พบผลลัพธ์ทั้งหมด 632 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5590/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายข้าวสาร/ข้าวเปลือกที่จำนำไว้ ไม่ถือเป็นการจำนำเพื่อประกันการชำระหนี้ และไม่มีเจตนาทุจริต
จำเลยนำข้าวสารและข้าวเปลือกที่จำเลยจำนำแก่โจทก์ไปจำหน่าย ซึ่งตามทางปฏิบัติข้าวสารและข้าวเปลือกที่ลูกค้าจำนำแก่โจทก์จะอยู่ในความดูแลของลูกค้า ลูกค้าสามารถนำออกไปจำหน่ายได้โดยไม่ต้องขออนุญาตโจทก์แต่ต้องนำข้าวสารและข้าวเปลือกจำนวนใหม่เข้าไปไว้แทน แสดงว่าโจทก์ยอมให้ข้าวสารและข้าวเปลือกอยู่ในความครอบครองของจำเลย ย่อมถือไม่ได้ว่าจำเลยมอบข้าวสารและข้าวเปลือกไว้เป็นประกันการชำระหนี้ตามความหมายใน ป.พ.พ.ลักษณะจำนำ เมื่อไม่มีการจำนำจึงขาดองค์ประกอบที่จะเป็นความผิดตาม ป.อ.มาตรา 349
เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังไม่ได้ว่าโจทก์ได้ทวงถามและจำเลยรู้ว่าโจทก์จะใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลให้ชำระหนี้ จึงไม่จำต้องวินิจฉัยว่าจำเลยขนย้ายทรัพย์ไปเพื่อมิให้โจทก์ได้รับชำระหนี้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนหรือไม่ จำเลยไม่มีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 350
เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังไม่ได้ว่าโจทก์ได้ทวงถามและจำเลยรู้ว่าโจทก์จะใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลให้ชำระหนี้ จึงไม่จำต้องวินิจฉัยว่าจำเลยขนย้ายทรัพย์ไปเพื่อมิให้โจทก์ได้รับชำระหนี้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนหรือไม่ จำเลยไม่มีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 350
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 413/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายและครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย: พยานหลักฐานสอดคล้องและหนักแน่นเพียงพอ
โจทก์มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปซุ่มดูและเข้าตรวจค้นจับกุมจำเลยมาเบิกความเป็นพยานสอดคล้องต้องกัน มีเหตุผลเชื่อมโยงตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้งเบิกความไปตามหน้าที่ ไม่ปรากฏว่ามีสาเหตุโกรธเคืองจำเลยมาก่อน ส่วนจำเลยมีเพียงจำเลยปากเดียวเบิกความลอย ๆไม่มีพยานหลักฐานอื่นสนับสนุน ไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานโจทก์จึงฟังว่าจำเลยมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเฮโรอีนตามฟ้องได้ คำเบิกความของ ธ. พยานโจทก์ที่เบิกความว่าเข้าไปตรวจค้นบ้านจำเลยพบเฮโรอีน 1 ห่อ ซุกซ่อนในช่องอิฐบล็อก ส่วนบันทึกการตรวจค้นจับกุมระบุว่าผลการตรวจค้นพบผงสีขาวคล้ายเฮโรอีน2 ห่อ ซุกซ่อนในซอกกำแพงฝาห้องนอนนั้น เมื่อได้ความว่ากำแพงห้องนอนทำด้วยอิฐบล็อก จึงไม่แตกต่างกันและที่บันทึกว่าตรวจค้นพบเฮโรอีน 2 ห่อ แต่ได้ความว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เฮโรอีนจากสายลับ 1 ห่อ จากการตรวจค้นบ้านอีก 1 ห่อ รวมเป็น 2 ห่อการจดบันทึกการตรวจค้นจับกุมอาจผิดพลาดได้ จึงเป็นข้อแตกต่างเล็กน้อยที่ไม่เป็นสาระสำคัญสำหรับกระปุกออมสินแม้จะทำไว้สำหรับใส่เงินเหรียญ แต่ก็สามารถใส่ธนบัตรได้จำเลยไม่ได้นำสืบให้เห็นว่ากระปุกออมสินดังกล่าวเล็กจนไม่สามารถใส่ธนบัตรได้ คำพยานโจทก์ในส่วนนี้จึงไม่ขาดเหตุผล.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 411/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานไม่เพียงพอฟังว่าจำเลยมีเฮโรอีนไว้จำหน่าย จำเลยมีสิทธิได้รับการพิจารณาคดีอย่างยุติธรรม
