คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ศาลฎีกา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,432 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 626/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับการพิจารณาเนื่องจากจำเลยไม่ชำระค่าขึ้นศาลตามที่ศาลฎีกาสั่ง แม้จะแถลงไม่ติดใจดำเนินคดี
เมื่อจำเลยไม่ชำระเงินค่าขึ้นศาลให้ครบถ้วนตามคำสั่งของศาลฎีกาก็ต้องถือว่าฎีกาที่จำเลยยื่นมาไม่เป็นฎีกาที่จะรับไว้วินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 605/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวที่พอสมควรแก่เหตุ แม้ผู้ตายเป็นผู้เริ่มลงมือทำร้ายก่อน ศาลฎีกายกฟ้อง
ผู้ตายก่อเหตุชกต่อยจำเลยก่อน จำเลยไม่สู้วิ่งหนีไปมีคนจะช่วยผู้ตาย จำเลยจึงหนีไปทางอื่นแต่ก็ยังมีคนวิ่งไล่ตามไปจำเลยจึงใช้มีดขนาดกว้างราว 2 นิ้วมือ ยาวราว 3 องคุลี แทงไปทีหนึ่ง แต่บังเอิญถูกที่สำคัญผู้ตายจึงตาย แม้ไม่ปรากฏว่าผู้ตายใช้อาวุธทำร้ายจำเลย การกระทำของจำเลยก็เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 596-598/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเท็จและการรับรองพยานหลักฐานจากสำนวนอื่น ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์
คดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์ เมื่อศาลตรวจฟ้องถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา158 และสั่งนัดไต่สวนมูลฟ้องแล้วก็ถือว่าเป็นฟ้องตามกฎหมายและจะถือว่าผู้ถูกฟ้องยังไม่เป็นจำเลยหาได้ไม่ หากแต่ได้รับผ่อนผันยกเว้นสำหรับการดำเนินคดีในเบื้องต้นเท่านั้นฉะนั้นถ้าจะเป็นฟ้องเท็จก็อาจเป็นผิดตาม กฎหมายอาญา มาตรา 158,159 ได้ คดีอาญาที่คู่ความเพียงแต่อ้างสำนวนการพิจารณาในคดีอื่นมาเป็นพยานหลักฐานในคดีหลังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการพิจารณาและสืบพยานในศาลตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 172

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 578/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาพยายามฆ่าจากการใช้ปืนยิง แม้ไม่ถูกอวัยวะสำคัญ ศาลฎีกาตัดสินว่ามีความผิดฐานพยายามฆ่า
จำเลยใช้ปืนซึ่งเป็นอาวุธร้ายแรงยิงอีกฝ่ายหนึ่งในขณะวิวาทกัน ถูกข้อมือกระดูกแตก และยังมีบาดแผลที่หางคิ้ว และเหนือใบหูขวาอีกด้วยดังนี้แสดงว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าให้ตายหากกระสุนไม่ถูกอวัยวะที่สำคัญ จำเลยต้องมีความผิด ตาม ม.249-60

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 475/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความเท็จและใช้หนังสือปลอมเพื่อโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ ศาลฎีกาตัดสินความผิดฐานแจ้งความเท็จและใช้เอกสารที่ไม่เข้าข่ายหนังสือราชการ
แบบ ท.ย.11-ต.55 เป็นแบบพิมพ์คำแจ้งความเรื่องโอนและรับโอนยานพาหนะซึ่งใคร ๆ ก็ตรอกข้อความเอาเองแล้วยื่นต่อนายทะเบียนยานพาหนะเพื่อสัง และเป็นคำแจ้งความต่อนายทะเบียนฯเพื่อแก้ทะเบียนรถยนต์เท่านั้น ไม่ใช่หนังสือที่เจ้าหน้าที่ต้องเรียบเรียงหรือรับว่าเป็นของแท้ตามกฎหมายลักษณะอาญาม.6(19)และไม่ใช่หนังสือสำคัญแก่การตั้งกรรมสิทธิ์หรือหลักฐานแก่การเปลี่ยนแก้เลิกล้างโอนกรรมสิทธิ์อย่างใดตามกฎหมายลักษณะอาญา ม. 6(20)
ผู้ใดให้หนังสือดังกล่าวซึ่งเป็นหนังสือปลอมจึงผิดตามมาตรา 223,227 ไม่ใช่ 224,225,22+,227

