พบผลลัพธ์ทั้งหมด 323 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1560/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิวาททำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย: ความรับผิดชอบเฉพาะผู้ลงมือแทง
ในกรณีที่จำเลยกับผู้ตายต่างสมัครในวิวาทเข้าทำร้ายกันจนผลผู้ตายตายลง โดยจำเลยที่ 1 และผู้ตายเริ่มเข้าทำร้ายกันจำเลยที่ 1 ใช้พายและฆ้อนทำร้ายผู้ตายไม่เป็นแผลฉกรรจ์ส่วนผู้ตายมีมีดขอแล้วเข้ากอดปล้ำกันจำเลยที่ 2 เห็นจำเลยที่ 1 เสียเปรียบเข้าช่วยจำเลยที่ 1 โดยใช้ไม้คานตีและใช้มีดแทงผู้ตายถูกชายโครงขวาทลุช่องท้องเป็นแผลฉกรรจ์แพทย์ลงความเห็นว่าถึงตายเพราะแผลนี้.ข้อเท็จจริงเช่นนี้ยังไม่ได้ความว่าจำเลยที่ 1 สมคบกับจำเลยที่ 2 ในการทำร้ายผู้ตาย จำเลยที่ 1 ควรมีความผิดเพียงกรรมที่ตนทำฐานทำร้ายร่างกายตาม ม.256 เท่านั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1560/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิวาททำร้ายร่างกาย: การแบ่งแยกความรับผิดชอบของผู้ร่วมวิวาทและการพิจารณาความผิดฐานทำร้ายร่างกาย
ในกรณีที่จำเลยกับผู้ตายต่างสมัครใจวิวาทเข้าทำร้ายกันจนผลผู้ตายตายลง โดยจำเลยที่ 1 และผู้ตายเริ่มเข้าทำร้ายกัน จำเลยที่ 1 ใช้พายและฆ้อนทำร้ายผู้ตายไม่เป็นแผลฉกรรจ์ ส่วนผู้ตายมีมีดขอแล้วเข้ากอดปล้ำกัน จำเลยที่ 2 เห็นจำเลยที่ 1 เสียเปรียบเข้าช่วยจำเลยที่ 1 โดยใช้ไม้คานตีและใช้มีดแทงผู้ตายถูกชายโครงขวาทะลุช่องท้องเป็นแผลฉกรรจ์ แพทย์ลงความเห็นว่าถึงตายเพราะแผลนี้ ข้อเท็จจริงเช่นนี้ยังไม่ได้ความว่าจำเลยที่ 1 สมคบกับจำเลยที่ 2 ในการทำร้ายผู้ตายจำเลยที่ 1 ควรมีความผิดเพียงกรรมที่ตนทำฐานทำร้ายร่างกายตาม มาตรา 254 เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1411/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลคำฟ้องและการระบุประเด็นความรับผิดชอบทางอาญา หากโจทก์มิได้ระบุเจตนาหรือความรับผิดชอบโดยตรง ศาลยึดตามที่ระบุ
บรรยายฟ้องว่าจำเลยบังอาจใช้ขวดสุราตีศีร์ษะนายคำไม่มีบาดเจ็บ ขวดแตกเศษขวดกระเด็นไปถูกคอนางทิงเป็นแผลถึงบาดเจ็บ. เช่นนี้ย่อมต้องแปลว่าโจทก์มิได้ประสงค์จะฟ้องไปถึงว่าจำเลยทำร้ายนางทิงด้วยแต่พรรณาพฤติการณ์เข้ามาลอย ๆ. การที่นางทิงได้รับบาดเจ็บโดยจำเลยตั้งใจประสงค์ต่อผลหรืออาจแลเห็นผลเช่นนี้หรือไม่โจทก์ไม่ได้ระบุยืนยันเพื่อเป็นขอให้ศาลวินิจฉัย จึงไม่มีประเด็นในข้อนี้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 999/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายต่างประเทศ: ความรับผิดชอบของจำเลยต่อความเสียหายจากผิดสัญญา และการกำหนดค่าเสียหายที่เหมาะสม
โจทก์ส่งสำเนาคำแปลเอกสารพร้อมกับสำเนาคำฟ้อง โจทก์แถลงรับรองต่อศาลว่าแปลผิดไป แต่คำแปลที่ส่งพร้อมกับต้นฉบับเอกสารนั้นถูกต้อง จำเลยมิได้คัดค้านคำแปลนี้ว่าผิดพลาดประการใด จึงต้องถือคำแปลที่ส่งพร้อมกับต้นฉบับว่าถูกต้องตามความจริง
