คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฎีกา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,024 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2058/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องฎีกาของอัยการจังหวัด: อธิบดีสั่งได้เฉพาะตัวอัยการ ไม่ใช่ตำแหน่ง
อธิบดีกรมอัยการย่อมสั่งให้บุคคลผู้มีตำแหน่งเป็นพนักงานอัยการประจำในท้องที่จังหวัดหนึ่งไปดำเนินคดีในศาลอีกท้องที่หนึ่งได้ตลอดจนถึงในชั้นศาลฎีกา แต่ไม่มีอำนาจสั่งให้ตำแหน่งอัยการจังหวัดหนึ่งดำเนินคดีที่เกิดขึ้นในเขตจังหวัดอื่น
อัยการผู้ลงชื่อในฟ้องฎีกามีตำแหน่งเป็นอัยการจังหวัดกาญจนบุรีได้ดำเนินคดีที่ศาลจังหวัดกระบี่ โดยระบุว่าพนักงานอัยการจังหวัดกาญจนบุรีเป็นโจทก์ ดังนี้อัยการจังหวัดกาญจนบุรีเป็นโจทก์ฟ้องฎีกาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 181/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้น้อยของคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และข้อห้ามฎีกาตามมาตรา 248 ป.ม.วิ.แพ่ง
ฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการซื้อขายที่ดิน 2 แปลง ราคา 600 บาท ศาลชั้นต้นยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์แก้ ให้เพิกถอนฉะเพาะการซื้อขายที่แปลงเดียว ดังนี้เป็นการแก้น้อย ต้องห้ามฎีกาตามมาตรา 248 ป.ม.วิ.แพ่ง.
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2492

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1751/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกข้อต่อสู้ใหม่ในชั้นฎีกาที่ไม่เคยถูกหยิบยกในชั้นอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
โจทก์ฟ้องว่า ได้ทวงค่าเช่าจากจำเลย แล้วจำเลยไม่ชำระให้ จำเลยต่อสู้ว่าได้ชำระค่าเช่าให้แล้ว ไม่ได้ให้การต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ได้ทวงถาม จำเลยจะฎีกาว่าโจทก์ไม่เคยแจ้งเลิกสัญญาเช่า ทั้งที่มิได้ยกข้อนี้ขึ้นว่ากล่าวในชั้นอุทธรณ์นั้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1646/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจทนายความและการฎีกาคำสั่งรับคำคู่ความ
การที่จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลอุทธรณ์จำหน่ายฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์เสียโดยทนายโจทก์ไม่มีอำนาจเรียงฟ้องอุทธรณ์ เพราะขาดต่อใบอนุญาตเป็นทนาย ศาลอุทธรณ์สั่งยกคำร้องจำเลยฎีกา ดังนี้ เป็นกรณีที่ศาลสั่งรับคำคู่ความตามมาตรา 18 ป.ม.วิ.แพ่ง ไม่เข้าอยู่ในบทบัญญัติแห่งมาตรา 227, หรือ 228 ซึ่งจะต้องอุทธรณ์ฎีกาก่อนที่จะได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดคดีได้ กรณีต้องบังคับตามบทบัญญัติแห่งมาตรา 226 ซึ่งจำเลยยังฎีกาในขณะนี้มิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1640/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายคดีกลับคืนศาลชั้นต้นก่อนฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ กรณีฎีกา
โจทก์ยื่นฎีกาโดยจำเลยยังไม่ได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาให้จำหน่ายคดี ส่งสำนวนคืนศาลชั้นต้น เมื่อได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว จึงให้ส่งสำนวนคืน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 154/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาต้องโต้แย้งคำสั่งก่อน และหลักเกณฑ์สมบูรณ์ของพินัยกรรม
การฎีกาโต้แย้งคำสั่งของศาลที่สั่งก่อนมีคำพิพากษาหรือคำชี้ขาดตัดสินคดีนั้น จะต้องได้โต้แย้งคำสั่งนั้นไว้แล้ว จึงจะฎีกาได้ตาม ม.226 ป.ม.วิ.แพ่ง
