พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,024 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1473/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำกัดสิทธิฎีกาในคดีอาญาที่โทษจำคุกแต่ละกระทงไม่เกิน 5 ปี
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา243 กระทงหนึ่งมีกำหนด 3 ปี และตามมาตรา 299 อีกกระทงหนึ่ง มีกำหนด 3 ปี รวมโทษ 2 กะทง 6 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ดังนี้ ความผิดของจำเลยแต่ละกะทงไม่เกิน 5 ปี จำเลยจะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้(อ้างฎีกาที่ 842/2482)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1316/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฎีกาในคดีอาญาที่ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องข้อหาเดิม โจทก์ไม่อาจฎีกาขอลงโทษในข้อหาเดิมได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249 ศาลชั้นต้นลงโทษตามมาตรา 254 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษตามมาตรา 251 ดังนี้ ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นในข้อที่ให้ยกข้อหาของโจทก์ในฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตามมาตรา 249 แล้วโจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 249 ไม่ได้เพราะต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 219
(อ้างฎีกา 773/2491)
(อ้างฎีกา 773/2491)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1316/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดในการฎีกาขอโทษฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา หากศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้นที่ยกข้อหา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249 ศาลชั้นต้นลงโทษ ตามมาตรา254 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษตามมาตรา 251 ดังนี้ถือว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นในข้อที่ให้ยกข้อหาของโจทก์ในฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตามมาตรา 249แล้ว โจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 249 ไม่ได้ เพราะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 (อ้างฎีกา773/2491)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1274/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการฎีกาในคดีที่มีทุนทรัพย์น้อย และการเพิ่มทุนทรัพย์เพื่อฎีกา
คดีมีทุนทรัพย์เพียง 2000 บาท ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นแล้ว จึงเป็นคดีต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 248 จำเลยจะยื่นคำร้องขอเพิ่มทุนทรัพย์ เพื่อจะให้เป็นคดีที่จะฎีกาได้ต่อไปนั้น ไม่ต้องด้วยความประสงค์และเป็นกรณีที่ไม่ต้องด้วย ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 150 วรรค 3 (จึงไม่ทำให้คดีของจำเลยเป็นคดีที่ฎีกาได้)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1274/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มทุนทรัพย์หลังศาลอุทธรณ์พิพากษาเพื่อหวังฎีกา ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
คดีมีทุนทรัพย์เพียง 2000 บาท ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นแล้ว จึงเป็นคดีต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 จำเลยจะยื่นคำร้องขอเพิ่มทุนทรัพย์ เพื่อจะให้เป็นคดีที่จะฎีกาได้ต่อไปนั้น ไม่ต้องด้วยความประสงค์และเป็นกรณีที่ไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 150 วรรคสาม(จึงไม่ทำให้คดีของจำเลยเป็นคดีที่ฎีกาได้)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1270/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ส่งสำเนาคำฟ้องอุทธรณ์และผลกระทบต่อการฎีกา: คำสั่งระหว่างพิจารณาต้องห้ามฎีกา
โจทก์อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น แต่ไม่ดำเนินการส่งสำเนาแก่จำเลย ศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง (อุทธรณ์) จึงส่งสำนวนไปยังศาลอุทธรณ์มีคำสั่งแต่ศาลอุทธรณ์เห็นว่ายังไม่เข้ากรณีทิ้งฟ้องจึงสั่งให้ศาลชั้นต้นสั่งกำหนดวันให้โจทก์มานำเจ้าพนักงานศาลนำหมายนัดและสำเนาอุทธรณ์เพื่อส่งแก่จำเลย ดังนี้ถือว่าคำสั่งของศาลอุทธรณ์เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 247, 226
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1270/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลย และผลกระทบต่อการฎีกา
โจทก์อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น แต่ไม่ดำเนินการส่งสำเนาแก่จำเลยศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง(อุทธรณ์)จึงส่งสำนวนไปยังศาลอุทธรณ์มีคำสั่งแต่ศาลอุทธรณ์เห็นว่ายังไม่เข้ากรณีทิ้งฟ้อง จึงสั่งให้ศาลชั้นต้นสั่งกำหนดวันให้โจทก์มานำเจ้าพนักงานศาลนำหมายนัดและสำเนาอุทธรณ์เพื่อส่งแก่จำเลย ดังนี้ ถือว่า คำสั่งของศาลอุทธรณ์เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247,226
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1242/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่ศาลในการส่งสำเนาฎีกา แม้โจทก์ไม่ดำเนินการส่งเอง ศาลยังต้องดำเนินการตามกฎหมาย
การส่งสำเนาอุทธรณ์ฎีกาในคดีอาญานั้น เป็นหน้าที่ศาลส่งให้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 200, 201, 216 ฉะนั้นแม้ศาลจะส่งให้ผู้อุทธรณ์ฎีกานำส่งสำเนาให้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งภายในกำหนด พอถึงกำหนดแล้วไม่มานำส่งก็ดี จึงยังถือไม่ได้ว่าศาลส่งสำเนาอุทธรณ์ฎีกาให้จำเลยไม่ได้ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 201 ศาลจึงมีหน้าที่ต้องจัดการส่งสำเนาอุทธรณ์ฎีกาให้จำเลยต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1121/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการฎีกาในคดีทุนทรัพย์น้อยกว่าสองพันบาท และการโต้เถียงข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องขอแบ่งที่พิพาทราคา 3000 บาท ออกเป็น 3 ส่วน เป็นของโจทก์คนละ 1 ส่วน เป็นของจำเลย 1 ส่วนถือว่าเป็นคดีมีทุนทรัพย์ไม่เกิน 2000 บาท และตามฟ้องโจทก์ตั้งทุนทรัพย์เพียง 2000 บาท เท่านั้นเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นในข้อเท็จจริงโจทก์จะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 248
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1120/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาแก้ไขจำนวนค่าเสียหายเล็กน้อยในคดีมูลละเมิดไม่อาจฎีกาได้ตามมาตรา 248
ฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายอันเกิดแต่มูลละเมิดนั้นค่าเสียหายที่แท้จริงมีเท่าใด เป็นข้อเท็จจริงที่ต้องพิศูจน์เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้จำนวนค่าเสียหายจากเจ็ดร้อยบาทเศษเป็นเจ็ดร้อยบาท ถ้วนจึงเป็นการแก้ไข เล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 248