พบผลลัพธ์ทั้งหมด 556 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5785/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอรับชำระหนี้ค่าไถ่ถอนจำนองในคดีล้มละลาย: เงื่อนไขหนี้, สิทธิเจ้าหนี้, การขอโอนกรรมสิทธิ์
กรณีที่เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ค่าไถ่ถอนจำนอง ซึ่งมูลหนี้ที่ลูกหนี้ที่ 1 ได้ก่อขึ้นแก่เจ้าหนี้เกิดก่อนวันที่ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้ที่ 1 เด็ด ขาด ดังนั้น ถือว่าสิทธิของเจ้าหนี้ที่จะไถ่ถอนจำนองด้วยตนเองย่อมมีอยู่แล้วก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ มูลแห่งหนี้ค่าไถ่ถอนจำนองที่จะเรียกเอาจากลูกหนี้ที่ 1 จึงเกิดขึ้นแล้วก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เพียงแต่เจ้าหนี้ยังไม่ได้ไถ่ถอนจำนอง ซึ่งถ้า หากเจ้าหนี้ได้ไถ่ถอนจำนองไปแล้วเมื่อใด ก็ย่อมเรียกให้ลูกหนี้ที่ 1 ชดใช้เงินค่าไถ่ถอนจำนองได้เมื่อนั้น แต่ขณะที่ขอรับชำระหนี้ เจ้าหนี้ยังไม่ได้ไถ่ถอนจำนองและไม่แน่ว่าเจ้าหนี้จะใช้สิทธินั้นเมื่อใด เจ้าหนี้จึงยังไม่มีสิทธิที่จะเรียกให้ชดใช้ค่าไถ่ถอนจำนอง แต่ถือได้ว่าหนี้ค่าไถ่ถอนจำนองรายนี้เป็นหนี้มีเงื่อนไขและเงื่อนไขยังไม่สำเร็จเจ้าหนี้ย่อมขอรับชำระหนี้ได้ตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483(มาตรา 94) ส่วนคำขอรับชำระหนี้ที่ระบุให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินหรือใช้ราคาแก่เจ้าหนี้นั้น คำขอให้ใช้ราคาที่ดินเป็นเพียงส่วนหนึ่งของคำขอรับชำระหนี้ในลักษณะที่จะเป็นการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั่นเอง ซึ่งตามกฎหมายหนี้ที่จะขอรับชำระได้ในคดีล้มละลายจะต้องเป็นหนี้เงินเท่านั้น การที่เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ในลักษณะขอให้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินหรือใช้ราคาแก่เจ้าหนี้เช่นนี้ จึงไม่มีสิทธิที่จะทำได้ แต่เจ้าหนี้ชอบที่จะยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขอให้ดำเนินการเพื่อบังคับตามสิทธิของตนเป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก เมื่อเจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในลักษณะขอให้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินหรือใช้ราคาแก่เจ้าหนี้เช่นนี้ศาลจะอนุญาตให้ได้รับชำระหนี้ในส่วนนี้หาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5278/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของเจ้าของกรรมสิทธิ์เดิมยังคงมีอยู่แม้มีการโอนกรรมสิทธิ์ และผู้รับโอนมีสิทธิเข้าร่วมเป็นโจทก์
ขณะโจทก์ที่ 1 เสนอคำฟ้องต่อศาล โจทก์ที่ 1 เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาท จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งสองผู้กระทำละเมิด แม้ภายหลังฟ้องคดีแล้วโจทก์ที่ 1 จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทยกให้โจทก์ที่ 2 อำนาจฟ้องของโจทก์ที่ 1ที่บริบูรณ์อยู่แล้วยังคงมีผลอยู่ต่อไป ส่วนโจทก์ที่ 2 ผู้รับโอนเป็นผู้มีส่วนได้เสียในผลแห่งคดีร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ได้ตามป.วิ.พ. มาตรา 57(2).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5278/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีละเมิดยังคงอยู่แม้มีการโอนกรรมสิทธิ์ และการเข้าร่วมเป็นโจทก์ร่วมของผู้รับโอน
