คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ศาลฎีกา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,432 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1225/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลฎีกาในการวินิจฉัยข้อเท็จจริงในคดีแพ่งที่เกี่ยวข้องกับคดีอาญาที่ศาลอุทธรณ์ยังไม่ได้วินิจฉัยชี้ขาด
ความผิดฐานลักทรัพย์เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโดยข้อเท็จจริงโจทก์จะฎีกาข้อเท็จจริงหาได้ไม่ ต้องห้ามตาม ป.วิ.อาญา ม. 219
แต่ในกรณีที่ศาลฎีกาจะพิพากษาในคดีส่วนแพ่งคือจะสั่งให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาไม้รายพิพาทได้หรือไม่นั้น เมื่อศาลชั้นต้นฟังว่าไม้รายพิพาทเป็นของโจทก์ และศาลอุทธรณ์ยังมิได้วินิจฉัยชี้ข้อเท็จจริงให้แน่นอนลงไปว่า ไม้เป็นของโจทก์หรือผู้ใดแล้วเช่นนี้ศาลฎีกาก็ย่อมมีอำนาจที่จะวินิจฉัยข้อเท็จจริงได้ว่าไม้รายพิพาทเป็นของฝ่ายใด และจำเลยจำต้องรับผิดชดใช้ให้เพียงใดหรือไม่
ในเรื่องคดีอาญาปนแพ่งนั้น การพิพากษาคดีส่วนแพ่งศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฎในคดีอาญา (ป.วิ.อาญา ม. 46) แต่ต้องถือตามบทบัญญัติแห่ง ก.ม. ว่าด้วยความรับผิดของบุคคลในทางแพ่งด้วย (ป.วิ.อาญา ม. 47)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 18/2498)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1225/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลฎีกาในคดีอาญาปนแพ่ง: วินิจฉัยสิทธิในทรัพย์สินได้แม้ศาลอุทธรณ์ยังไม่ชี้ขาด
ความผิดฐานลักทรัพย์เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโดยข้อเท็จจริงโจทก์จะฎีกาข้อเท็จจริงหาได้ไม่ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
แต่ในกรณีที่ศาลฎีกาจะพิพากษาในคดีส่วนแพ่งคือจะสั่งให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาไม้รายพิพาทได้หรือไม่นั้นเมื่อศาลชั้นต้นฟังว่าไม้รายพิพาทเป็นของโจทก์ และศาลอุทธรณ์ยังมิได้วินิจฉัยชี้ข้อเท็จจริงให้แน่นอนลงไปว่าไม้เป็นของโจทก์หรือผู้ใดแล้วเช่นนี้ศาลฎีกาก็ย่อมมีอำนาจที่จะวินิจฉัยข้อเท็จจริงได้ว่าไม้รายพิพาทเป็นของฝ่ายใด และจำเลยจำต้องรับผิดชดใช้ให้เพียงใดหรือไม่
ในเรื่องคดีอาญาปนแพ่งนั้น การพิพากษาคดีส่วนแพ่งศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคดีอาญา(ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46) แต่ต้องถือตามบทบัญญัติแห่ง กฎหมายว่าด้วยความรับผิดของบุคคลในทางแพ่งด้วย (ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 47) (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 18/2498)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1225/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลฎีกาในการวินิจฉัยข้อเท็จจริงคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา แม้ศาลอุทธรณ์ยังไม่วินิจฉัยเด็ดขาด
ความผิดฐานลักทรัพย์เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโดยข้อเท็จจริงโจทก์จะฎีกาข้อเท็จจริงหาได้ไม่ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
แต่ในกรณีที่ศาลฎีกาจะพิพากษาในคดีส่วนแพ่งคือจะสั่งให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาไม้รายพิพาทได้หรือไม่นั้นเมื่อศาลชั้นต้นฟังว่าไม้รายพิพาทเป็นของโจทก์ และศาลอุทธรณ์ยังมิได้วินิจฉัยชี้ข้อเท็จจริงให้แน่นอนลงไปว่าไม้เป็นของโจทก์หรือผู้ใดแล้วเช่นนี้ศาลฎีกาก็ย่อมมีอำนาจที่จะวินิจฉัยข้อเท็จจริงได้ว่าไม้รายพิพาทเป็นของฝ่ายใด และจำเลยจำต้องรับผิดชดใช้ให้เพียงใดหรือไม่
ในเรื่องคดีอาญาปนแพ่งนั้น การพิพากษาคดีส่วนแพ่งศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคดีอาญา(ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46) แต่ต้องถือตามบทบัญญัติแห่ง กฎหมายว่าด้วยความรับผิดของบุคคลในทางแพ่งด้วย (ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 47) (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 18/2498)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1159/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหารโดยอ้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสถานะบุตรคนต่างด้าว ศาลฎีกาพิพากษายืนว่าเป็นการขัดขืน
การที่ไม่ไปตามหมายเกณฑ์ตรวจคัดเลือกเข้ารับราชการทหาร เพราะเข้าใจผิดว่าบิดาเป็นคนต่างด้าว และตรงกับประกาศทางราชการว่าไม่ต้องเข้ารับราชการทหารนั้น ย่อมถือว่าเป็นการหลีกเลี่ยงขัดขืนการเกณฑ์
