พบผลลัพธ์ทั้งหมด 344 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2662/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีและการแก้ไขฟ้อง: ศาลมีอำนาจเพิกถอนคำสั่งจำหน่ายคดีได้ และแก้ฟ้องได้แม้หลังวันสืบพยาน
การที่ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีเพราะเหตุที่โจทก์ไม่มาศาล ไม่ใช่เป็นการวินิจฉัยชี้ขาดคดีหรือในประเด็นข้อใดแห่งคดี ดังนั้นแม้โจทก์จะได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่สั่งจำหน่ายคดีโดยผิดพลาด และศาลสั่งยกคำร้องไปครั้งหนึ่งแล้วก็ตามโจทก์ก็มีสิทธิยื่นคำร้องใหม่ได้ ไม่ถือเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144
โจทก์ขอแก้ฟ้องจากคำว่า "เช็คธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาวัดไทร" เป็น "เช็คสหธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาวัดไทร" เป็นการขอแก้ถ้อยคำที่พิมพ์ผิดพลาดตกหล่นไปเล็กน้อย ย่อมแก้ได้เสมอแม้หลังวันสืบพยาน ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 180
โจทก์ขอแก้ฟ้องจากคำว่า "เช็คธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาวัดไทร" เป็น "เช็คสหธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาวัดไทร" เป็นการขอแก้ถ้อยคำที่พิมพ์ผิดพลาดตกหล่นไปเล็กน้อย ย่อมแก้ได้เสมอแม้หลังวันสืบพยาน ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 180
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2256/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอ้างเหตุเอกสารที่ไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา ต้องระบุเหตุผลและข้อกฎหมายที่ชัดเจน มิฉะนั้นศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
จำเลยที่ 1 ฎีกาว่าเอกสารหมาย ล.5 และ ล.6 เป็นเอกสารที่จำเลยที่ 2 ส่งในขณะจำเลยที่ 1 เบิกความเป็นพยานโดยไม่ทราบมาก่อน จึงไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา มิควรรับฟังในทางที่เป็นโทษแก่จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 มิได้กล่าวให้ปรากฏว่าการยื่นส่งเอกสารดังกล่าวไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณาเพราะเหตุใด อย่างไร จึงเป็นฎีกาที่มิได้ยกข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายขึ้นอ้างอิงโดยชัดแจ้ง ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1980/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบอำนาจไม่ชอบด้วยกฎหมายส่งผลให้กระบวนพิจารณาคดีเป็นโมฆะ
เมื่อศาลชั้นต้นส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยเพื่อทำคำให้การแก้คดีแล้ว จำเลยโดย ป. ผู้รับมอบอำนาจได้แต่งตั้งให้ ส. เป็นทนายความของจำเลย ส. ยื่นคำให้การของจำเลยและดำเนินกระบวนพิจารณาแทนจำเลยต่อมาจนเสร็จคดี แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้มอบอำนาจให้ บ. ดำเนินคดีแทน ดังนั้นการที่ บ. เข้ามาดำเนินคดีแทนจำเลยก็ดี แต่งตั้งให้ ส.เป็นทนายจำเลยก็ดี และการที่ ส. ดำเนินกระบวนพิจารณาแทนจำเลยต่อมาจนเสร็จคดีก็ดี จึงเป็นการกระทำของบุคคลภายนอกที่ไม่มีอำนาจดำเนินกระบวนพิจารณาแทน จำเลย การดำเนินกระบวนพิจารณาของบุคคลดังกล่าวจึงเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่ผูกพันจำเลย
กรณีดังกล่าวข้างต้นเป็นเรื่องที่มิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในข้อที่มุ่งหมายจะยังให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรม และเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 27 แม้จะไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นอ้าง เมื่อความปรากฏแก่ศาลฎีกา ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจยกปัญหานี้ขึ้นวินิจฉัยและให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบนั้นได้ เมื่อปรากฏว่าจำเลยทั้งหมดถูกฟ้องให้รับผิดร่วมกันอันเป็นหนี้ร่วม ก็สมควรให้ยกคำพิพากษาของศาลล่างตลอดไปถึงจำเลยอื่นด้วย
