คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ข้อเท็จจริง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,082 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1433/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้อุทธรณ์เล็กน้อยและการห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง เมื่อทุนทรัพย์น้อย
โจทก์ฟ้องตั้งทุนทรัพย์เรียกร้องมา 1199 บาทเศษ ทรัพย์ตามบัญชีท้ายฟ้องทั้งหมดมี 10 รายการ เฉพาะที่นามีราคารายการละ 100 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ศาลชั้นต้นเฉพาะนา 1 แปลงเท่านั้น จึงถือว่าเป็นการแก้น้อย ฎีกา+ข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1433/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้อุทธรณ์น้อยและการห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงเมื่อศาลอุทธรณ์แก้เฉพาะบางส่วนของทรัพย์สินพิพาท
โจทก์ฟ้องตั้งทุนทรัพย์ที่เรียกร้องมา 1,199 บาทเศษ ทรัพย์ตามบัญชีท้ายฟ้องทั้งหมดมี 10 รายการ เฉพาะที่นามีราคารายการละ 100 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ศาลชั้นต้นเฉพาะที่นา 1 แปลงเท่านั้น จึงถือว่าเป็นการแก้น้อยฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1333/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสอบสวนคดีอาญา: การสอบถามข้อเท็จจริงเฉพาะเจาะจงไม่ถือว่าการสอบสวนเสียไป
การที่กฎหมายบัญญัติให้มีการสอบสวนเสียก่อนที่พนักงานอัยการนำคดีขึ้นฟ้องร้องนั้น ก็เพื่อประสงค์จะมิให้มีการฟ้องร้องกันง่าย ๆ ปราศจากหลักฐานเพราะจะเป็นการเดือดร้อนแก่จำเลย
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยนำสุกรออกนอกเขตโดยไม่ได้รับอนุญาตและทราบประกาศแล้ว จำเลยรับว่าได้นำสุกรออกนอกเขตและได้ทราบประกาศแล้วจริง แต่สู้ว่าพนักงานสอบสวนมิได้สอบสวนในข้อที่จำเลยได้ทราบประกาศหรือไม่ แม้คดีจะได้ความว่าพนักงานสอบสวนมิได้สอบสวนข้อที่จำเลยทราบประกาศหรือไม่ ก็ยังถือได้ว่าได้มีการสอบสวนแล้ว และไม่เป็นเหตุที่จะให้ถือว่าการสอบสวนนั้นเสียไปแต่อย่างใด หรือจะถือว่าโจทก์ฟ้องคดีโดยมิได้ทำการสอบสวนก็ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1321/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความเจตนาในการฆ่าจากคำฟ้องและข้อเท็จจริง ศาลฎีกาชี้ขาดให้ลงโทษตามเจตนาที่โจทก์ฟ้อง
โจทก์ฟ้องกล่าวว่าจำเลยบังอาจสมคบกับพวกใช้ไม้ด้ามเสียม เป็นสาตราวุธตีทำร้ายร่างกายผู้เสียหายตายโดยเจตนาอ้างบท ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249 มาเป็นบทขอให้ลงโทษ ดังนี้ย่อมถือได้ว่า ฟ้องโจทก์มีความหมายเพียงพอให้เข้าใจได้ว่า โจทก์หาว่าจำเลยฆ่าผู้เสียหายตายโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1296/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังอาจเข้ายึดครอง vs. การเช่า - การพิจารณาข้อเท็จจริงและสิทธิการเช่าควบคู่กัน
ฟ้องว่า จำเลยบังอาจเข้าไปอยู่ในห้องเช่าของโจทก์แล้ว ไม่ยอมออก ขอให้ขับไล่ จำเลยต่อสู้ว่า เช่าจากโจทก์ไม่ได้ผิดสัญญา เมื่อตัวโจทก์มาเบิกความว่าจำเลยขออยู่ในห้องชั่วคราว แล้วไม่ยอมออก ดังนี้จะว่าไม่บังอาจเพราะจำเลยเข้าอยู่โดยรับอนุญาตจากโจทก์และยกฟ้องเสียนั้นยังไม่ถนัด จำต้องพิจารณาตลอดถึงสิทธิแห่งการเช่าที่จำเลยยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1191-1192/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับเนื่องจากศาลชั้นต้นและอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องด้วยเหตุผลเดียวกัน แม้ข้อเท็จจริงเบื้องต้นต่างกัน
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ฟังความเบื้องต้นต่างกัน แต่ในที่สุดศาลเดิมและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ โดยอาศัยข้อเท็จจริงว่า จำเลยไม่ได้กระทำผิดดังข้อที่โจทก์กล่าวหา ดังนี้ โจทก์จะฎีกาไม่ได้ ต้องห้ามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1121/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการฎีกาในคดีทุนทรัพย์น้อยกว่าสองพันบาท และการโต้เถียงข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องขอแบ่งที่พิพาทราคา 3000 บาท ออกเป็น 3 ส่วน เป็นของโจทก์คนละ 1 ส่วน เป็นของจำเลย 1 ส่วนถือว่าเป็นคดีมีทุนทรัพย์ไม่เกิน 2000 บาท และตามฟ้องโจทก์ตั้งทุนทรัพย์เพียง 2000 บาท เท่านั้นเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นในข้อเท็จจริงโจทก์จะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 248

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1121/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำกัดสิทธิฎีกาในคดีทุนทรัพย์น้อยกว่า 2,000 บาท โต้เถียงข้อเท็จจริงไม่ได้
โจทก์ฟ้องขอแบ่งที่พิพาทราคา 3000 บาท ออกเป็น 3 ส่วน เป็นของโจทก์คนละ 1 ส่วน เป็นของจำเลย 1 ส่วน ถือว่าเป็นคดีมีทุนทรัพย์ไม่เกิน 2000 บาท และตามฟ้องโจทก์ตั้งทุนทรัพย์เพียง 2000 บาทเท่านั้นเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นในข้อเท็จจริง โจทก์จะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1048/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องฉ้อโกงต้องชัดเจนถึงข้อความเท็จและข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง มิฉะนั้นเป็นฟ้องที่ไม่ชอบ
ฟ้องความผิดฐานฉ้อโกงนั้นโจทก์จะต้องบรรยายฟ้องให้สามารถเข้าใจได้ว่าจำเลยกล่าวเท็จในข้อใดบ้างและความ จริงเป็นอย่างไร มิฉะนั้นเป็นฟ้องที่ไมชอบด้วย ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1048/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องฉ้อโกงต้องระบุรายละเอียดการกล่าวเท็จและข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง
ฟ้องความผิดฐานฉ้อโกงนั้น โจทก์จะต้องบรรยายฟ้องให้สามารถเข้าใจได้ว่าจำเลยกล่าวเท็จในข้อใดบ้างและความจริงเป็นอย่างไร มิฉะนั้นเป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
of 309