จำเลยทำสัญญาให้โจทก์สั่งผ้าจากต่างประเทศให้จำเลยโจทก์ได้จัดการสั่งให้ครบถ้วน และโจทก์ได้ทำสัญญากับบริษัทต่างประเทศด้วยแล้ว เมื่อจำเลยทำผิดสัญญากับโจทก์ ย่อมเห็นได้ว่าโจทก์ย่อมผิดสัญญากับบริษัทในต่างประเทศต้องเสียหาย จำเลยก็ต้องรับผิดในความเสียหายจำนวนนั้น
ถ้าโจทก์นำสืบค่าเสียหายไม่ได้แน่ชัดว่า การเสียหายถึงจำนวนนั้นจริงศาลก็กำหนดให้ตามที่ศาลเห็นสมควร
การคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ให้คิดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราโดยเฉลี่ยที่ธนาคารพาณิชย์ในกรุงเทพฯในวันฟ้อง
จำเลยทำสัญญาให้โจทก์สั่งผ้าจากต่างประเทศให้จำเลยโจทก์ได้จัดการสั่งให้ครบถ้วน และโจทก์ได้ทำสัญญากับบริษัทต่างประเทศด้วยแล้ว เมื่อจำเลยทำผิดสัญญากับโจทก์ ย่อมเห็นได้ว่าโจทก์ย่อมผิดสัญญากับบริษัทในต่างประเทศต้องเสียหาย จำเลยก็ต้องรับผิดในความเสียหายจำนวนนั้น
ถ้าโจทก์นำสืบค่าเสียหายไม่ได้แน่ชัดว่า การเสียหายถึงจำนวนนั้นจริงศาลก็กำหนดให้ตามที่ศาลเห็นสมควร
การคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ให้คิดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราโดยเฉลี่ยที่ธนาคารพาณิชย์ในกรุงเทพฯในวันฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 32/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องจำเลยในฐานะส่วนตัวเมื่อสัญญาเป็นของหน่วยงานราชการ จำเลยไม่ต้องรับผิดชอบเป็นการส่วนตัว
โจทก์ฟ้องเรียกค่าจ้างเหมา สร้างสุขศาลาจากจำเลย ซึ่งเป็นสาธารณสุขจังหวัด โจทก์แถลงยืนยันต่อศาลเป็นเรื่องที่โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นส่วนตัว แต่ตามคำบรรยายฟ้องและคำพยานโจทก์ได้ความชัดเจนว่าจำเลยทำสัญญาจ้างเหมาโจทก์ทำสุขศาลานั้นจำเลยเป็น่เพียงตัวแทนของกรมสาธารณสุขเท่านั้น ดังนี้จำเลยจึงหาต้องรับผิดชอบเป็นส่วนตัวไม่ ศาลต้องพิพากษายกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 272/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้เช่าช่วงไม่ยินยอมตามคำพิพากษา: ความรับผิดชอบเฉพาะตัวและขอบเขตการบังคับ
ศาลพิพากษาให้ผู้เช่าที่ดินและบริวารออกจากที่ดินที่เช่าและให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในที่ดินดังกล่าวไปให้เสร็จภายในกำหนดเวลา ดังนี้ เมื่อตัวผู้เช่าที่ดินได้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของผู้เช่าเองออกไปหมดแล้ว แต่ผู้เช่าช่วงที่ดินรายนี้ ซึ่งการเช่าช่วงไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของที่ดินจึงตกเป็นบริวารของผู้เช่าด้วยนั้น ไม่ยอมรื้อสิ่งปลูกสร้างของผู้เช่าช่วงออกไป เช่นนี้โจทก์ควรขอให้ศาลหมายเรียกผู้เช่าช่วงนั้น มาจัดการว่ากล่าวบังคับให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล เพราะเป็นเรื่องเฉพาะตัวผู้เช่าช่วง ไม่ใช่เรื่องที่ผู้เช่าขัดขืนไม่ทำตามคำบังคับของศาล ฉะนั้นจะถือว่าผู้เช่าฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำบังคับของศาลไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 517/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดชอบนายหน้าซื้อขาย: สิทธิรับค่านายหน้าแม้ผู้ซื้อผิดสัญญา
