คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
การกระทำผิด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 354 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 670/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องซ้ำในคดีอาญา: การกระทำต่างกรรมต่างวาระและบทบาทของจำเลย
พฤติการณ์ที่ไม่ถือว่าเป็นการฟ้องซ้ำในคดีอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 495/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจจับกุมไม่กระทบความผิด การริบของกลางต้องเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด
ของที่วางขายโดยไม่ปิดป้ายแสดงราคาโภคภัณฑ์นั้นไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด จึงไม่ควรริบ (เทียบฎีกา 201/2493)
นายสิบและพลตำรวจจับจำเลยโดยไม่มีอำนาจตาม พ.ร.บ. ควบคุมโภคภัณฑ์ แต่ต่อมาได้มีการสอบสวนแล้วโดยชอบและจำเลยก็รับสารภาพ ดังนี้ย่อมไม่ทำให้จำเลยพ้นผิดตามกฎหมาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 231/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบเรือยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะในการปล้นทรัพย์: ไม่ริบหากไม่ได้ใช้ร่วมในการกระทำผิด
เรือยนต์ของกลางเมื่อจำเลยใช้เป็นเพียงพาหนะไปปล้น ไม่ได้ใช้ร่วมในการกระทำผิดด้วย แม้จำเลยจะได้ใช้เป็นเรือขนทรัพย์ที่ปล้นมาก็จริงก็เป็นการใช้เป็นพาหนะไปมาทำนองเดียวกันเท่านั้น จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรริบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1815/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ไม้แปรรูปจากการกระทำผิดป่าไม้เป็นของต้องริบตามกฎหมาย
ไม้ที่ทำการแปรรูปเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นของต้องริบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1431/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสมรู้ร่วมคิดฆ่าคน: การกระทำที่ต้องเป็นอุปการะต่อการกระทำผิด
การที่จะให้ฟังว่า จำเลยกระทำผิดฐานสมรู้ จะต้องได้ความว่าจำเลยได้กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดในเวลาแต่ก่อนหรือเมื่อขณะความผิดนั้นได้เกิดขึ้น อันเป็นอุปการะแก่การกระทำผิดนั้น
การที่คนหนึ่งทำร้ายผู้ตายซึ่งเป็นกรรมกรสามล้อถึงตายโดยจำเลยไม่ได้สมคบด้วย เป็นการกระทำของคนนั้นโดยพลการจำเลยเป็นแต่เข้าช่วยคนนั้นชกต่อยพวกสามล้ออื่นซึ่งเกิดวิวาทกันในตอนแรกเท่านั้น และการที่จำเลยร้องห้ามไม่ใช้ใครเข้ามาเพื่อขู่ไม่ให้ใครเข้ามาทำร้ายคนนั้นหรือเข้ามาทำร้ายจำเลยเอง และทั้งขณะที่จำเลยร้องห้าม ก็ไม่ได้ความว่าจำเลยได้ทราบถึงการที่คนอื่นนั้นทำร้ายผู้ตายแล้วหรือไม่ ดังนี้การกระทำของจำเลยไม่เป็นการอุปการะแก่การกระทำผิด อันจะเป็นผิดฐานสมรู้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1357/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องฉ้อโกงที่ไม่จำเป็นต้องระบุเวลาทำผิด หากข้อเท็จจริงแสดงให้เห็นช่วงเวลาของการกระทำได้ชัดเจน
โจทก์ฟ้องจำเลยฐานฉ้อโกงโดยกล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ย.2496 จำเลยเอาที่ดินซึ่งอ้างว่าเป็นของจำเลยมาประกันเงินกู้โจทก์หลงเชื่อจึงให้จำเลยกู้เงินไปและจำเลยได้เขียนระบุที่ดินนั้นไว้ในสัญญากู้ด้วย ความจริงปรากฎต่อมาว่าที่ดินนั้นเป็นของผู้อื่น