ขณะโจทก์ที่ 1 เสนอคำฟ้องต่อศาล โจทก์ที่ 1 เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาท จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งสองผู้กระทำละเมิด แม้ภายหลังฟ้องคดีแล้วโจทก์ที่ 1 จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทยกให้โจทก์ที่ 2 อำนาจฟ้องของโจทก์ที่ 1ที่บริบูรณ์อยู่แล้วยังคงมีผลอยู่ต่อไป ส่วนโจทก์ที่ 2 ผู้รับโอนเป็นผู้มีส่วนได้เสียในผลแห่งคดีร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ได้ตามป.วิ.พ. มาตรา 57(2).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5055/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเลี้ยงไก่: กรรมสิทธิ์โอนทันที ไม่เป็นความยักยอก
สัญญาการเลี้ยงไก่ ระบุราคาลูกไก่ อาหารไก่ไว้แน่นอน เมื่อไก่เจริญเติบโตแล้วโจทก์ร่วมจะมาจับไปฆ่าโดยตีราคาไก่ตามน้ำหนักซึ่งเมื่อได้ยอดเงินเท่าใดก็จะเอายอดเงินค่าลูกไก่ อาหารไก่และวัคซีน ไก่มาหักออก หากเหลือเงินก็จะมอบให้เป็นประโยชน์แก่จำเลยแต่ถ้าเงินไม่พอจำเลยจะต้องชำระค่าลูกไก่ อาหารไก่ และวัคซีน ไก่ที่ค้างอยู่ทั้งหมด จึงไม่ใช่สัญญาฝากทรัพย์ แต่เป็นเรื่องที่โจทก์ร่วมยอมให้จำเลยซื้อลูกไก่ อาหารไก่และวัคซีน ไก่ด้วยเงินเชื่อโดยมีข้อตกลงว่าเมื่อไก่เจริญเติบโตแล้วจะต้องนำมาขายให้โจทก์ร่วมเมื่อโจทก์ร่วมส่งมอบลูกไก่ให้จำเลยกรรมสิทธิ์ในลูกไก่ย่อมตกเป็นของจำเลยทันที จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานยักยอก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4990/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายรถยนต์โดยวิธีผ่อนชำระ และการโอนกรรมสิทธิ์เมื่อส่งมอบรถ
เมื่อข้อเท็จจริงตามคำร้องของผู้ร้อง และตามคำคัดค้านของโจทก์พอวินิจฉัยได้ ศาลมีอำนาจงดการไต่สวนและมีคำสั่งได้โดยไม่ต้องทำการไต่สวน เมื่อตามข้อเท็จจริงที่ได้ความเห็นได้ชัดว่าผู้ร้องและจำเลยตกลงซื้อขายกันโดยวิธีผ่อนชำระ และได้มอบรถยนต์ของกลางให้จำเลยครอบครอง จึงเป็นการซื้อขายกันเด็ดขาดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 458 กรรมสิทธิ์รถยนต์ของกลางตกไปเป็นของจำเลยแล้ว นับแต่วันที่ผู้ร้องและจำเลยตกลงซื้อขายรถยนต์ของกลางกัน ผู้ร้องจึงไม่ใช่เจ้าของรถยนต์ของกลาง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4990/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายรถยนต์แบบผ่อนชำระ: กรรมสิทธิ์โอนทันทีเมื่อตกลงซื้อขาย
เมื่อข้อเท็จจริงตามคำร้องของผู้ร้อง และตามคำคัดค้านของโจทก์พอวินิจฉัยได้ ศาลมีอำนาจงดการไต่สวนและมีคำสั่งได้โดยไม่ต้องทำการไต่สวน เมื่อตามข้อเท็จจริงที่ได้ความเห็นได้ชัดว่าผู้ร้องและจำเลยตกลงซื้อขายกันโดยวิธีผ่อนชำระ และได้มอบรถยนต์ของกลางให้จำเลยครอบครอง จึงเป็นการซื้อขายกันเด็ดขาดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 458 กรรมสิทธิ์รถยนต์ของกลางตกไปเป็นของจำเลยแล้ว นับแต่วันที่ผู้ร้องและจำเลยตกลงซื้อขายรถยนต์ของกลางกัน ผู้ร้องจึงไม่ใช่เจ้าของรถยนต์ของกลาง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4674/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กำหนดเวลาชำระหนี้และโอนกรรมสิทธิ์ในสัญญาซื้อขายที่ดิน สิทธิริบเงินมัดจำเมื่อถึงกำหนด