นายหน้าได้ชักนำผู้ซื้อมาตกลงทำสัญญาซื้อขายกับผู้ขายตามความประสงค์ของผู้ขายที่ได้ตกลงไว้กับนายหน้าแล้วนับว่านายหน้าได้ปฏิบัติหน้าที่ครบถ้วนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 845 แล้ว แม้ภายหลังผู้ซื้อผิดสัญญากับผู้ขาย โดยไม่มีเงินไปชำระแก่ผู้ขายก็ตาม ก็เป็นเรื่องของผู้ขายจะว่ากล่าวแก่ผู้ซื้อไม่เกี่ยวแก่นายหน้าอย่างใด ฉะนั้นนายหน้าย่อมมีสิทธิได้รับค่านายหน้าตามที่ตกลงไว้กับผู้ขาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 484/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาลักทรัพย์และการคืนทรัพย์สิน แม้ไม่มีเจตนาลักทรัพย์ก็ยังต้องรับผิดชอบในการคืนทรัพย์
ในคดีที่โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยลักทรัพย์ ขอให้ลงโทษทางอาญาและให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ด้วยนั้นแม้ศาลจะฟังว่า จำเลยเอาทรัพย์ไปจริงแต่มิได้เจตนาลักยังไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์ก็ดี ศาลก็พิพากษาให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่จำเลยเอาไปให้แก่โจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 410/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดชอบของกระทรวงกลาโหมต่อความเสียหายจากคำสั่งมอบหมายหน้าที่ให้ผู้อื่น
กระทรวงกลาโหมมีคำสั่งให้เสนาธิการทหาร และข้าหลวงประจำจังหวัดเป็นผู้อำนวยการรับรองเลี้ยงดูทหารสัมพันธมิตรส่วนภูมิภาค เมื่อเสนาธิการทหารและข้าหลวงประจำจังหวัดได้ปฏิบัติการไปตามหน้าที่แล้ว เกิดความเสียหายอย่างหนึ่งอย่างใดแก่บุคคลอื่นขึ้น กระทรวงกลาโหมก็ต้องรับผิดชอบตามความในป.ม.แพ่งฯ มาตรา 76 วรรคต้น ส่วนเสนาธิการทหารและข้าหลวงประจำจังหวัดไม่ต้องรับผิดชอบ ตามนัยของวรรค 2 แห่งมาตรา 76 นั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ธนาคารมีหน้าที่พิสูจน์ความถูกต้องของลายมือชื่อในเช็ค หากพิสูจน์ไม่ได้ ธนาคารต้องรับผิดชอบ
ธนาคารจ่ายเงินให้แก่ผู้ทรงเช็คไปตามเช็คที่มีลายเซ็นชื่อผู้เคยค้าเป็นผู้สั่งจ่าย เมื่อผู้เคยค้ามาฟ้องธนาคารอ้างว่าตนไม่ได้เซ็นสั่งจ่ายในเช็คดังกล่าวแล้ว ให้ธนาคารรับผิดชอบในจำนวนเงินที่ธนาคารจ่ายไปนั้น ธนาคารมีหน้าที่สืบแสดงว่าลายเซ็นสั่งจ่ายในเช็คเป็นลายเซ็นของผู้เคยค้าจริง ถ้าสืบไม่ได้ธนาคาร ก็ต้องรับผิดชอบในเงินจำนวนที่จ่ายไปนั้นและจะหักเงินนั้นจากบัญชีเดินสพัดของผู้เคยค้าไม่ได้