สำหรับกรณีเช่นนี้ ไม่จำเป็นต้องระบุว่าเกิดเหตุเวลากลางวันหรือกลางคืน เพราะกิจการที่กล่าวอ้างในฟ้องเป็นเครื่องแสดงให้บังเกิดความหมายและเข้าใจได้แล้วซึ่งจำเลยเองก็มิได้ปฏิเสธความข้อนี้ และจำเลยยอมรับว่าได้ทำสัญญากู้ให้โจทก์ไว้จริงซึ่งหมายความทำกันในวันนั้น หากแต่โต้เถียงว่ามิได้หลอกลวงซึ่งเป็นข้อเท็จจริงส่วนหนึ่งจะเรียกว่าโจทก์ฟ้องเคลือบคลุม(เพราะไม่มีเวลาเกิดเหตุ) ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 86/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บาดแผลสาหัสจากการทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาโทษฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส แม้ไม่ถึงแก่ชีวิต
ได้ความว่าผู้เสียหายถูกทำร้ายถึง 2 แห่งคือที่แขนและที่น่าอก บาดแผลทั้ง 2 แห่งนี้ปรากฏว่าระยะการรักษาเพียง 15 วันแผลตกนะเก็ดลุกขึ้นลงเรือนได้ แต่ได้ความว่าบาดแผลนี้รักษาอยู่ 23 วันยังไม่หายดี ระหว่างรักษาตัวทำการงานอะไรไม่ได้ เมื่อเบิกความเป็นพยานครั้งหลังจากเกิดเหตุ 2 เดือน 4 วัน หายใจรู้สึกเสียวที่น่าอกยังทำการงานอะไรไม่ได้ เช่นนี้ถือว่าเป็นบาดแผลสาหัสต้องตาม ม.256 ก.ม.อาญา ไม่ใช่บาดเจ็บธรรมดาตาม ม.254 ก.ม.อาญา
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยพยายามฆ่าคนโดยเจตนา ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้องแต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตาม ม.254 โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษฐานพยายามฆ่าหรือทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส ดังนี้เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าบาดแผลถึงสาหัสและฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าก็ย่อมจะลงโทษจำเลยฐานทำร้ายบาดเจ็บสาหัสตาม ม.256 ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 620/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องจำเลยในฐานะบุคคลธรรมดา โดยไม่ได้ฟ้องบริษัท แม้จะเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดของบริษัท
เทศบัญญัติของเทศบาลนครกรุงเทพฯ เรื่องควบคุมการค้าซึ่งเป็นที่น่ารังเกียจ ฯ (ฉบับที่ 3) 2494 ลงวันที่ 18 ม.ค.2494 ข้อ 4,5
หน้าฟ้องโจทก์ระบุชื่อจำเลยไม่ได้ระบุชื่อบริษัท ในคำบรรยายฟ้องกล่าวถึงบริษัทอยู่บ้าง แต่ก็เป็นเพียงแสดงให้ทราบว่าจำเลยผู้ที่ถูกฟ้องนั้นเป็นผู้จัดการบริษัทจึงเป็นอันว่าจากหน้าฟ้องก็ตาม จากคำบรรยายฟ้องก็ตาม โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นส่วนตัวของจำเลย และฟ้องไม่ได้หาว่าจำเลยจัดคนให้เลื่อยไม้ เมื่อคำพยานไม่มีเลยว่าจำเลยเป็นผู้เลื่อยไม้ เช่นนี้ลงโทษจำเลยไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 330/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ องค์ประกอบความผิดฐานรับของโจร ต้องพิสูจน์ว่าของที่รับรู้ว่าเป็นผลจากการกระทำผิด
อันจะเป็นความผิดฐานรับของโจรนั้นต้องประกอบด้วยองค์สำคัญว่าของซึ่งได้รับไว้เป็นของที่ได้มาด้วยการกระทำผิดต่อกฎหมายเมื่อทางพิจารณาไม่ได้ความว่ากระบือของกลางเป็นของที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมายคือถูกลักมาดังฟ้องแล้วก็ย่อมลงโทษจำเลยฐานรับของโจรหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 240/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องอาญาฐานกีดขวางทางสาธารณะ จำเป็นต้องระบุรายละเอียดการกระทำผิดและขออนุญาตหรือไม่
การฟ้องขอให้ลงโทษตามก.ม.อาญา ม.336(2) นั้นโจทก์จะต้องบรรยายในฟ้องด้วยว่า จำเลยมิได้รับอนุญาตอันชอบด้วย ก.ม.มิฉนันย่อมจะเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ลงโทษจำเลยไม่ได้
ที่ชายทะเลซึ่งน้ำท่วมถึงนั้นหาเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินหรือทางสาธารณะเสมอไปไม่.
of 36