คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ค่าปรับ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 401 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2339/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเสียหายจากการผิดสัญญาซื้อขายที่ดิน ศาลพิจารณาจากราคาตลาดและค่าปรับที่สมเหตุสมผล
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยฐานผิดสัญญาไม่ขายที่ดินให้โจทก์ โดยคำนวณจากผลกำไรทั้งหมดซึ่งโจทก์คาดหมายว่าจะขายที่ดินได้ในราคาสูงกว่าราคาที่ซื้อจากจำเลย แต่ความเสียหายที่โจทก์เรียกร้องนั้นเป็นเพียงความหวังของโจทก์โจทก์จะขายที่ดินได้ในราคานั้นหรือไม่ ไม่เป็นที่แน่นอน ยังฟังไม่ได้ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษ แต่ที่ดินที่จะซื้อขายมีทางหลวงตัดผ่านไป พอคาดหมายได้ว่าต้องมีราคาเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นความเสียหายเช่นที่ตามปกติย่อมเกิดขึ้นจากการไม่ชำระหนี้ของจำเลย ศาลมีอำนาจกำหนดค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายให้ตามที่เห็นสมควร
แม้ศาลชั้นต้นจะใช้ดุลพินิจพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ไม่เหมาะสม จำเลยก็จะร้องมาในคำแก้อุทธรณ์และคำแก้ฎีกาเพื่อให้แก้ไขคำพิพากษาศาลล่างโดยมิได้อุทธรณ์ฎีกาหาได้ไม่ แต่ศาลฎีกามีอำนาจที่จะสั่งในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมตลอดไปถึงของศาลล่างด้วย หากเห็นเป็นการสมควร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1857/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีถึงที่สุดแม้มีการถอนคำร้องทุกข์ ค่าปรับยังต้องชำระ
คดีอาญาที่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง แม้จำเลยจะยื่นฎีกาไว้แต่ในที่สุดศาลฎีกามีคำสั่งไม่รับฎีกา ต้องถือว่าคดีถึงที่สุดเมื่อระยะเวลายื่นฎีกาได้สิ้นสุดลงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 147 วรรคสอง
ผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์หลังจากคดีถึงที่สุดไปแล้ว ย่อมไม่เป็นผลให้คดีระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ยังใช้บังคับอยู่เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษปรับจำเลย จำเลยมายื่นคำร้องขอคืนค่าปรับโดยอ้างเหตุว่าผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์แล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะสั่งคืนค่าปรับให้จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1857/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีถึงที่สุดแล้ว การถอนคำร้องทุกข์ไม่ทำให้คดีระงับ การคืนค่าปรับเป็นไปไม่ได้
คดีอาญาที่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง แม้จำเลยจะยื่นฎีกาไว้ แต่ในที่สุดศาลฎีกามีคำสั่งไม่รับฎีกา ต้องถือว่าคดีถึงที่สุดเมื่อระยะเวลายื่นฎีกาได้สิ้นสุดลงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 147 วรรคสอง
ผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์หลังจากคดีถึงที่สุดไปแล้ว ย่อมไม่เป็นผลให้คดีระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ยังใช้บังคับอยู่เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษปรับจำเลย จำเลยมายื่นคำร้องขอคืนค่าปรับโดยอ้างเหตุว่าผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์แล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะสั่งคืนค่าปรับให้จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3337/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้รับรองหลักทรัพย์มีหน้าที่ชำระค่าปรับเมื่อผู้ทำสัญญาประกันผิดนัดและทรัพย์สินไม่พอชำระ ศาลต้องออกคำบังคับก่อนยึดทรัพย์
ผู้รับรองหลักทรัพย์ได้รับรองหลักทรัพย์ของผู้ทำสัญญาประกันไว้ว่า ขอรับรองว่าหลักทรัพย์ที่ผู้ทำสัญญาประกันเสนอมานี้มีจริงถ้าไม่มีหรือไม่พอ ผู้รับรองหลักทรัพย์ยอมใช้ให้จนครบถ้วน เช่นนี้ผู้รับรองหลักทรัพย์ยอมผูกพันตนเข้าเป็นผู้ค้ำประกันผู้ทำสัญญาประกันในอันที่จะชำระค่าปรับ เมื่อศาลสั่งปรับผู้ทำสัญญาประกันและทรัพย์สินของผู้ทำสัญญาประกันมีไม่พอชำระค่าปรับ ขาดอยู่เท่าใดผู้รับรองหลักทรัพย์ต้องรับผิดในจำนวนค่าปรับที่ขาดอยู่นั้น ดังนั้นเมื่อผู้ทำสัญญาประกันผิดสัญญาประกัน จนศาลสั่งปรับตามสัญญาประกัน และเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์และขายทอดตลาดทรัพย์ของผู้ทำสัญญาประกันตามคำสั่งศาล.ยังไม่หมด ยังไม่ทราบว่าผู้ทำสัญญาประกันค้างชำระค่าปรับเท่าใด การที่ศาลชั้นต้นด่วนสั่งให้ยึดทรัพย์และอายัดสิทธิเรียกร้องของผู้รับรองหลักทรัพย์ที่มีต่อบุคคลภายนอก โดยมิได้ออกคำบังคับแจ้งให้ผู้รับรองหลักทรัพย์ทราบว่าจะต้องชำระค่าปรับเท่าใด ภายในกำหนดเวลาเท่าใดเสียก่อน จึงเป็นการมิชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2511/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เลิกสัญญาซื้อขายแล้ว โจทก์ขอบังคับเรียกค่าปรับ/โอนกรรมสิทธิ์ไม่ได้ ค่าเสียหายพิเศษ/ดอกเบี้ยจำเลยไม่ต้องรับผิด
เมื่อทั้งโจทก์และจำเลยต่างสมัครใจตกลงเลิกสัญญาจะซื้อขายที่พิพาทกันแล้ว โจทก์จะมาขอให้ศาลบังคับเรียกค่าปรับจากจำเลยและขอให้จำเลยจัดการโอนที่ดินพิพาทขายให้แก่โจทก์ในภายหลังอีกหาได้ไม่
จำเลยจะฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายเพราะต้องถูกริบเงินมัดจำตามสัญญาโอนสิทธิการเช่าตึกแก่บุคคลภายนอกซึ่งเป็นค่าเสียหายพิเศษที่โจทก์ไม่อาจจะคาดคิด หาได้ไม่
ดอกเบี้ยที่จำเลยต้องเสียให้แก่ธนาคาร ไม่ว่าจะมีการเลิกสัญญาซื้อขายที่พิพาทหรือไม่นั้น มิใช่ค่าเสียหายโดยตรงอันเนื่องมาจากการผิดสัญญาอันจำเลยจะเรียกร้องจากโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2511/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เลิกสัญญาสัญญาซื้อขายแล้ว โจทก์ขอเรียกค่าปรับ/บังคับโอนไม่ได้ ค่าเสียหายพิเศษ/ดอกเบี้ย จำเลยไม่ต้องรับผิด
เมื่อทั้งโจทก์และจำเลยต่างสมัครใจตกลงเลิกสัญญาจะซื้อขายที่พิพาทกันแล้ว โจทก์จะมาขอให้ศาลบังคับเรียกค่าปรับจากจำเลยและขอให้จำเลยจัดการโอนที่ดินพิพาทขายให้แก่โจทก์ในภายหลังอีกหาได้ไม่
จำเลยจะฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายเพราะต้องถูกริบเงินมัดจำตามสัญญาโอนสิทธิการเช่าตึกแก่บุคคลภายนอกซึ่งเป็นค่าเสียหายพิเศษที่โจทก์ไม่อาจจะคาดคิดหาได้ไม่
