คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ค่าธรรมเนียม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 515 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2758/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งอุทธรณ์และการขยายเวลาวางค่าธรรมเนียม ศาลอุทธรณ์มีอำนาจวินิจฉัยพฤติการณ์พิเศษได้
ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยที่1นำส่งสำเนาอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของตนให้แก่โจทก์จำเลยที่1นำส่งแล้วแต่ส่งไม่ได้และต่อมาได้แถลงต่อศาลว่ากระบวนพิจารณาอยู่ในขั้นตอนระหว่างศาลกับจำเลยที่1ไม่เกี่ยวข้องกับโจทก์ขอให้ส่งอุทธรณ์คำสั่งไปยังศาลอุทธรณ์ต่อมาศาลสั่งให้จำเลยที่1นำส่งใหม่แต่มิได้กำหนดเวลาให้นำส่งภายในกี่วันจำเลยที่1ไปติดต่อนำส่งหมายเมื่อพ้น7วันซึ่งเป็นระยะเวลาที่กำหนดไว้ในหมายดังนี้คำแถลงของจำเลยที่1มิได้ยืนยันว่าจะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลพฤติการณ์ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยที่1ทิ้งอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยที่1เพราะจำเลยที่1มิได้นำเงินค่าธรรมเนียมมาวางศาลภายในกำหนดศาลอุทธรณ์พิพากษากลับอนุญาตให้จำเลยที่1ผัดการวางเงินค่าธรรมเนียมแล้วให้ศาลชั้นต้นตรวจอุทธรณ์มีคำสั่งใหม่คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์มิได้พิจารณาเนื้อหาในอุทธรณ์จึงมิใช่คำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นหรือมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์อันจะถึงที่สุดตามมาตรา236คู่ความจึงฎีกาได้ เมื่อศาลชั้นต้นรับอุทธรณ์แล้วก็เป็นอำนาจหน้าที่ของศาลอุทธรณ์ที่จะวินิจฉัยว่ามีการทิ้งอุทธรณ์หรือไม่เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยที่1มิได้ทิ้งอุทธรณ์ก็ย่อมมีอำนาจวินิจฉัยต่อไปถึงพฤติการณ์พิเศษที่จะให้ขยายระยะเวลาการวางเงินค่าธรรมเนียมให้จำเลยที่1ตามคำร้องได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1001/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดทรัพย์ชั่วคราวก่อนพิพากษาที่ถูกบังคับคดีโดยเจ้าหนี้รายอื่น โจทก์ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมยึดทรัพย์
โจทก์ขอให้ศาลชั้นต้นยึดที่ดินของจำเลยที่ 1 ไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษาแล้วต่อมาศาลแพ่งได้ยึดที่ดินแปลงดังกล่าวตามคำขอของโจทก์ในคดีของศาลแพ่ง และเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขายทอดตลาดที่ดินแปลงดังกล่าวไปตามหมายบังคับคดีของศาลแพ่งนั้น เป็นเรื่องที่โจทก์ในคดีของศาลแพ่งใช้สิทธิที่เหนือกว่าในฐานเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาบังคับคดีเอาแก่ที่ดินแปลงดังกล่าวไปก่อน และถือได้ว่าการยึดที่ดินแปลงดังกล่าวไว้ชั่วคราวตามคำขอของโจทก์เป็นอันยกเลิกไปในตัว เพราะเป็นการพ้นวิสัยที่โจทก์จะบังคับคดีเอาแก่ที่ดินแปลงนั้นต่อไปได้ ทั้งโจทก์ในคดีของศาลแพ่งก็ย่อมต้องเสียค่าธรรมเนียมขายทอดตลาดที่ดินแปลงดังกล่าวอยู่แล้ว โจทก์คดีนี้จึงไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมยึดแล้วไม่มีการขายสำหรับที่ดินแปลงเดียวกันนี้อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1001/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเหนือกว่าการยึดชั่วคราว การเสียค่าธรรมเนียมยึดทรัพย์ซ้ำซ้อน
โจทก์ขอให้ศาลชั้นต้นยึดที่ดินของจำเลยที่1ไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษาแล้วต่อมาศาลแพ่งได้ยึดที่ดินแปลงดังกล่าวตามคำขอของโจทก์ในคดีของศาลแพ่งและเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขายทอดตลาดที่ดินแปลงดังกล่าวไปตามหมายบังคับคดีของศาลแพ่งนั้นเป็นเรื่องที่โจทก์ในคดีของศาลแพ่งใช้สิทธิที่เหนือกว่าในฐานเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาบังคับคดีเอาแก่ที่ดินแปลงดังกล่าวไปก่อนและถือได้ว่าการยึดที่ดินแปลงดังกล่าวไว้ชั่วคราวตามคำขอของโจทก์เป็นอันยกเลิกไปในตัวเพราะเป็นการพ้นวิสัยที่โจทก์จะบังคับคดีเอาแก่ที่ดินแปลงนั้นต่อไปได้ทั้งโจทก์ในคดีของศาลแพ่งก็ย่อมต้องเสียค่าธรรมเนียมขายทอดตลาดที่ดินแปลงดังกล่าวอยู่แล้วโจทก์คดีนี้จึงไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมยึดแล้วไม่มีการขายสำหรับที่ดินแปลงเดียวกันนี้อีก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4581/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีจดทะเบียนสมรส: การบรรยายชื่อตำแหน่งนายทะเบียน และสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
