พบผลลัพธ์ทั้งหมด 790 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3865/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทิ้งฟ้องเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลเรื่องการส่งสำเนาคำฟ้องและหมายนัด การนับระยะเวลาตามคำสั่งศาล
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในคำฟ้องว่านัดไต่สวนมูลฟ้องให้โจทก์นำส่งสำเนาคำฟ้องและหมายนัดให้จำเลยส่งไม่ได้ให้แถลงภายใน7วันมิฉะนั้นถือว่าทิ้งฟ้องกำหนด7วันดังกล่าวแม้จะไม่ระบุให้ชัดว่านับแต่วันใดก็มีความหมายชัดเจนอยู่ในตัวแล้วว่าในแถลงใน7วันนับแต่วันส่งสำเนาคำฟ้องและหมายนัดไม่ได้หาใช่นับแต่วันที่เจ้าพนักงานเดินหมายรายงานผลการส่งหมายต่อศาลไม่เมื่อโจทก์ไม่แถลงต่อศาลใน7วันนับแต่วันส่งไม่ได้ตามคำสั่งศาลจึงเป็นการทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา174(2)ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา15ศาลชั้นต้นย่อมมีอำนาจที่จะสั่งให้จำหน่ายคดีได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา132(1)ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา15
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3467/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อุทธรณ์คำสั่งศาลระหว่างพิจารณา ทำให้เสียสิทธิอุทธรณ์ในภายหลัง
โจทก์ยื่นคำร้องฉบับแรกขอให้เรียกบิดามารดาจำเลยเข้ามาเป็นจำเลยร่วม ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องซึ่งเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา การที่โจทก์ยื่นคำร้องฉบับที่ 2 ซึ่งมีข้อความอย่างเดียวกับคำร้องฉบับแรกโดยมิได้โต้แย้งคำสั่งของศาลชั้นต้นแต่ประการใด ถือไม่ได้ว่ามีการโต้แย้งคัดค้านคำสั่งแล้ว โจทก์จึงไม่มีสิทธิจะอุทธรณ์คำสั่งนั้นได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 226
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3368/2537 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนรายการจดทะเบียนที่ดินหลังศาลมีคำสั่งให้พิจารณาคดีใหม่ การจดทะเบียนเดิมขัดต่อคำสั่งศาล
การที่เจ้าพนักงานที่ดินจดทะเบียนลงชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินพิพาท เป็นการปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลในชั้นที่พิจารณาคดีโดยจำเลยขาดนัดและถือเป็นวิธีการบังคับคดีที่ได้ดำเนินไปแล้ว เมื่อศาลมีคำสั่งให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่แล้ว การจดทะเบียนลงชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินพิพาท จึงต้องถูกเพิกถอนตาม ป.วิ.พ. มาตรา 209วรรคแรก เมื่อจำเลยมีคำขอให้ศาลเพิกถอนรายการจดทะเบียนดังกล่าวมาด้วยแล้ว ศาลจึงมีอำนาจสั่งให้เจ้าพนักงานที่ดินเพิกถอนรายการจดทะเบียนลงชื่อโจทก์ในโฉนดที่ดินพิพาทนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3365/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์คำสั่งศาล: ไม่อาจใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งบังคับใช้ในคดีอาญา
การอุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งศาลชั้นต้นในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายมีบัญญัติไว้โดยชัดแจ้งใน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 193 วรรคแรก จึงจะนำ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 223 ทวิ มาอนุโลมบังคับใช้หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3365/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นต้องผ่านศาลอุทธรณ์ก่อน ไม่อาจอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาโดยตรง
การอุทธรณ์คำพิพากษา หรือคำสั่งศาลชั้นต้นในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายมีบัญญัติไว้โดยชัดแจ้งในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 วรรคแรกแล้วว่าให้อุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์ จึงจะนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ มาอนุโลมบังคับใช้หาได้ไม่ การที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์อุทธรณ์คำสั่งยกฟ้องของศาลชั้นต้นโดยตรงมายังศาลฎีกาจึงเป็นการไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2981/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อนุญาตซักค้านพยานในคดีตั้งผู้จัดการมรดก ศาลมีดุลพินิจในการพิจารณาคำร้องและไม่ชอบด้วยกฎหมายหากไม่ได้โต้แย้งคำสั่ง
คดีร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก ประเด็นมีเพียงว่า สมควรตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายหรือไม่ การที่จะซักค้านพยานผู้ร้องในเรื่องเกี่ยวกับการจัดการมรดกเดิมและการจะจัดการมรดกต่อไปอย่างไรนั้น จึงไม่เป็นประโยชน์แก่การวินิจฉัยคดีประกอบกับการที่ศาลจะตั้งผู้ใดเป็นผู้จัดการมรดกเป็นดุลพินิจของศาลโดยเฉพาะ ดังนั้น ที่ศาลไม่อนุญาตให้ผู้คัดค้านซักค้านพยานผู้ร้องในเรื่องดังกล่าวนั้นชอบแล้ว คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้ผู้คัดค้านซักค้านพยานผู้ร้องเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา เมื่อผู้คัดค้านไม่ได้โต้แย้งคำสั่งไว้ จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(1) ประกอบมาตรา 247
