คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ละเมิด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,780 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1444/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แม้บุกรุกพื้นที่สงวน จำเลยก็ไม่มีสิทธิทำลายพืชผลของผู้อื่น การกระทำถือเป็นการละเมิด
แม้โจทก์จะเป็นผู้บุกรุกปลูกข้าวลงในที่สงวนถ่านศิลา จำเลยก็ไม่สิทธิที่จะปล่อยกระบือฝูงของจำเลยให้กัดกินต้นข้าวของโจทก์เสียได้ จำเลยต้องรับผิดฐานละเมิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1430/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องละเมิดจากการแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จ: ศาลพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้และเหตุผลของผู้ถูกกล่าวหา
โจทก์ฟ้อง ฉ.จำเลยฐานแจ้งความเท็จว่า โจทก์ยักยอกทรัพย์ของ ฉ. ศาลตัดสินยกฟ้องโจทก์ว่า โจทก์ฟ้องแก้เกี้ยวข้อหาของโจทก์ฟังไม่ได้ คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์จึงมาฟ้องคดีนี้หาว่า ฉ.จำเลยจงใจแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จ ดังนี้ เมื่อศาลได้ชี้ขาดใดคดีก่อนแล้วว่า ฉ.ไม่ได้แจ้งความเท็จในคดีนี้ ก็ต้องฟังว่า ฉ.ไม่ได้แจ้งความเท็จ
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดฐานละเมิดในการที่จำเลยเบิกความ แต่ตามฟ้องไม่อาจทราบได้ว่าที่จำเลยเบิกความไปนั้นเป็นการเบิกความเท็จ หรือการเบิกความเช่นนั้นเป็นไปโดยเลินเล่อ เพราะถึงแม้จำเลยจะเบิกความไม่ถูกต้องกับความจริง ก็มีเหตุอันสมควรให้จำเลยเข้าใจผิดเช่นนั้นก็ได้ ซึ่งไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์ฉะนั้นฟ้องโจทก์จึงยังไม่เป็นฟ้องที่จะให้จำเลยต้องรับผิดฐานละเมิด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1430/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องละเมิดจากการแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จ: ศาลพิจารณาข้อเท็จจริงจากคดีก่อน และความน่าเชื่อถือของเหตุผลในการเบิกความ
โจทก์ฟ้อง ฉ.จำเลยฐานแจ้งความเท็จว่าโจทก์ยักยอกทรัพย์ของฉ. ศาลตัดสินยกฟ้องโจทก์ว่า โจทก์ฟ้องแก้เกี้ยวข้อหาของโจทก์ฟังไม่ได้ คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์จึงมาฟ้องคดีนี้หาว่า ฉ. จำเลยจงใจแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จ ดังนี้ เมื่อศาลได้ชี้ขาดในคดีก่อนแล้วว่า ฉ. ไม่ได้แจ้งความเท็จในคดีนี้ ก็ต้องฟังว่า ฉ. ไม่ได้แจ้งความเท็จ
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดฐานละเมิดในการที่จำเลยเบิกความ แต่ตามฟ้องไม่อาจทราบได้ว่าที่จำเลยเบิกความไปนั้นเป็นการเบิกความเท็จ หรือการเบิกความเช่นนั้นเป็นไปโดยเลินเล่อ เพราะถึงแม้จำเลยจะเบิกความไม่ถูกต้องกับความจริง ก็มีเหตุอันสมควรให้จำเลยเข้าใจผิดเช่นนั้นก็ได้ ซึ่งไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์ ฉะนั้นฟ้องโจทก์จึงยังไม่เป็นฟ้องที่จะให้จำเลยต้องรับผิดฐานละเมิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 625/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องบังคับทางสาธารณะต้องแสดงการกระทำที่เป็นละเมิด มิเช่นนั้นขาดประเด็นให้วินิจฉัย
ฟ้องขอให้บังคับจำเลยเปิดลำรางและทางสาธารณะ แต่คำฟ้องไม่ปรากฏว่า จำเลยได้ปิดทางหรือกระทำการใดๆ แก่ทางอันเป็นความเสียหายแก่โจทก์ ดังนี้ ถือว่า ไม่ได้ตั้งใจพิพาทเกี่ยวกับทางมาในคำฟ้อง จึงไม่มีประเด็นที่ศาลจะต้องวินิจฉัยชี้ขาดในข้อนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 453/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเริ่มนับอายุความละเมิด: การรู้ถึงการละเมิดหลังผู้กระทำละเมิดเสียชีวิต
ในคดีละเมิด โจทก์ฟ้องกล่าวว่า เพิ่งทราบการละเมิดหลังจากผู้ทำละเมิดวายชนม์ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2488 โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2489 ซึ่งอยู่ภายในกำหนด 1 ปี ดังนี้ แม้จำเลยจะให้การตัดฟ้องว่า โจทก์ฟ้องคดีเกิน 1 ปี ก็ตาม ศาลก็จำต้องพิจารณาข้อเท็จจริงต่อไป เพราะข้อที่โจทก์รู้ถึงการละเมิดวันใดยังเป็นข้อเท็จจริงที่จะต้องสืบ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 453/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเริ่มต้นระยะเวลาอายุความละเมิด: การรู้ถึงการละเมิด
