คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
กฎหมายอาญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 392 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 573/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเรียกรับเงินเพื่อเอื้อประโยชน์ในการโอนเรือ ถือเป็นการทุจริตและมีความผิดตามกฎหมายอาญา
โจทก์ได้ไปร้องขอให้กรมเจ้าท่าทำการโอนขายเรือของโจทก์ให้แก่ ส. ในชั้นแรกไม่ได้รับอนุญาตให้โอน จำเลยซึ่งเป็นรองอธิบดีกรมเจ้าท่า ได้เรียกร้องให้โจทก์ชำระเงิน 56000 บาท เพื่อเป็นค่าทำถนนในกรมเจ้าท่าเสียก่อนจึงจะอนุญาตให้ทำการโอนได้ โจทก์จึงจำต้องชำระเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่จำเลย แล้วจำเลยจึงได้สั่งอนุญาตให้ทำการโอนเรือในวันนั้นเอง ดังนี้แม้จำเลยจะนำสืบได้ว่าได้เอาเงินจำนวนนี้ไปใช้ลาดยางทำถนนให้แก่กรมเจ้าท่า จำเลยก็ย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้ทำการทุจจริตตามนัยแห่งมาตรา 6 (3) กฎหมายอาญา โจทก์ย่อมเป็นผู้เสียหายจากการกระทำของจำเลยและมีสิทธิที่จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยได้
กรณีเช่นนี้ย่อมแตกต่างกับเรื่องเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา ซึ่งเป็นการให้เงินแก่กันโดยสมัครใจ
(อ้างฎีกา 406/2486, 394/131)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 573/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเรียกรับเงินเพื่อเอื้อประโยชน์ในการอนุมัติโอนเรือ ถือเป็นการทุจริตและมีความผิดตามกฎหมายอาญา
โจทก์ได้ไปร้องขอให้กรมเจ้าท่าทำการโอนขายเรือของโจทก์ให้แก่ ส. ในชั้นแรกไม่ได้รับอนุญาตให้โอน จำเลยซึ่งเป็นรองอธิบดีกรมเจ้าท่าได้เรียกร้องให้โจทก์ชำระเงิน 56,000 บาท เพื่อเป็นค่าทำถนนในกรมเจ้าท่าเสียก่อนจึงจะอนุญาตให้ทำการโอนได้ โจทก์จึงจำต้องชำระเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่จำเลยแล้วจำเลยจึงได้สั่งอนุญาตให้ทำการโอนเรือในวันนั้นเอง ดังนี้แม้จำเลยจะนำสืบได้ว่าได้เอาเงินจำนวนนี้ไปใช้ลาดยางทำถนนให้แก่กรมเจ้าท่า จำเลยก็ย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้ทำการทุจริตตามนัยแห่งมาตรา 6(3) กฎหมายอาญา โจทก์ย่อมเป็นผู้เสียหายจากการกระทำของจำเลยและมีสิทธิที่จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยได้
กรณีเช่นนี้ย่อมแตกต่างกับเรื่องเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา ซึ่งเป็นการให้เงินแก่กันโดยสมัครใจ (อ้างฎีกาที่406/2468,394/131)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 557/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุและการใช้สิทธิป้องกันตัวตามกฎหมายอาญา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนา ศาลชั้นต้นชี้ขาดข้อเท็จจริงว่า จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายเป็นการป้องกันตัว แต่กระทำเกินกว่าเหตุควรรับโทษ โจทก์ไม่อุทธรณ์ ดังนี้ ชั้นฎีกา โจทก์จะกลับขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาหาได้ไม่
ผู้ตายมีพรรคพวก 5 คน พากันไปหน้าบ้านจำเลย ผู้ตายผลักบานประตูบ้านจำเลยเปิดออกและผู้ตายกับจำเลยพูดโต้เถียงกัน จำเลยบอกให้ผู้ตายกลับไปเสีย หายเมาจึงพูดกันใหม่ ผู้ตายไม่ยอมกลับ จำเลยปิดประตู ผู้ตายผลักบานประตูกระแทกจำเลยเซ แล้วผู้ตายก้าวเท้าข้างหนึ่งล้ำเข้าไปในประตู และใช้มีดปลายแหลมจ้วงแทงจำเลย ๆ หลบเสีย มีดจึงไม่ถูกผู้ตายแทงซ้ำ จำเลยจึงใช้ปืนยิงผู้ตาย 2 นัดซ้อน ผู้ตายเซถอยแล้วล้มลงขาดใจตาย ดังนี้ ถือว่าจำเลยได้ทำการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุไม่ควรลงโทษจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 354/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขกฎหมายอาญาหลังกระทำผิด: ผลกระทบต่อการลงโทษจำเลย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานกักกันข้าวในเขตต์ห้ามกักกันข้าว ในระหว่างพิจารณาได้มี พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว (ฉะบับที่ 2) 2489 ออกใช้ ซึ่งบัญญัติว่าผู้มีข้าวเกินปริมาณจะมีผิดต่อเมื่อไม่แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บข้าวภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการกำหนดซึ่งเป็นการแก้ไขกฎหมายฉะบับเดิมและเป็นคุณแก่จำเลย เมื่อการกระทำของจำเลยไม่มีผิดตาม ก.ม.ฉะบับหลัง ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้ ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 8