ตามข้อตกลงในสัญญาระบุกำหนดเวลาการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่จะซื้อขายกันไว้ 2 ช่วง คือภายในวันที่ 2 มิถุนายน2528 ซึ่งเป็นกำหนดเวลาให้โจทก์ในฐานะผู้จะซื้อปฏิบัติชำระหนี้และจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์กัน มิฉะนั้นโจทก์จะต้องชำระค่าเสียหายให้แก่จำเลยทั้งสองเป็นเงิน 11,200 บาท และภายในวันที่ 2 กรกฎาคม2528 ซึ่งเป็นกำหนดเวลาช่วงสุดท้ายที่จะโอนกรรมสิทธิ์กันหากโจทก์ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ จำเลยในฐานะผู้จะขายมีสิทธิริบเงินมัดจำจำนวน 50,000 บาท ดังนี้ จำเลยยังไม่มีสิทธิริบเงินมัดจำจนกว่าเวลาจะล่วงพ้นวันที่ 2 กรกฎาคม 2528 อันเป็นกำหนดเวลาช่วงสุดท้ายที่ทั้งสองฝ่ายจะต้องปฏิบัติชำระหนี้ต่อกัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3642/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อจะขายและสิทธิเรียกร้องให้โอนกรรมสิทธิ์เมื่อชำระราคาครบถ้วน แม้ฟ้องเรื่องครอบครอง ศาลไม่ถือว่าเป็นการพิพากษานอกฟ้อง
คำฟ้องของโจทก์นอกจากจะบรรยายว่า โจทก์ได้สิทธิครอบครองที่ดินพิพาททั้งสองแปลงโดยการครอบครองแล้ว ยังบรรยายฟ้องด้วยว่า ตามสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างโจทก์กับ บ. มีข้อตกลงว่า เมื่อโจทก์ชำระราคาที่ดินครบถ้วนแล้ว บ. จะไปจดทะเบียนโอนสิทธิในที่ดินให้แก่โจทก์และมีคำขอท้ายฟ้องว่า ให้จำเลยทั้งหกในฐานะทายาทของ บ. ร่วมกันไปจดทะเบียนโอนสิทธิในที่ดินพิพาททั้งสองแปลงนั้นให้แก่โจทก์อีกด้วย ดังนี้ แม้คดีจะฟังไม่ได้ว่าโจทก์ได้สิทธิครอบครองที่ดินพิพาท แต่โจทก์นำสืบฟังได้ว่า โจทก์ชำระราคาที่ดินตามสัญญาให้ บ. ครบถ้วนแล้ว ศาลชั้นต้นก็มีอำนาจวินิจฉัยว่า สัญญาระหว่างโจทก์กับ บ. เป็นสัญญาจะซื้อจะขาย และพิพากษาให้จำเลยทั้งหกซึ่งเป็นทายาทของ บ. โอนที่ดินพิพาททั้งสองแปลงนั้นให้แก่โจทก์ตามสัญญาดังกล่าวได้ ไม่เป็นการพิพากษานอกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3460/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินหลังจดทะเบียนสมรส: สิทธิของคู่สมรสในทรัพย์สินที่ได้มาในช่วงชีวิตสมรส
โจทก์จำเลยและจำเลยร่วมท้ากันให้ศาลวินิจฉัยข้อกฎหมายเพียงข้อเดียวโดยไม่สืบพยานว่า จำเลยมีสิทธิจะไม่ขายที่ดินตามสัญญาจะซื้อขายเพราะไม่ได้รับความยินยอมจากจำเลยร่วมหรือไม่ โดยคู่ความแถลงรับกันว่าจำเลยได้กรรมสิทธิ์ที่ดินมาก่อนจดทะเบียนสมรสกับจำเลยร่วม อันถือได้ว่าคู่ความสละประเด็นข้ออื่นในคดีแล้ว จำเลยและจำเลยร่วมจะโต้แย้งว่าที่ดินพิพาทเป็นทรัพย์สินที่ทำมาหาได้ร่วมกันมาในฐานะหุ้นส่วน จำเลยร่วมจึงมีสิทธิในที่ดินพิพาทรวมอยู่ด้วย ซึ่งเป็นการตั้งเป็นประเด็นใหม่นอกคำท้าอีกหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2420/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนกรรมสิทธิ์หลังคำพิพากษาถึงที่สุด: ผู้รับโอนไม่มีสิทธิขอคืนของกลาง
คดีเดิม ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาให้ริบรถยนต์บรรทุกของกลางศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ดังกล่าวให้คู่ความฟังโดยชอบเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2530 และคดีถึงที่สุดแล้ว แต่ปรากฏตามคำร้องของผู้ร้องทั้งสองและหนังสือแสดงการจดทะเบียนรถยนต์บรรทุกของกลางท้ายคำร้องว่า ผู้ร้องที่ 2 รับโอนรถยนต์บรรทุกของกลางจากผู้ร้องที่ 1 เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2531 อันเป็นเวลาภายหลังจากที่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ฉะนั้นผู้ร้องที่ 2 จึงไม่อยู่ในฐานะเป็นเจ้าของที่จะยื่นคำร้องขอคืนรถยนต์ของกลางได้.