เมื่อศาลเห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดซึ่งจะลงโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ศาลจะใช้ดุลยพินิจให้รอการกำหนดไว้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี ก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1159/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหารด้วยความเข้าใจผิด ศาลฎีกาพิพากษายืนตามกฎหมายเดิมและปัจจุบันว่าเป็นการขัดขืน
การที่ไม่ไปตามที่หมายเกณฑ์ตรวจคัดเลือกเข้ารับราชการทหารเพราะเข้าใจผิดว่าบิดาเป็นคนต่างด้าว และตรงกับประกาศทางราชการว่าไม่ต้องเข้ารับราชการทหารนั้น ย่อมถือว่าเป็นการหลีกเลี่ยงขัดขืนการเกณฑ์
เมื่อศาลเห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดซึ่งจะลงโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ศาลจะใช้ดุลพินิจให้รอการกำหนดโทษไว้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี ก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1056/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีมโนสาเร่ ศาลฎีกาต้องยึดข้อเท็จจริงเดิมของศาลชั้นต้น หากศาลอุทธรณ์ไม่ได้โต้แย้ง
คดีมโนสาเร่ซึ่งคู่ความอุทธรณ์ได้แต่เฉพาะปัญหาข้อก.ม.นั้น ศาลอุทธรณ์ต้องถือตามข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยจากพยานหลักฐานในสำนวน ฉนั้นถ้าศาลอุทธรณ์กลับไปถือเอาข้อเท็จจริงอื่นที่ศาลชั้นต้นมิได้วินิจฉัยไว้โดยศาลอุทธรณ์มิได้ยกเหตุว่าการวินิจฉัยข้อเท็จจริงของศาลชั้นต้นผิดต่อก.ม.อย่างใดแล้ว และเมื่อปรากฎว่าศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานในสำนวนไม่เป็นการผิดต่อ ก.ม.ศาลฎีกาก็จำต้องถือตามข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยมาในการวินิจฉัยปัญหาข้อ ก.ม.ที่มาสู่ศาลฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1004/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเฉลี่ยทรัพย์สินของจำเลยระหว่างเจ้าหนี้หลายราย ศาลฎีกาไม่สามารถวินิจฉัยได้เนื่องจากฎีกาโจทก์ไม่ชัดเจน
โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษานำยึดทรัพย์สินของจำเลยผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีสำนวนอื่นของจำเลยขอเฉลี่ยทรัพย์ อ้างว่าจำเลยไม่มีทรัพย์สินอื่นใดอีกแล้วนอกจากที่โจทก์นำยึดเท่านั้น
โจทก์ฎีกาคัดค้าน เมื่อฎีกาของโจทก์คลุมเครือไม่แจ้งชัดว่าหมายถึงเจ้าหนี้รายใด(ผู้ร้องขอเฉลี่ยหลายราย)และข้ออ้างว่ากระไร ดังนี้ศาลฎีกาไม่อาจวินิจฉัยให้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 961/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การที่ศาลพิพากษาเกินคำขอและอายุความที่ไม่ได้รับการยกขึ้นต่อสู้ในชั้นต้น ศาลฎีกาไม่รับพิจารณา
คู่ความฎีกาว่าศาลพิพากษาเกินจากคำขอของโจทก์แต่มิได้ยกขึ้นกล่าวอ้างในชั้นศาลอุทธรณ์ในชั้นฎีกาแม้โจทก์จะอ้างว่าเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนก็ดี เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นในข้อนี้ศาลฎีกาก็อาจเห็นว่าคดีไม่มีเหตุอันสมควรที่จะยกขึ้นวินิจฉัยแก้ไขคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในข้อนี้ได้
เรื่องอายุความนั้น ถ้าหากมิได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้ตั้งแต่ศาลชั้นต้นแล้วศาลจะอ้างเอามาเป็นเหตุยกฟ้องหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 787/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยฎีกาที่อ้างการแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ชอบ หากไม่ได้ระบุรายละเอียดชัดเจน
ฎีกาที่กล่าวว่าศาลอุทธรณ์แก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นโดยไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา โดยไม่กล่าวให้ชัดแจ้งว่าศาลอุทธรณ์แก้ข้อไหน อย่างไร เป็นการไม่ชอบนั้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 787/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นโดยศาลอุทธรณ์ต้องชัดเจน หากไม่ชัดเจน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ฎีกาที่กล่าวว่าศาลอุทธรณ์แก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นโดยไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา โดยไม่กล่าวให้ชัดแจ้งว่าศาลอุทธรณ์แก้ข้อไหน อย่างไร เป็นการไม่ชอบนั้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
of 344