พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,082 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 486/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏ แต่ยังคงความผิดเดิม ฟ้องไม่ตก
โจทก์ฟ้องบรรยายว่าจำเลยใช้มีดแทงผู้ตาย ตายโดยเจตนาฆ่าแต่ตามท้องสำนวนได้ความว่า ผู้ตายถูกแทงด้วยของแข็งแหลมดังนี้แม้จะไม่ได้ความชัดว่า ถูกแทงด้วยมีดดังโจทก์ระบุในฟ้อง ก็เป็นการถูกแทงเช่นเดียวกัน หาใช่เป็นกรณีข้อเท็จจริงในทางพิจารณาต่างกับคำบรรยายฟ้อง อันจะทำให้ฟ้องตกไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลสั่งห้ามประกอบการค้าตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข: การวินิจฉัยข้อเท็จจริงที่ไม่สามารถฎีกาได้
พ.ร.บ.สาธารณะสุข พ.ศ. 2484 มาตรา 68 ให้ศาลมีอำนาจที่จะสั่งห้ามจำเลยมิให้ประกอบการค้านั้น ต่อไป ซึ่งเป็นการให้อำนาจศาลใช้ดุลยพินิจวินิจฉัยตามเหตุการณ์แห่งคดี ถือว่าเป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ. 2484 มาตรา 7, 8, 68 ปรับ 100 บาท ส่วนคำขอให้ห้ามจำเลยประกอบการค้าทำเต้าหู้ต่อไปนั้น ไม่บังคับให้ แต่ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ให้ห้ามจำเลยทำการค้าเต้าหู้ต่อไป ดังนี้ จำเลยจะฎีกาในข้อห้ามทำการค้าเต้าหู้ ไม่ได้ เพราะเป็นฎีกาข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ. 2484 มาตรา 7, 8, 68 ปรับ 100 บาท ส่วนคำขอให้ห้ามจำเลยประกอบการค้าทำเต้าหู้ต่อไปนั้น ไม่บังคับให้ แต่ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ให้ห้ามจำเลยทำการค้าเต้าหู้ต่อไป ดังนี้ จำเลยจะฎีกาในข้อห้ามทำการค้าเต้าหู้ ไม่ได้ เพราะเป็นฎีกาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 425/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการฎีกาจำกัดเฉพาะประเด็นข้อกฎหมายที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย และการรับรองข้อเท็จจริงไม่ถือเป็นการรับรองให้ฎีกา
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่า ศาลชั้นต้น พิพากษาให้ยกฟ้อง โดยอ้างว่าโจทก์ยังมิได้บอกเลิกสัญญาเช่า ศาลอุทธรณ์ พิพากษาให้ยกคำ พิพากษาศาลชั้นต้น ให้พิจารณา พิพากษาใหม่ ดังนี้ คู่ความจะฎีกาได้แต่เฉพาะผัญหาข้อกฎหมายที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไว้เท่านั้น
ผู้พิพากษาพิจารณาในศาลชั้นต้นบันทึกไว้ว่า "ขอรับรองว่า ข้อเท็จจริงในคดีนี้มีเหตุสมควรจะอ้างประกอบฎีกาได้" ดังนี้ คำบันทึกเช่นนี้ มีความหมายไปในทางอื่น มิใช่รับรองให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ผู้พิพากษาพิจารณาในศาลชั้นต้นบันทึกไว้ว่า "ขอรับรองว่า ข้อเท็จจริงในคดีนี้มีเหตุสมควรจะอ้างประกอบฎีกาได้" ดังนี้ คำบันทึกเช่นนี้ มีความหมายไปในทางอื่น มิใช่รับรองให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาจำเลยในคดีฆ่าคนตาย: ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิม เนื่องจากข้อเท็จจริงไม่เปลี่ยนแปลง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตาม ก.ม. ลักษณะอาญามาตรา 249 ศาลชั้นต้น
วินัยว่าหลักฐานพะยานโจทย์ไม่พอฟัง จึงพิพากษาฟ้อง และศาลอุทธรณ์ก็ไม่ฟังว่าจำเลยแทงผู้ตายโดยเจตนาฆ่าให้ตาย คงพิจารณาว่าผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตาม ก.ม. ลักษณะอาญามาตรา 251 ดังนี้ คดีจึงเป็นอันวาในข้อหาฐานฆ่าคนตายโดยเจตนานี้ ศาลเดิมและศาลอุทรศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์จะฎีกาในข้อเท็จจริงขอให้ศาลลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาไม่ได้ ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ. อาญามาตรา 219
วินัยว่าหลักฐานพะยานโจทย์ไม่พอฟัง จึงพิพากษาฟ้อง และศาลอุทธรณ์ก็ไม่ฟังว่าจำเลยแทงผู้ตายโดยเจตนาฆ่าให้ตาย คงพิจารณาว่าผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตาม ก.ม. ลักษณะอาญามาตรา 251 ดังนี้ คดีจึงเป็นอันวาในข้อหาฐานฆ่าคนตายโดยเจตนานี้ ศาลเดิมและศาลอุทรศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์จะฎีกาในข้อเท็จจริงขอให้ศาลลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาไม่ได้ ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ. อาญามาตรา 219