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 339/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันเกินกว่าเหตุและการลดโทษในคดีทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์
คดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม มาตรา 249,53 ให้จำคุก 20 ปี และศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยผิดตาม มาตรา249,53 เช่นเดียวกับศาลชั้นต้น แต่แก้อัตราโทษเป็นจำคุกจำเลยไว้เพียง 6 ปีและลดตามมาตรา 59 อีกคงเหลือโทษจำคุกเพียง 4 ปี เช่นนี้เป็นการแก้มาก ฎีกาได้ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 (ประชุมใหญ่)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีอาญาเมื่อหลักฐานสำคัญสูญหาย ศาลฎีกามีอำนาจสั่งให้สืบพยานใหม่เพื่อวินิจฉัย
จำเลยหลบหนีเรือนจำไปโดยยังไม่ได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ต่อมากว่า 10 ปี แล้ว จึงจับจำเลยได้ ปรากฎว่าสำนวนทำลายเสียหมด คงเหลือแต่ฟ้องและคำพิพากษาเท่านั้น ไม่อาจวินิ่จฉัยข้อเท็จจริงได้ ศาลฎีกามีอำนาจสั่งให้ศาลชั้นตั้นสืบพะยานโจทก์จำเลยใหม่เพื่อศาลฎีกาจะได้วินิจฉัยไปก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1733/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินของคนต่างด้าว, การฟ้องเคลือบคลุม, และการครอบครองปรปักษ์: ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาเดิม
พระราชบัญญัติที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าว พ.ศ.2486มิได้ห้ามเด็ดขาดว่าคนต่างด้าวถือกรรมสิทธิ์ที่ดินไม่ได้ และแม้จะเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนก็ตามก็อยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะยกขึ้นพิจารณาหรือไม่ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 วรรคสองประกอบด้วย มาตรา 247
จำเลยยื่นคำให้การเพิ่มเติมอ้างว่าโจทก์เป็นคนต่างด้าวไม่มีสิทธิถือกรรมสิทธิ์ เมื่อศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง และจำเลยไม่ได้โต้แย้งคำสั่งนั้นประการใดจึงหมดสิทธิอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(2)
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ถือกรรมสิทธิในที่ดินโดยพี่สาวโจทก์ซื้อมาแล้วตกได้แก่โจทก์จำเลยขัดขวาง แม้โจทก์มิได้บรรยายลักษณะที่ดินและโจทก์มิได้ส่งสำเนาเอกสารซื้อขายก็ตามก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะจำเลยเข้าใจฟ้องได้แล้วส่วนสำเนาเอกสารโจทก์จะต้องส่งหรือไม่นั้นเป็นเรื่องรับฟังพยานเอกสารได้หรือไม่เพียงใดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 ไม่เกี่ยวกับเรื่องฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1662/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คนต่างด้าวใบสำคัญหมดอายุ ไม่ต้องมีติดตัว, ศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขคำพิพากษา
คนต่างด้าวซึ่งมีใบสำคัญประจำตัว แต่ว่าขาดอายุแล้วนั้น ไม่จำต้องนำใบสำคัญที่ใช้ไม่ได้นั้นติดตัวไปไว้เพื่อแสดงต่อเจ้าพนักงานตาม ม. 17 ด้วย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดฐานไม่ต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว และฐานไม่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวไว้แสดงต่อเจ้าพนักงาน ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยทั้งสองกะทงโจทก์ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ + ศาลอุทธรณ์พิพากษา+ โจทก์และจำเลยฎีกาต่อมาศาลฎีกาย่อมมีอำนาจพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ในกะทงความผิดไม่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวไว้แสดงต่อเจ้าพนักงานด้วยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1662/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คนต่างด้าวใบสำคัญหมดอายุ ไม่ต้องมีติดตัว, ศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขโทษที่ไม่ถูกต้องได้
คนต่างด้าวซึ่งมีใบสำคัญประจำตัว แต่ว่าขาดอายุแล้วนั้นไม่จำต้องนำใบสำคัญที่ใช้ไม่ได้นั้นติดตัวไปไว้เพื่อแสดงต่อเจ้าพนักงานตาม มาตรา 17 ด้วย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดฐานไม่ต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวและฐานไม่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวไว้แสดงต่อเจ้าพนักงานศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยทั้งสองกระทง โจทก์ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ในกระทงไม่ต่ออายุศาลอุทธรณ์พิพากษายกโจทก์และจำเลยฎีกาต่อมา ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ในกระทงความผิดฐานไม่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวไว้แสดงต่อเจ้าพนักงานด้วยได้
of 344