(อ้างฎีกาที่ 621-622 / 2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 204/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขู่เข็ญตามกฎหมายอาญา: การกระทำโดยกิริยาและความเพียงพอของฟ้อง
คำว่าขู่เข็ญตามความในมาตรา 339 ข้อ 1 ก.ม.ลักษณะอาญา นั้นอาจมีความหมายไม่ฉะเพาะแต่ว่าจะต้องกระทำด้วยวาจา อาจหมายตลอดถึงการกระทำโดยกิริยาด้วย
ฟ้องบรรยายแต่เพียงว่าจำเลยชักอาวุธมีดไล่จะแทงนั้น ยังไม่พอจะฟังว่าเป็นการขู่เข็ญตามความในมาตรา 339 ข้อ 1.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 204/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขู่เข็ญตามกฎหมายอาญา: การกระทำโดยอาการกิริยาถือเป็นขู่เข็ญได้ แต่การบรรยายฟ้องต้องชัดเจน
คำว่าขู่เข็ญตามความในมาตรา 339 ข้อ 1 กฎหมายลักษณะอาญา นั้นอาจมีความหมายไม่เฉพาะแต่ว่าจะต้องกระทำด้วยวาจาอาจหมายตลอดถึงการกระทำโดยกิริยาด้วย
ฟ้องบรรยายแต่เพียงว่าจำเลยชักอาวุธมีดไล่จะแทงนั้นยังไม่พอจะฟังว่าเป็นการขู่เข็ญตามความในมาตรา 339 ข้อ 1

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1917/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดกระบือที่เข้าสวนผู้อื่น: ไม่ถือเป็นทรัพย์ที่ถูกยึดตามกฎหมายอาญา หากเจ้าพนักงานมิได้ยึด
ผู้ที่ปล่อยกระบือเข้าไปในสวนของผู้อื่นทำให้ต้นผลไม้เสียหายและฝ่ายเจ้าของสวนจับกระบือนั้นไว้ ไม่ถือว่ากระบือนั้นเป็นทรัพย์อันต้องยึดหรืออายัด ไว้ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 290 แม้เจ้าของกระบือนั้นไปเอากระบือคืนมาก็ไม่ผิดมาตรานี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1752/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องไม่สมบูรณ์กรณีไม่ระบุตัวผู้กระทำผิดการจำหน่ายยาสูบเกินราคา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ยาสูบ 2486 มาตรา 19,40 โดยกล่าวว่า จำเลยจำหน่ายยาสูบเกินราคาที่อธิบดีกรมสรรพสามิตกำหนดไว้แต่ไม่ได้บรรยายว่าจำเลยเป็นผู้ทำการจำหน่ายยาสูบ ดังนี้ ย่อมเป็นฟ้องไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) โจทก์จะขอสืบพยานเพื่อเพิ่มเติมฟ้องหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1516/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานะเจ้าพนักงาน: กรณีรถไฟสายแม่กลองเป็นองค์การอิสระ ไม่ถือเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายอาญา
จำเลยเป็นนายสถานีแม่กลองแห่งรถไฟสายแม่กลอง รถไฟสายแม่กลองนี้เป็นองค์การอิสระ อยู่ในความควบคุมของกรมรถไฟเจ้าหน้าที่ของรถไฟสายนี้กินเงินเดือนรายได้ของรถไฟสายนี้ ไม่ได้กินเงินเดือนงบประมาณแผ่นดิน การแต่งตั้งถอดถอน การขึ้นเงินเดือนเป็นอำนาจของผู้จัดการคนเดียว ดังนี้ จะถือว่า จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายไม่ได้จำเลยย่อมมีผิดตามมาตรา 131,132 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1516/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานะเจ้าพนักงาน: ผู้จัดการรถไฟอิสระไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายอาญา
จำเลยเป็นนายสถานีแม่กลองแห่งรถไฟสายแม่กลอง รถไฟสายแม่กลองนี้เป็นองค์การอิสระ อยู่ในความควบคุมของกรมรถไฟ เจ้าหน้าที่ของรถไฟสายนี้กินเงินเดือนรายได้ของรถไฟสายนี้ ไม่ได้กินเงินเดือนงบประมาณแผ่นดิน การแต่งตั้งถอดถอนการขึ้นเงินเดือนเป็นอำนาจของผู้จัดการคนเดียว ดังนี้จะถือว่า จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายไม่ได้ จำเลยย่อมมีผิดตามมาตรา 131,132 ไม่ได้
of 40