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 363/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องระบุข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายชัดเจน ห้ามอ้างคำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นส่วนหนึ่งของฎีกา
ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่จะยกขึ้นอ้างอิงในฎีกานั้นคู่ความจะต้องกล่าวไว้โดยชัดแจ้งในฎีกา จะขอให้ถือเอาคำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นส่วนหนึ่งแห่งคำฎีกาด้วยนั้นย่อมเป็นการไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 281/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่ง ม.248 กรณีคดีทุนทรัพย์น้อยกว่า 2,000 บาท และโจทก์แพ้คดีในข้อเท็จจริง
คดีมีทุนทรัพย์ไม่เกิน 2000 บาท โจทก์แพ้คดีจำเลยมนข้อเท็จจริงมาแล้ว 2 ศาล จึงเป็นคดีต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้เท็จจริงตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 248 โจทก์จะมายื่นคำร้องเพิ่มราคาทรัพย์สินที่พิพาทในชั้นฎีกา เพื่อจะให้ฎีกาได้นั้น ไม่ต้องด้วยความประสงค์ศาลฎีกาย่อมให้ยกฎีกาโจทก์เสีย
(อ้างฎีกาที่ 1274/2493)
(อ้างฎีกาที่ 1274/2493)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 121/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงข้อหาจากฆ่าคนตายโดยเจตนาเป็นฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา และสิทธิในการฎีกาข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามมาตรา 251 ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโดยไม่เชื่อข้อเท็จจริง ดังนี้ โจทก์ยังมีสิทธิฎีกาในข้อเท็จจริงขอให้ศาลฎีกาลงโทษจำเลยในความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตามมาตรา 249 ได้ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 931/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตนเองเกินสมควรแก่เหตุ: ข้อโต้แย้งเรื่องข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกา
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงยืนตามศาลชั้นต้นว่า จำเลยกระทำการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ โจทก์ฎีกาคัดค้านว่าจำเลยกระทำเกินสมควรแก่เหตุ ย่อมเป็นการคัดค้านในข้อเท็จจริงหาใช่เป็นปัญหาในข้อกฎหมายไม่จึงต้องห้ามฎีกาตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 219
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 931/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโต้แย้งข้อเท็จจริงเกินขอบเขตฎีกา: การป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงยืนตามศาลชั้นต้นว่า จำเลยกระทำการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ โจทก์ฎีกาคัดค้านว่าจำเลยกระทำเกินสมควรแก่เหตุ ย่อมเป็นการคัดค้านในข้อเท็จจริงหาใช่เป็นปัญหาในข้อกฎหมายไม่ จึงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 882/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จฯ ต้องพิสูจน์ว่าเป็นที่บ้านที่สวนจริง และการนำสืบข้อเท็จจริงต้องตรงกับที่แถลงไว้
ผู้ใดจะอ้างว่าตนมีสิทธิในที่ดินตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จ บทที่ 42 ผู้นั้นจะต้องพิสูจน์ให้ได้ความชัดเจนว่าที่ดินนั้นเป็นที่บ้านที่สวนตามความหมายแห่งกฎหมายบทนั้น สักแต่ว่าคำเรียกว่าเป็นสวนคำเดียว หาทำให้ผู้นั้นมีสิทธิในที่มือเปล่า(ที่เรียกว่าสวนนั้น)ดีกว่าที่ไร่ที่นาไม่
โจทก์กล่าวในฟ้องว่า ที่พิพาทอยู่ในตำบลหนึ่งอำเภอหนึ่งแต่นำสืบว่าอยู่อีกตำบล และอีกอำเภอหนึ่ง ดังนี้เมื่อปรากฏว่าโจทก์จำเลยต่างแถลงรับแผนที่พิพาทกันแล้วว่าถูกต้อง จึงไม่มีทางที่จะสงสัยว่าพิพาทกันในที่ดินแปลงอื่น จึงไม่ใช่เป็นเรื่องนอกฟ้องนอกประเด็น
โจทก์กล่าวในฟ้องว่า ที่พิพาทอยู่ในตำบลหนึ่งอำเภอหนึ่งแต่นำสืบว่าอยู่อีกตำบล และอีกอำเภอหนึ่ง ดังนี้เมื่อปรากฏว่าโจทก์จำเลยต่างแถลงรับแผนที่พิพาทกันแล้วว่าถูกต้อง จึงไม่มีทางที่จะสงสัยว่าพิพาทกันในที่ดินแปลงอื่น จึงไม่ใช่เป็นเรื่องนอกฟ้องนอกประเด็น