โจทก์ไม่มีสายลับที่อ้างว่าเป็นผู้ซื้อเฮโรอีนจากจำเลยมาเป็นพยาน จำเลยย่อมเสียเปรียบไม่มีโอกาสซักค้านพยานโจทก์เพื่อให้ข้อเท็จจริงกระจ่างชัด คำของเจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมที่เบิกความว่าใช้สายลับเข้าไปล่อซื้อเฮโรอีนจากจำเลยก็ดี คำให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนของจำเลยก็ดี ล้วนแล้วแต่เป็นพยานบอกเล่าธนบัตรของกลางจำเลยก็ปฏิเสธอยู่ว่าไม่ได้ค้นได้ที่ตัวจำเลยเฮโรอีนของกลางมีเพียง 4 ห่อ น้ำหนักรวม 0.18 กรัม เท่านั้นจำเลยอาจมีไว้เพื่อเสพดังที่อ้างก็เป็นได้ ทั้งเมื่อจำเลยถูกตรวจค้นพบเฮโรอีนของกลาง จำเลยก็ได้บอกว่าตนเป็นผู้ติดยาเสพติดพยานหลักฐานโจทก์จึงยังไม่แน่นแฟ้น มั่นคงพอที่จะให้รับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยมีเฮโรอีนของกลางไว้เพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเฮโรอีนตามฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3765/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท กรณีครอบครองและจำหน่ายกัญชา ศาลฎีกาเห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยมีกัญชาจำนวน 1 ถุง หนัก 30 กรัมไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำเลยได้จำหน่ายกัญชาทั้งหมดจำนวน 1 ถุง ราคา 200 บาท อันเป็นกัญชาที่จำเลยมีไว้เพื่อจำหน่ายไปทั้งการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นในวันเวลาเดียวกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1795/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่ายเป็นความผิดสำเร็จ แม้ยังมิได้จำหน่าย
ความผิดฐานมียาเสพติดให้โทษเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายนั้น เมื่อผู้กระทำได้ยาเสพติดเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายแล้ว ย่อมเป็นความผิดสำเร็จ ไม่ว่าผู้กระทำผิดจะได้นำยาเสพติดดังกล่าวออกมาจำหน่ายให้แก่ผู้ใดหรือไม่ เมื่อจำเลยมียาเสพติดเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำเลยจึงมีความผิดฐานมียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย มิใช่เป็นเพียงการพยายามกระทำความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1737/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองเฮโรอีนและอุปกรณ์แบ่งบรรจุถือเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายตามกฎหมายยาเสพติด
เจ้าพนักงานตำรวจค้นตัวจำเลยพบถุงพลาสติกมีคราบเฮโรอีนและหลอดกาแฟตัดแล้วในกระเป๋ากางเกงจำเลย กับพบเฮโรอีนบรรจุถุงพลาสติกและบรรจุในหลอดกาแฟรวมอยู่ในกระปุกพลาสติกบนพื้นห้องปลายที่นอนมีหลอดกาแฟเทียนไข กรรไกร ไม้ขีด ช้อนและถุงพลาสติกเปล่าแสดงว่าจำเลยกำลังแบ่งบรรจุเฮโรอีนใส่หลอดกาแฟอยู่ การกระทำดังกล่าวตาม พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4ถือว่าเป็นการผลิตเฮโรอีนแล้ว การผลิตเฮโรอีนที่เป็นสารบริสุทธิ์ตั้งแต่ยี่สิบกรัมขึ้นไป มาตรา 15 วรรคสองให้ถือว่าเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายต้องลงโทษตามมาตรา 65 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1357/2536 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท: การผลิตยาเสพติดจากของเดิมที่มีไว้จำหน่าย
จำเลยตักเฮโรอีนออกจากถุงบรรจุลงหลอดพลาสติกเบอร์ 5จำนวน 161 หลอด ถือได้ว่าเป็นการผลิตยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 แต่เมื่อเฮโรอีนดังกล่าวเป็นจำนวนเดียวกันกับเฮโรอีนที่จำเลยกับพวกมีไว้เพื่อจำหน่ายการกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท
การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวหรือหลายกรรมเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย
การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวหรือหลายกรรมเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1357/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท กรณีผลิตและมีไว้จำหน่ายยาเสพติดโทษหนัก