(วรรคสองอ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 345/2520)
กรณีดังกล่าวข้างต้นเป็นเรื่องที่มิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในข้อที่มุ่งหมายจะยังให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรม และเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 27 แม้จะไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นอ้าง เมื่อความปรากฏแก่ศาลฎีกา ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจยกปัญหานี้ขึ้นวินิจฉัยและให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบนั้นได้ เมื่อปรากฏว่าจำเลยทั้งหมดถูกฟ้องให้รับผิดร่วมกันอันเป็นหนี้ร่วม ก็สมควรให้ยกคำพิพากษาของศาลล่างตลอดไปถึงจำเลยอื่นด้วย
(วรรคสองอ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 345/2520)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1004/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละประเด็นข้อพิพาทและการวินิจฉัยนอกประเด็น ศาลฎีกาชี้ว่าการวินิจฉัยนอกประเด็นเป็นเหตุให้คำพิพากษาไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา
ตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นปรากฏว่า คู่ความได้สละประเด็นตามคำฟ้องและคำให้การที่มีอยู่ คงโต้เถียงกันแต่เพียงประเด็นเดียวว่า จำเลยส่งมอบรถยนต์ให้โจทก์แล้วหรือไม่ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยยังมิได้ส่งมอบรถยนต์ให้โจทก์ จำเลยก็ต้องรับผิดตามฟ้องโจทก์ ส่วนค่าเสียหายถ้าสูงเกินไปศาลมีอำนาจลดลงได้ การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าตามสัญญาเช่าซื้อ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกราคารถยนต์ที่เช่าซื้อได้อีก จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น ไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 615/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบอำนาจดำเนินคดีและการแก้ไขกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ ศาลต้องแจ้งคำสั่งให้ชัดเจนและให้โอกาสแก้ไข
โจทก์มอบอำนาจให้บุคคลซึ่งเป็นทนายความดำเนินคดีกับจำเลยได้ทุกอย่าง ผู้รับมอบอำนาจเป็นแต่ตัวแทนเฉพาะการและตั้งทนายความได้ไม่ใช่ตั้งตัวแทนช่วง แต่จะว่าความซักพยานเองอย่างทนายความไม่ได้แม้จำเลยยกขึ้นคัดค้านเมื่อพ้น 8 วันตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 27 วรรคสอง ศาลเห็นสมควรก็สั่งแก้ไข โดยให้ผู้รับมอบอำนาจทำใบแต่งตั้งตัวเองเป็นทนายความก่อนพิพากษา ศาลชั้นต้นแจ้งให้โจทก์ทราบเพียงว่าให้นัดฟังผลปฏิบัติและฟังคำพิพากษา ไม่ชัดพอที่จะให้เข้าใจว่าให้โจทก์แก้ไขข้อที่ผิดระเบียบภายในกำหนดเวลาโจทก์ไม่ไปศาลตามนัด จึงถือว่าโจทก์เพิกเฉยไม่ได้ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องไม่ชอบ ศาลฎีกายกคำพิพากษาศาลล่างให้พิจารณาพิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3852/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ฟ้องและการถอนฟ้องแย้งที่ถึงที่สุดแล้ว ไม่อาจนำมาอุทธรณ์ฎีกาได้อีก
จำเลยที่ 3 ทราบก่อนแล้วว่า บริษัท ส. จดทะเบียนเลิกบริษัท และตั้งผู้ชำระบัญชีและโจทก์จะขอแก้ฟ้อง โดยแถลงต่อศาลว่าไม่คัดค้านที่ของแก้ฟ้องจากบริษัทส. เป็นผู้ชำระบัญชี จำเลยที่ 3 ได้ยื่นคำร้องขอให้เรียกผู้ชำระบัญชีของบริษัท ส.(จำเลยที่ 1) เข้ามาด้วยแล้ว ต่อมาเมื่อโจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องชื่อจำเลยที่ 1เป็นนายรมย์ไชยเสนาผู้ชำระบัญชีบริษัทส.ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตโดยไม่ได้ส่งสำเนาคำร้องให้จำเลยที่ 3 ทราบจำเลยที่ 3 ก็ไม่ได้โต้แย้งคัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องดังกล่าวแต่อย่างใด คำสั่งศาลชั้นต้นดังกล่าวเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาจำเลยที่ 3 ไม่ได้โต้แย้งไว้ก็อุทธรณ์ฎีกาคำสั่งดังกล่าวไม่ได้