ตาม ม.1656 ป.ม.แพ่งฯ ไม่จำเป็นต้องถามผู้อาพาธ 3 ครั้ง 3 หน พินัยกรรม์จึงจะสมบูรณ์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 154/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาต้องอ้างเหตุโต้แย้งคำสั่งศาลก่อน และการพิสูจน์ความสมบูรณ์ของพินัยกรรม
การฎีกาโต้แย้งคำสั่งของศาลที่สั่งก่อนมีคำพิพากษาหรือคำชี้ขาดตัดสินคดีนั้น จะต้องได้โต้แย้งคำสั่งนั้นไว้แล้วจึงจะฎีกาได้ตาม มาตรา226 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ตาม มาตรา1656 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ไม่จำเป็นต้องถามผู้อาพาธ3ครั้ง3หน พินัยกรรมจึงจะสมบูรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 149/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญาหลังเจ้าของสิทธิถึงแก่กรรม และการอนุญาตฎีกาของผู้พิพากษาที่ย้ายศาล
ผู้พิพากษาซึ่งเคยนั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้น แม้จะถูกย้ายไปอยู่ศาลอื่นก็ตาม ถ้าหากยังคงเป็นผู้พิพากษาอยู่ ก็ย่อมอนุญาตให้คู่ความในคดีนั้นฎีกาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221
คดีของโจทก์มีพยานเอกสารมากมาย เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าพยานบุคคลรับฟังไม่ได้ แม้มีพยานเอกสารมาเจือสมก็ไม่มีผลดีแก่คดีของโจทก์แล้ว ศาลอุทธรณ์จะไม่พิจารณาพยานเอกสารนั้นๆ ต่อไปก็ได้ ไม่เป็นการผิดกฎหมาย
คดีลักทรัพย์ ถ้าปรากฏว่าจำเลยได้กระทำผิดก่อนเจ้าทรัพย์ถึงแก่กรรมทายาทหรือผู้จัดการมรดกของเจ้าทรัพย์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องร้องเพราะไม่ใช่ผู้เสียหาย
ฟ้องโจทก์ได้กล่าวหาว่าจำเลยปลอมหนังสือสัญญากู้และกระทำพยานหลักฐานเท็จตั้งแต่ระยะเวลาก่อนผู้เสียหายถึงแก่กรรมตลอดมาจนภายหลังถึงแก่กรรม คดีไม่อาจชี้ได้ว่าจำเลยกระทำผิดในระยะใด คดีไม่มีทางที่จะรู้ได้ว่าโจทก์จะมีอำนาจฟ้องได้หรือไม่ เช่นนี้ในชั้นฎีกาก็ไม่จำเป็นต้องพิจารณาข้อเท็จจริงต่อไป
ในข้อหาที่ว่าจำเลยอ้างหลักฐานเท็จในคดีแพ่ง คือหาว่าจำเลยอ้างสัญญากู้ที่จำเลยทำปลอมขึ้นโดยเจตนาจะใช้แทนสัญญากู้ฉบับที่จำเลยกู้เงินจากผู้ตาย ดังนี้เมื่อเป็นคดีที่จำเลยฟ้องร้องกันเองในคดีแพ่ง โจทก์ซึ่งเป็นทายาทหรือผู้จัดการมรดกของผู้ตาย ย่อมไม่ใช่เป็นผู้เสียหายในคดีนั้นจึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีอาญาในข้อหาฐานอ้างหลักฐานเท็จ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1486/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทเรื่องเขตที่ดินและการรุกล้ำที่ดิน ศาลอุทธรณ์แก้ไขเล็กน้อย ทุนทรัพย์ไม่เกิน 2,000 บาท จึงต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปลูกครัว ห้องและกั้นรั้วล้ำเข้าไปในที่โจทก์เป็นการละเมิดเรียกค่าเสียหาย 490 บาท จำเลยว่าที่ ๆ ปลูกครัวห้องแถวและรั้วเป็นของจำเลย ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า การทำรั้วเป็นการละเมิด แต่การปลูกครัวและห้องแถวไม่เป็นการละเมิด ให้โจทก์ใช้ค่าเสียหาย 80 บาท ศาลอุทธรณ์แก้ว่าการทำรั้วก็ไม่เป็นการละเมิดให้ยกฟ้องทั้งหมด เป็นการแก้ไขเล็กน้อย โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้. (คดีนี้คู่ความไม่ได้ตีราคาที่ดินตรงที่พิพาทกันนั้นขึ้นมา)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1344/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงต่างจากฟ้อง ทำให้ฎีกาไม่รับตามมาตรา 219
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยถือว่าทางพิจารณาได้ความต่างกับฟ้อง ก็คือถือว่า ทางพิจารณาไม่ได้ความว่าจำเลยทำผิดตามฟ้องนั่นเอง เป็นการพิพากษาโดยอาศัยข้อเท็จจริงและศาลอุทธรณ์ก็พิพากษายกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงที่ไม่เชื่อว่าจำเลยได้กระทำผิดดังข้อหา ดังนี้ คดีโจทก์ต้องห้ามฎีกาต่อไปตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา219
of 303