ดอกเบี้ยที่จำเลยต้องเสียให้แก่ธนาคาร ไม่ว่าจะมีการเลิกสัญญาซื้อขายที่พิพาทหรือไม่นั้น มิใช่ค่าเสียหายโดยตรงอันเนื่องมาจากการผิดสัญญาอันจำเลยจะเรียกร้องจากโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2100/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระงับข้อพิพาทด้วยการชำระค่าปรับ การเรียกร้องเพิ่มเติมต้องมีการสงวนสิทธิ
โจทก์เป็นฝ่ายตั้งจำนวนเบี้ยปรับเรียกร้องมาเอง โดยตั้งใจจะปรับจำเลยเพียงเท่านั้น จำเลยก็ยอมชำระไปตามนั้น เรื่องเบี้ยปรับเป็นอันระงับสิ้นไป ถือว่าคู่กรณีไม่มีเจตนาจะเรียกร้องเอาเบี้ยปรับจากกันอีก
ถ้าโจทก์ถือว่าจำนวนเบี้ยปรับที่เรียกปรับแล้วเป็นแต่เพียงบางส่วนจะต้องมีการเรียกเพิ่มขึ้นอีกภายหน้า โจทก์จะต้องแสดงสงวนสิทธิเช่นนี้ไว้ มิฉะนั้นจะรื้อฟื้นเรียกร้องเบี้ยปรับซึ่งระงับเสร็จสิ้นกันไปแล้วเพิ่มเติมอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2100/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระงับหนี้จากการชำระค่าปรับตามสัญญา แม้จะคำนวณผิดพลาด โจทก์ต้องแสดงสงวนสิทธิหากต้องการเรียกร้องเพิ่มเติม
โจทก์เป็นฝ่ายตั้งจำนวนเบี้ยปรับเรียกร้องมาเอง โดยตั้งใจจะปรับจำเลยเพียงเท่านั้น จำเลยก็ยอมชำระไปตามนั้น เรื่องเบี้ยปรับเป็นอันระงับสิ้นไป ถือว่าคู่กรณีไม่มีเจตนาจะเรียกร้องเอาเบี้ยปรับจากกันอีก
ถ้าโจทก์ถือว่าจำนวนเบี้ยปรับที่เรียกปรับแล้วเป็นแต่เพียงบางส่วนจะต้องมีการเรียกเพิ่มขึ้นอีกภายหน้า โจทก์จะต้องแสดงสงวนสิทธิเช่นนี้ไว้ มิฉะนั้นจะรื้อฟื้นเรียกร้องเบี้ยปรับซึ่งระงับเสร็จสิ้นกันไปแล้วเพิ่มเติมอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1044/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมรับชำระหนี้โดยไม่สงวนสิทธิ แม้จะมีการตกลงเรื่องค่าปรับ ย่อมทำให้สิทธิเรียกร้องค่าปรับนั้นสิ้นสุดลง
ทำสัญญาประนีประนอมยอมความและศาลมีคำพิพากษาตามยอมซึ่งมีใจความว่าโจทก์ต้องสร้างตึกให้เสร็จภายในกำหนด 1 ปี และให้จำเลยเข้าอยู่ได้ภายในกำหนดนี้ด้วยถ้าจำเลยเข้าอยู่ไม่ได้ภายในกำหนดดังกล่าวนั้น โจทก์ยอมให้จำเลยปรับ ดังนี้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยได้ยอมเข้าอยู่ในตึกพิพาทแม้จะช้ากว่ากำหนดที่กล่าวไว้ อันเป็นการยอมรับชำระหนี้ โดยจำเลยมิได้บอกสงวนสิทธิที่จะเรียกเอาเบี้ยปรับ จำเลยจึงหมดสิทธิที่จะเรียกเอาค่าปรับจากโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 381

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1044/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมรับชำระหนี้โดยไม่สงวนสิทธิ แม้จะมีการกำหนดค่าปรับไว้ก่อนหน้า ย่อมทำให้สิทธิเรียกร้องค่าปรับนั้นสิ้นสุดลง
ทำสัญญาประนีประนอมยอมความและศาลมีคำพิพากษาตามยอมซึ่งมีใจความว่าโจทก์ต้องสร้างตึกให้เสร็จภายในกำหนด 1 ปีและให้จำเลยเข้าอยู่ได้ภายในกำหนดนี้ด้วยถ้าจำเลยเข้าอยู่ไม่ได้ภายในกำหนดดังกล่าวนั้น โจทก์ยอมให้จำเลยปรับ ดังนี้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยได้ยอมเข้าอยู่ในตึกพิพาทแม้จะช้ากว่ากำหนดที่กล่าวไว้ อันเป็นการยอมรับชำระหนี้ โดยจำเลยมิได้บอกสงวนสิทธิที่จะเรียกเอาเบี้ยปรับ จำเลยจึงหมดสิทธิที่จะเรียกเอาค่าปรับจากโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 381
of 41