ปัญหาว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องระบุชื่อจำเลยที่ 2 ในฐานะนายทะเบียนครอบครัว ต้องฟ้องนายทะเบียนระบุตำแหน่งโดยตรงนั้น เป็นเรื่องการบรรยายฟ้องระบุชื่อบุคคลและตำแหน่งมาพร้อมกัน ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ จำเลยที่ 2 มิได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในคำให้การ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
นายทะเบียนไม่ยอมรับจดทะเบียนสมรสให้โจทก์พระราชบัญญัติ จดทะเบียนครอบครัว พุทธศักราช 2478 ให้สิทธิแก่โจทก์ที่จะยื่นคำร้อง ต่อศาลโดยได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลไม่จำต้องปฏิบัติตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยค่าธรรมเนียมตาม ตารางท้ายประมวลกฎหมายนั้นมิได้เป็นบทบังคับเด็ดขาด แต่เป็นการให้สิทธิแก่โจทก์เป็นกรณีพิเศษจึงไม่ตัดสิทธิของโจทก์ ที่มีอยู่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 เมื่อโจทก์กล่าวอ้างว่าจำเลยจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำต่อ โจทก์ทั้งสองโดยผิดกฎหมาย ให้โจทก์เสียสิทธิที่จะได้จดทะเบียนสมรสกันซึ่งจำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ต้องปฏิบัติ แต่ไม่ปฏิบัติอันเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ทั้งสอง ถือได้ว่ามีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลตามกฎหมายแพ่ง โจทก์ย่อมฟ้องจำเลยเป็นคดีมีข้อพิพาทตามบทกฎหมายดังกล่าวได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4581/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีจดทะเบียนสมรส: การระบุตำแหน่งนายทะเบียน และสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
ปัญหาว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องระบุชื่อจำเลยที่ 2 ในฐานะนายทะเบียนครอบครัว ต้องฟ้องนายทะเบียนระบุตำแหน่งโดยตรงนั้นเป็นเรื่องการบรรยายฟ้องระบุชื่อบุคคลและตำแหน่งมาพร้อมกันชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ จำเลยที่ 2 มิได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในคำให้การ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้ นายทะเบียนไม่ยอมรับจดทะเบียนสมรสให้โจทก์พระราชบัญญัติ จดทะเบียนครอบครัว พุทธศักราช 2478 ให้สิทธิแก่โจทก์ที่จะยื่นคำร้อง ต่อศาลโดยได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลไม่จำต้องปฏิบัติตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยค่าธรรมเนียมตาม ตารางท้ายประมวลกฎหมายนั้นมิได้เป็นบทบังคับเด็ดขาด แต่เป็น การให้สิทธิแก่โจทก์เป็นกรณีพิเศษจึงไม่ตัดสิทธิของโจทก์ ที่มีอยู่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 เมื่อโจทก์กล่าวอ้างว่าจำเลยจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำต่อ โจทก์ทั้งสองโดยผิดกฎหมาย ให้โจทก์เสียสิทธิที่จะได้ จดทะเบียนสมรสกันซึ่งจำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ต้องปฏิบัติ แต่ไม่ปฏิบัติอันเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ทั้งสอง ถือได้ว่ามีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลตามกฎหมายแพ่ง โจทก์ย่อมฟ้องจำเลยเป็นคดีมีข้อพิพาทตามบทกฎหมายดังกล่าวได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4052/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อุทธรณ์ไม่ชอบ หากไม่วางค่าธรรมเนียมพร้อมกัน ศาลไม่ต้องขยายเวลา และไม่ใช่เรื่องค่าธรรมเนียมศาล
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 บัญญัติ ให้ผู้อุทธรณ์ต้องนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่ง ตามคำพิพากษามาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์ จำเลยยื่นอุทธรณ์โดยมิได้ นำเงินค่าธรรมเนียมที่จะต้องใช้แทนโจทก์มาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์ ย่อมเป็นการไม่ชอบ
ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยไปแล้ว การที่จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมดังกล่าวมาวางศาลภายหลังเมื่อเกินกำหนด อายุอุทธรณ์แล้ว จะถือว่าศาลได้ขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียม ให้แก่จำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 หาได้ไม่ และกรณีไม่ใช่เรื่องของการมิได้ชำระหรือวางค่าธรรมเนียมศาล โดยถูกต้องครบถ้วนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 ซึ่งศาลจะต้องสั่งให้ชำระหรือวางค่าธรรมเนียมศาลให้ถูกต้องครบถ้วน เสียก่อนที่จะสั่งรับหรือไม่รับคำคู่ความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4052/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อุทธรณ์ต้องวางค่าธรรมเนียมพร้อมกัน หากไม่วางศาลไม่รับอุทธรณ์ การวางภายหลังอายุความมิชอบ
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 บัญญัติ ให้ผู้อุทธรณ์ต้องนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่ง ตามคำพิพากษามาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์จำเลยยื่นอุทธรณ์โดยมิได้ นำเงินค่าธรรมเนียมที่จะต้องใช้แทนโจทก์มาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์ ย่อมเป็นการไม่ชอบ
ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยไปแล้วการที่จำเลย นำเงินค่าธรรมเนียมดังกล่าวมาวางศาลภายหลังเมื่อเกินกำหนด อายุอุทธรณ์แล้ว จะถือว่าศาลได้ขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียม ให้แก่จำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 หาได้ไม่ และกรณีไม่ใช่เรื่องของการมิได้ชำระหรือวางค่าธรรมเนียมศาล โดยถูกต้องครบถ้วนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18ซึ่งศาลจะต้องสั่งให้ชำระหรือวางค่าธรรมเนียมศาลให้ถูกต้องครบถ้วน เสียก่อนที่จะสั่งรับหรือไม่รับคำคู่ความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 271/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเรียกรับเงินค่าธรรมเนียมฟ้องด่วนโดยไม่มีกฎหมายรองรับของเจ้าหน้าที่ศาล ถือเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อย ละเมิดอำนาจศาล
การที่ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งเป็นนักการที่ทำการอัยการจังหวัดพังงาและเป็นผู้นำตัวจำเลยมาศาลพร้อมกับคำฟ้อง ได้เรียกและรับเงินไปจากจำเลย โดยอ้างว่าเป็นค่าธรรมเนียมในการฟ้องด่วนนั้น ไม่มีกฎหมายสนับสนุนให้กระทำได้ เห็นได้ว่า เป็นการแสวงหาประโยชน์อันมิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองโดยแท้ เมื่อผู้ถูกกล่าวหาเรียกและรับเงินที่ห้องพักอัยการซึ่งอยู่บริเวณศาล จึงเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล อันเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 31(1) ทั้งนี้โดยมิต้องคำนึงว่าผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาจะให้มีผลกระทบถึงศาลหรือไม่หรือการกระทำดังกล่าวจะมีผลทำให้ศาลได้รับความเสียหายหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3333/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไต่สวนคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความและการยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ฟ้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถา
หากศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องฟ้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถาได้ผู้ร้องก็จะได้รับยกเว้นไม่ต้องนำเงินค่าธรรมเนียมมาวางศาลเพื่อใช้แทนผู้ชนะคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ส่วนค่าฤชาธรรมเนียมที่จะต้อง ชำระเกี่ยวกับคำฟ้องอุทธรณ์ที่ผู้ร้องยื่นต่อศาลนั้น ผู้ร้องก็ยังไม่มีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องชำระในชั้นนี้ การที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ผู้ร้องนำค่าฤชาธรรมเนียมมาชำระก่อนจึงค่อยกำหนดนัดไต่สวนคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความ แทนที่ จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
นางส.ร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ผู้เป็นมารดา ทรัพย์สินที่อาจได้มาตามคำพิพากษาซึ่งจะตกได้แก่ผู้ร้องก็จะเป็นสินส่วนตัวของผู้ร้อง มิใช่เป็นสินสมรสระหว่างผู้ร้องกับสามี กรณีจึงมิใช่เป็นกรณีที่ผู้ร้องเข้า ไปจัดการ สินสมรสอันจะต้องจัดการร่วมกับสามี หรือต้องได้รับความยินยอมจากสามีตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1476,1477, และ 1478

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3224-3225/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าหน้าที่เบียดบังเงินค่าธรรมเนียมจากการจดทะเบียนที่ดิน ความผิดมาตรา 147 และการลงโทษกรรมเดียว
จำเลยมีหน้าที่รับคำขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมการรับโอนมรดกและการซื้อขายที่ดิน ตลอดจนมีหน้าที่เก็บเงินค่าธรรมเนียมแล้วรวบรวมส่งมอบให้เจ้าหน้าที่การเงิน การที่จำเลยรับเงินค่าธรรมเนียมไว้แล้วไม่รวบรวมส่งมอบแก่เจ้าหน้าที่การเงินตามหน้าที่ แต่กลับเบียดบังเอาไว้เป็นของตน จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 กรณีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 นี้ เป็นบทบัญญัติที่เอาผิดแก่เจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานที่เบียดบังเอาทรัพย์ที่ตนได้มา หรือถือเอาไว้เพื่อจัดการตามหน้าที่ มิใช่เอาผิดเฉพาะว่าทรัพย์นั้นจะต้องเป็นกรรมสิทธิ์ของทางราชการหรือของรัฐเท่านั้น
การที่จำเลยปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมโดยมีเจตนาที่จะใช้เป็นหลักฐานในการเบียดบังเงินค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องลงโทษจำเลยฐานเบียดบังเงินค่าธรรมเนียม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 อันเป็นบทหนักที่สุด
of 52