จำเลยที่ 3 อุทธรณ์คำสั่งที่จำเลยที่ 1 ขอถอนฟ้องแย้งโดยมิได้รับความยินยอมจากจำเลยที่ 3 ต่อศาลอุทธรณ์ครั้งหนึ่งแล้ว ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้จำเลยที่ 1 ถอนฟ้องแย้งได้คดีถึงที่สุด จำเลยที่ 3 จะอุทธรณ์ฎีกาปัญหานี้อีกไม่ได้
จำเลยที่ 3 อุทธรณ์คำสั่งที่จำเลยที่ 1 ขอถอนฟ้องแย้งโดยมิได้รับความยินยอมจากจำเลยที่ 3 ต่อศาลอุทธรณ์ครั้งหนึ่งแล้ว ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้จำเลยที่ 1 ถอนฟ้องแย้งได้คดีถึงที่สุด จำเลยที่ 3 จะอุทธรณ์ฎีกาปัญหานี้อีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3674/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจทนายความในการดำเนินกระบวนพิจารณาและการรับฟังคำพิพากษาแทนจำเลย
โจทก์แต่งตั้งให้ ว. เป็นทนายความและให้มีอำนาจดำเนินกระบวนพิจารณาใดๆ ไปในทางจำหน่ายสิทธิได้ เช่นการยอมรับตามที่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งเรียกร้อง ยื่น ถอนคำฟ้อง ประนีประนอมยอมความ สละสิทธิหรือใช้สิทธิในการอุทธรณ์ฎีกา หรือขอให้มีการพิจารณาคดีใหม่ตลอดจนชั้นบังคับคดีเมื่อไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ถอดถอน ว.ออกจากการเป็นทนายความ ถือได้ว่า ว. ยังคงเป็นทนายความของโจทก์อยู่ เมื่อศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ว. ทนายโจทก์ฟัง ก็ถือว่าโจทก์ได้ฟังคำพิพากษาดังกล่าวโดยชอบแล้ว แม้ร้อยตำรวจเอก ช. จะเป็นทนายความผู้ทำคำฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์มายื่นและมิได้ฟังคำพิพากษาด้วยตนเอง ก็ไม่มีอำนาจร้องขอให้ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ใหม่เพื่อให้โจทก์มีสิทธิฎีกาได้อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2919/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ - จำเลยไม่ตรง - กระบวนพิจารณา - ห้ามฟ้องซ้ำ
เดิมโจทก์ฟ้องจำเลยมาครั้งหนึ่งแล้วในข้อหาว่ากระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้นข้อเท็จจริงปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวบุคคลอื่นมาส่งศาลเป็นจำเลยมิใช่จำเลยตัวจริงตามที่โจทก์ฟ้องโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลยกเลิกกระบวนพิจารณาที่ทำไปแล้วและขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่โดยให้นำตัวจำเลยที่แท้จริงเข้ามาเป็นจำเลยศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องและพิพากษายกฟ้องโจทก์โจทก์อุทธรณ์คำสั่งและคำพิพากษา ขณะที่คดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์โจทก์กลับนำคดีมาฟ้องจำเลยตัวจริงในข้อหาความผิดอันเดียวกันนั้นอีกฟ้องโจทก์จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา173 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 15
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2788/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นคำร้องซ้ำในประเด็นที่ศาลตัดสินแล้ว ถือเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำที่ต้องห้ามตามกฎหมาย
จำเลยได้ยื่นคำร้องใหม่ มีข้ออ้างและคำขอให้ศาลวินิจฉัยเช่นเดียวกับคำร้องของจำเลยที่ได้ยื่นไว้แต่เดิม ซึ่งศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดไปแล้ว การที่จำเลยยื่นคำร้องเข้ามาใหม่ดังกล่าว จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำในประเด็นที่ศาลได้วินิจฉัยชี้ขาดไปแล้ว ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2788/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นคำร้องซ้ำในประเด็นที่ศาลชี้ขาดแล้ว ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144
จำเลยได้ยื่นคำร้องใหม่ มีข้ออ้างและคำขอให้ศาลวินิจฉัยเช่นเดียวกับคำร้องของจำเลยที่ได้ยื่นไว้แต่เดิม ซึ่งศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดไปแล้ว การที่จำเลยยื่นคำร้องเข้ามาใหม่ดังกล่าว จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำในประเด็นที่ศาลได้วินิจฉัยชี้ขาดไปแล้ว ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144