ในคดีละเมิด โจทก์ฟ้องกล่าวว่า เพิ่งทราบการละเมิดหลังจากผู้ทำละเมิดวายชนม์ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2488 โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2489 ซึ่งอยู่ภายในกำหนด 1 ปี ดังนี้ แม้จำเลยจะให้การตัดฟ้องว่า โจทก์ฟ้องคดีเกิน 1 ปี ก็ตามศาลก็จำต้องพิจารณาข้อเท็จจริงต่อไป เพราะข้อที่โจทก์รู้ถึงการละเมิดวันใดยังเป็นข้อเท็จจริงที่จะต้องสืบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 444/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำลายทรัพย์สิน: การกระทำโดยไม่ได้เจตนา ไม่ถึงขั้นความผิดอาญา แต่เป็นการละเมิดทางแพ่ง
เดินเหยียบย่ำต้นข้าวในนาเสียหาย เพราะลงไปเที่ยวหาหนูในนานั้น หาได้มีเจตนาโดยตรงที่จะแกล้งเหยียบย่ำทำลายต้นข้าวไม่ ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการบังอาจทำให้ทรัพย์ของผู้อื่นเสียหายตามก.ม.อาญามาตรา 324 + แต่เป็นการละเมิดในทางแพ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 444/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยไม่มีเจตนาทำลายทรัพย์ผู้อื่น ไม่เป็นความผิดอาญา แต่เป็นการละเมิดทางแพ่ง
เดินเหยียบย่ำต้นข้าวในนาเขาเสียหาย เพราะลงไปเที่ยวหาหนูในนานั้น หาได้มีเจตนาโดยตรงที่จะแกล้งเหยียบย่ำทำลายต้นข้าวไม่ดังนี้ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการบังอาจทำให้ทรัพย์ของผู้อื่นเสียหายตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 324
หากแต่เป็นการละเมิดในทางแพ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 256/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดจากการบังคับขายทรัพย์สินโดยไม่มีอำนาจ แม้เชื่อโดยสุจจริต ผู้กระทำและผู้รับซื้อต้องรับผิด
การพิจารณาคดีส่วนแพ่งตาม ป.ม.วิ.อาญา ม.46 ให้ศาลถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา ส่วนการชี้ขาดคดีส่วนแพ่ง ศาลต้องดำเนินตามมาตรา 47 กล่าวคือ ดูว่าตามข้อเท็จจริงที่ได้จากคำพิพากษาคดีส่วนอาญานั้น จำเลยต้องรับผิดในทางแพ่งประการใดหรือไม่ ทั้งนี้โดยไม่คำนึงถึงเลยว่าจำเลยผิดในทางอาญา และต้องมีโทษหรือไม่อย่างไร
ปลัดอำเภอบังคับให้ผู้แจ้งปริมาณเสื้อผ้า ขายเสื้อผ้าต่าง ๆ แก่ผู้อื่นโดยราคาถูก แม้จะเชื่อโดยสุจจริตว่า ทำไปโดยมีอำนาจ โดยชอบด้วยกฎหมาย และผู้ซื้อรับซื้อโดยคิดว่าถูกต้องก็ตาม ถ้าปรากฏว่า การกระทำนั้นเป็นการไม่ชอบด้วยกฏหมาย เพราะได้มีประกาศยกเลิกการควบคุมในการนั้นแล้ว ปลัดอำเภอและผู้รับซื้อก็ต้องรับผิดฐานละเมิด
โจทก์กล่าวบรรยายข้อเท็จจริงไว้เป็นตอน ๆ ได้ความชัดว่า จำเลยที่ 1 บังคับให้โจทก์ขายผ้าให้จำเลยที่ 2, 3, 4 ในราคาถูกโดยไม่มีความชอบธรรมที่จะทำได้ตามกฎหมาย เป็นการเพียงพอที่จะให้ค่าสินไหมทดแทนในทางแพ่งแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 256/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับขายสินค้าโดยไม่มีอำนาจ และความรับผิดฐานละเมิด แม้จะเชื่อโดยสุจริต
การพิจารณาคดีส่วนแพ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 46 ให้ศาลถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาส่วนการชี้ขาดคดีส่วนแพ่ง ศาลต้องดำเนินตามมาตรา 47 กล่าวคือดูว่าตามข้อเท็จจริงที่ได้จากคำพิพากษาคดีส่วนอาญานั้นจำเลยต้องรับผิดในทางแพ่งประการใดหรือไม่ ทั้งนี้โดยไม่คำนึงถึงเลยว่าจำเลยผิดในทางอาญา และต้องมีโทษหรือไม่อย่างไร
ปลัดอำเภอบังคับให้ผู้แจ้งปริมาณเสื้อผ้า ขายเสื้อผ้าต่างๆ แก่ผู้อื่นโดยราคาถูกแม้จะเชื่อโดยสุจริตว่า ทำไปโดยมีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายและผู้ซื้อรับซื้อโดยคิดว่าถูกต้องก็ตามถ้าปรากฏว่าการกระทำนั้นเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะได้มีประกาศยกเลิกการควบคุมในการนั้นแล้ว ปลัดอำเภอและผู้รับซื้อต้องรับผิดฐานละเมิด
โจทก์กล่าวบรรยายข้อเท็จจริงไว้เป็นตอนๆ ได้ความชัดว่าจำเลยที่ 1 บังคับให้โจทก์ขายผ้าให้จำเลยที่ 2,3,4 ในราคาถูกโดยไม่มีความชอบธรรมที่จะทำได้ตามกฎหมายเป็นการเพียงพอที่จะให้ค่าสินไหมทดแทนในทางแพ่งแล้ว
of 278