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2838/2537 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผิดนัดชำระค่าปรับตามคำสั่งศาลและการหมดอายุสิทธิบังคับคดี
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ปรับผู้ประกันตามสัญญาประกันและอนุญาตให้ผ่อนชำระค่าปรับเดือนละ 3,000 บาท แต่ผู้ประกันมิได้ชำระค่าปรับต่อศาลตั้งแต่เดือนแรกและตลอดมา การที่ผู้ประกันไม่ชำระค่าปรับตามที่ศาลมีคำสั่งให้ผ่อนชำระแม้แต่เพียงเดือนแรก ผู้ประกันย่อมตกเป็นผู้ผิดนัดชำระค่าปรับตามคำสั่งศาลทั้งหมด พนักงานอัยการจึงมีอำนาจที่จะดำเนินการในการบังคับคดีให้เป็นไปตามสัญญาประกัน โดยขอให้ศาลบังคับให้ผู้ประกันชำระค่าปรับทั้งหมดได้ทันทีนับแต่วันที่ผู้ประกันผิดนัด แต่ทั้งนี้ก็จะต้องร้องขอให้บังคับคดีตามคำสั่งศาลที่สั่งปรับผู้ประกันภายใน 10 ปี นับแต่วันมีคำสั่ง เมื่อพนักงานอัยการร้องขอต่อศาลให้ออกหมายบังคับคดีเกินกว่า 10 ปี นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งปรับผู้ประกัน สิทธิในการบังคับคดีของพนักงานอัยการย่อมเป็นอันสิ้นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 15 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 256/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขออายัดทรัพย์ระหว่างพิจารณาคดี: การฎีกาคำสั่งไม่อายัดหลังศาลชั้นต้นพิพากษาแล้วเป็นอันไม่เกิดประโยชน์
หากโจทก์ประสงค์ที่จะขอให้อายัดที่ดินพิพาทไว้ชั่วคราวระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา โจทก์ชอบที่จะยื่นคำร้องโดยเฉพาะต่อศาลชั้นต้นหรือศาลฎีกา การที่โจทก์ฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ไม่สั่งให้อายัดที่ดินพิพาทตามคำร้องขอให้อายัดที่ดินพิพาทไว้ชั่วคราวซึ่งได้ยื่นไว้ในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้นเมื่อปรากฏว่าศาลชั้นต้นได้พิพากษาคดีโดยให้ยกฟ้องโจทก์แล้ว จึงไม่มีประโยชน์ที่จะวินิจฉัยปัญหาที่โจทก์ฎีกาต่อไป ศาลฎีกาย่อมให้จำหน่ายคดีจากสารบบความของศาลฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2279/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดอกเบี้ยจากการเพิกถอนการโอนทรัพย์ในคดีล้มละลาย เริ่มนับแต่วันศาลมีคำสั่งเพิกถอน ไม่ใช่วันยื่นคำร้อง
คดีที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ร้องขอให้เพิกถอนการโอนที่ดินระหว่างบุคคลล้มละลายกับบุคคลภายนอก หากศาลมีคำสั่งให้เพิกถอนการโอน และให้บุคคลภายนอกโอนที่ดินสู่กองทรัพย์สินของบุคคลล้มละลายถ้าไม่สามารถโอนได้ให้ใช้ราคาแทนพร้อมดอกเบี้ยนั้น ให้คิดดอกเบี้ยนับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งให้เพิกถอนการโอน มิใช่นับแต่วันที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยื่นคำร้องขอเพิกถอนการโอน เพราะตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำสั่งหรือคำพิพากษาให้เพิกถอนการโอน ถือว่าเป็นการโอนโดยชอบอยู่และยังถือไม่ได้ว่ามีการผิดนัดนับแต่วันยื่นคำร้องขอให้เพิกถอน และปัญหาว่าผู้ร้องมีสิทธิคิดดอกเบี้ยนับแต่เมื่อใดเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลยกขึ้นวินิจฉัยเองได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2163/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทิ้งฟ้องฎีกาเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล และผลกระทบต่อการเป็นผู้จัดการมรดกหลังการเสียชีวิต
ศาลชั้นต้นสั่งให้ผู้คัดค้านที่ 2 นำส่งสำเนาฎีกาให้ผู้ร้องภายใน 7 วัน โดยมีคำสั่งในวันเดียวกับวันที่ผู้คัดค้านที่ 2ยื่นฎีกา จึงถือว่าผู้คัดค้านที่ 2 ได้ทราบคำสั่งศาลชั้นต้นแล้วเมื่อผู้คัดค้านที่ 2 ไม่นำส่งสำเนาฎีกาตามคำสั่งของศาลชั้นต้นถือว่าผู้คัดค้านที่ 2 ทิ้งฎีกา สำหรับผู้ร้อง ผู้คัดค้านที่ 2 ได้รับแต่งตั้งจากศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ให้เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายร่วมกับผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ 1ต่อมาผู้คัดค้านที่ 1 ขอให้เพิกถอนคำสั่งตั้งผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ 2 เป็นผู้จัดการมรดกร่วมกับผู้คัดค้านที่ 1 เมื่อผู้คัดค้านที่ 2 ถึงแก่กรรมในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาคำสั่งของศาลที่แต่งตั้งให้ผู้คัดค้านที่ 2 เป็นผู้จัดการมรดกจึงไม่มีผลต่อไปและการเป็นผู้จัดการมรดกเป็นการเฉพาะตัวของผู้คัดค้านที่ 2 จะรับมรดกความกันไม่ได้