จำเลยตักเฮโรอีนออกจากถุงบรรจุลงหลอดพลาสติกเบอร์ 5 จำนวน 161 หลอด ถือได้ว่าเป็นการผลิตยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 แต่เมื่อเฮโรอีนดังกล่าวเป็นจำนวนเดียวกันกับเฮโรอีนที่จำเลยกับพวกมีไว้เพื่อจำหน่ายการกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวหรือหลายกรรมเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1350/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อสันนิษฐานทางกฎหมายยาเสพติด: ครอบครองเกิน 20 กรัม ถือมีไว้เพื่อจำหน่าย
ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคสองบัญญัติว่าการผลิต นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ตั้งแต่ยี่สิบกรัมขึ้นไปให้ถือว่า ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้เพื่อจำหน่ายบทบัญญัติดังกล่าวเป็นข้อสันนิษฐานโดยเด็ดขาด เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยมีเฮโรอีนซึ่งคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์หนักถึง236.8 กรัม ไว้ในครอบครองเช่นนี้ จึงถือได้ว่าจำเลยมีเฮโรอีนดังกล่าวไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายแล้ว โจทก์ไม่จำต้องนำพยานมาสืบให้ศาลเห็นว่าจำเลยมีเจตนาที่จะมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1349/2536 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองกัญชาเพื่อจำหน่าย: ศาลฎีกาไม่รับฎีกาโต้เถียงข้อเท็จจริง และพิจารณาความผิดฐานครอบครองเพื่อจำหน่ายเท่านั้น
จำเลยฎีกาว่า ตามฟ้องและทางนำสืบของโจทก์ได้ความว่าจำเลยมีกัญชาน้ำหนักเพียง 15.90 กรัม แต่ตามมาตรา 26 วรรคสอง แห่งพ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 กำหนดว่าต้องมีกัญชาไว้ในครอบรองมีปริมาณถึง 10 กิโลกรัม ขึ้นไป จึงจะให้ถือว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายจำเลยจึงไม่มีความผิดตามมาตรา 26 วรรคสอง และ 76 วรรคสอง นั้นเป็นฎีกาโต้เถียงข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ฟังมาว่าจำเลยมีกัญชาจำนวน 15.90กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย เพื่อนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมายว่าการกระทำของจำเลยครบองค์ประกอบความผิดตามมาตรา 76 วรรคสองดังกล่าวหรือไม่จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อปรากฎว่าศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลล่างและให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปี จำเลยจึงไม่อาจฎีกาในปัญหาดังกล่าวได้ต้องห้ามตามมาตรา 218 วรรคแรก ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ในคดีที่ฎีกาได้แต่เฉพาะในปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวนว่าจำเลยมีความผิดฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายสถานเดียว อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 76 วรรคสองเมื่อการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามบทมาตราดังกล่าวแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องปรับบทลงโทษจำเลยฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 26 วรรคแรก และ 76 วรรคแรก อีก
ในคดีที่ฎีกาได้แต่เฉพาะในปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวนว่าจำเลยมีความผิดฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายสถานเดียว อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 76 วรรคสองเมื่อการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามบทมาตราดังกล่าวแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องปรับบทลงโทษจำเลยฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 26 วรรคแรก และ 76 วรรคแรก อีก