยแพ้โดยไม่สืบพะยานไม่ชอบ ขอให้กลับศาลแขวงสั่งให้ศาลนั้นโอนคดีดังนี้ ตีความได้ว่าขอให้ยกคำพิพากษาศาลแขวงและสั่งให้ศาลนั้นโอนคดี,
ในกรณีที่มีการอุทธรณ์และฎีกาแล้วขอให้โอนคดีนั้น ศาลฎีกาให้คู่ความไปว่ากล่าวกันตามวิธีพิจารณาความแพ่ง
จำเลยอุทธรณ์ว่าศาลแขวงพิพากษาให้จำเลยแพ้โดยไม่สืบพะยานไม่ชอบ ขอให้กลับศาลแขวงสั่งให้ศาลนั้นโอนคดีดังนี้ ตีความได้ว่าขอให้ยกคำพิพากษาศาลแขวงและสั่งให้ศาลนั้นโอนคดี,
ในกรณีที่มีการอุทธรณ์และฎีกาแล้วขอให้โอนคดีนั้น ศาลฎีกาให้คู่ความไปว่ากล่าวกันตามวิธีพิจารณาความแพ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 30/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำนองแปลงหนี้: การขายที่ดินชำระหนี้ทำให้สิทธิไถ่ถอนระงับ
ผู้จำนองตกลงขายที่ดินที่จำนองให้แก่ผู้รับจำนองโดยให้เงินที่ค้างชำระเป็นการชำระราคานั้น ถือว่าเป็นการแปลงหนี้ใหม่แล้ว สิทธิขอไถ่ถอนก็ย่อมเป็นอันระงับไป
จำเลยอุทธรณ์ว่าศาลแขวงพิพากษาให้จำเลยแพ้โดยไม่สืบพยานไม่ชอบ ขอให้กลับศาลแขวงสั่งให้ศาลนั้นโอนคดีดังนี้ตีความได้ว่าขอให้ยกคำพิพากษาศาลแขวงและสั่งให้ศาลนั้นโอนคดี
ในกรณีที่มีการอุทธรณ์และฎีกาแล้วขอให้โอนคดีนั้นศาลฎีกาให้คู่ความไปว่ากล่าวกันตามวิธีพิจารณาความแพ่ง
จำเลยอุทธรณ์ว่าศาลแขวงพิพากษาให้จำเลยแพ้โดยไม่สืบพยานไม่ชอบ ขอให้กลับศาลแขวงสั่งให้ศาลนั้นโอนคดีดังนี้ตีความได้ว่าขอให้ยกคำพิพากษาศาลแขวงและสั่งให้ศาลนั้นโอนคดี
ในกรณีที่มีการอุทธรณ์และฎีกาแล้วขอให้โอนคดีนั้นศาลฎีกาให้คู่ความไปว่ากล่าวกันตามวิธีพิจารณาความแพ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 862/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลงหนี้ใหม่และการฟ้องค้ำประกันภายในอายุความ การไม่ฟ้องภายในกำหนดไม่ถือเป็นการผ่อนเวลา
ซื้อเชื่อโคต่อกัน แล้วมาทำเปนสัญญา+ ถือว่าเปนแปลงหนีไหม่
เจ้าหนี้ไม่ฟ้องลูกหนี้เมื่อหนี้ถึงกำหนดนั้น ไม่ถือว่าเปนการอ่อนเวลาชำระหนี้ไห้ลูกหนี้ ผู้ค้ำประกันจึงไม่หลุดพ้น.
เจ้าหนี้ไม่ฟ้องลูกหนี้เมื่อหนี้ถึงกำหนดนั้น ไม่ถือว่าเปนการอ่อนเวลาชำระหนี้ไห้ลูกหนี้ ผู้ค้ำประกันจึงไม่หลุดพ้น.