พบผลลัพธ์ทั้งหมด 429 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3615/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจการมอบฉันทะทนายความขอเลื่อนคดีและการตัดพยานโจทก์เมื่อไม่แจ้งเหตุขัดข้อง
การมอบฉันทะและการขอเลื่อนคดีในคดีอาญา ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามิได้บัญญัติไว้ จึงต้องนำประมวลวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับแทนตามนัยแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15
ทนายความอาจมอบฉันทะให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งมาทำการแทนได้ในกิจการที่ระบุไว้ในประมวลกฎหมายวิธี พิจารณาความแพ่ง มาตรา 64 เท่านั้นสำหรับกิจการอื่นต้องพิเคราะห์เป็นเรื่อง ๆ ไปว่าเป็นกิจการที่สำคัญซึ่งโดยสภาพเป็นที่เห็นได้ว่าทนายความจะต้องกระทำด้วยตนเองหรือไม่
คำขอเลื่อนคดีด้วยวาจา จะต้องกระทำโดยตัวความหรือทนายความเท่านั้น หากตัวความหรือทนายความไม่อาจมาศาลได้ จะต้องทำคำขอเลื่อนคดีเป็นลายลักษณ์อักษร และมอบฉันทะให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งมายื่นต่อศาลผู้รับมอบฉันทะจากทนายโจทก์ไม่มีอำนาจแถลงด้วยวาจาขอ เลื่อนคดีต่อศาล การที่ผู้รับมอบฉันทะจากทนายโจทก์ขอเลื่อนคดีต่อศาลด้วยวาจา ถือไม่ได้ว่าเป็นการแจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบ เมื่อโจทก์และทนายโจทก์ไม่ได้ขอเลื่อนคดีตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ทั้งไม่มาศาลโดยมิได้แจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบ การที่ศาลมีคำสั่งตัดพยานโจทก์ที่เหลือ จึงชอบด้วยกระบวนพิจารณาแล้ว.
ทนายความอาจมอบฉันทะให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งมาทำการแทนได้ในกิจการที่ระบุไว้ในประมวลกฎหมายวิธี พิจารณาความแพ่ง มาตรา 64 เท่านั้นสำหรับกิจการอื่นต้องพิเคราะห์เป็นเรื่อง ๆ ไปว่าเป็นกิจการที่สำคัญซึ่งโดยสภาพเป็นที่เห็นได้ว่าทนายความจะต้องกระทำด้วยตนเองหรือไม่
คำขอเลื่อนคดีด้วยวาจา จะต้องกระทำโดยตัวความหรือทนายความเท่านั้น หากตัวความหรือทนายความไม่อาจมาศาลได้ จะต้องทำคำขอเลื่อนคดีเป็นลายลักษณ์อักษร และมอบฉันทะให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งมายื่นต่อศาลผู้รับมอบฉันทะจากทนายโจทก์ไม่มีอำนาจแถลงด้วยวาจาขอ เลื่อนคดีต่อศาล การที่ผู้รับมอบฉันทะจากทนายโจทก์ขอเลื่อนคดีต่อศาลด้วยวาจา ถือไม่ได้ว่าเป็นการแจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบ เมื่อโจทก์และทนายโจทก์ไม่ได้ขอเลื่อนคดีตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ทั้งไม่มาศาลโดยมิได้แจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบ การที่ศาลมีคำสั่งตัดพยานโจทก์ที่เหลือ จึงชอบด้วยกระบวนพิจารณาแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3615/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบฉันทะขอเลื่อนคดี: ต้องทำตามหลักเกณฑ์ ป.วิ.พ. และการแถลงขอเลื่อนคดีด้วยวาจาต้องกระทำโดยตัวความหรือทนายความ
การมอบฉันทะและการขอเลื่อนคดี ป.วิ.อ. มิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะจึงต้องนำ ป.วิ.พ. มาใช้บังคับ คำขอเลื่อนคดีด้วยวาจานั้น ตัวความหรือทนายความจะต้องกระทำด้วยตนเอง มิฉะนั้นจะต้องทำคำขอเลื่อนคดีเป็นลายลักษณ์อักษรและมอบฉันทะให้บุคคลใด บุคคลหนึ่งนำมายื่นต่อศาล ผู้รับมอบฉันทะจากทนายโจทก์ไม่มีอำนาจแถลงด้วยวาจาขอเลื่อนคดี.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3615/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบฉันทะทนายขอเลื่อนคดี การแจ้งเหตุขัดข้อง และผลของการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
การมอบฉันทะและการขอเลื่อนคดีในคดีอาญาประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามิได้บัญญัติไว้ จึงต้องนำประมวลวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับแทนตามนัยแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15
ทนายความอาจมอบฉันทะให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งมาทำการแทนได้ในกิจการที่ระบุไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 64เท่านั้นสำหรับกิจการอื่นต้องพิเคราะห์เป็นเรื่อง ๆ ไปว่าเป็นกิจการที่สำคัญซึ่งโดยสภาพเป็นที่เห็นได้ว่าทนายความจะต้องกระทำด้วยตนเองหรือไม่
คำขอเลื่อนคดีด้วยวาจา จะต้องกระทำโดยตัวความหรือทนายความเท่านั้น หากตัวความหรือทนายความไม่อาจมาศาลได้ จะต้องทำคำขอเลื่อนคดีเป็นลายลักษณ์อักษร และมอบฉันทะให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งมายื่นต่อศาลผู้รับมอบฉันทะจากทนายโจทก์ไม่มีอำนาจแถลงด้วยวาจาขอเลื่อนคดีต่อศาล การที่ผู้รับมอบฉันทะจากทนายโจทก์ขอเลื่อนคดีต่อศาลด้วยวาจา ถือไม่ได้ว่าเป็นการแจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบ เมื่อโจทก์และทนายโจทก์ไม่ได้ขอเลื่อนคดีตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ทั้งไม่มาศาลโดยมิได้แจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบ การที่ศาลมีคำสั่งตัดพยานโจทก์ที่เหลือ จึงชอบด้วยกระบวนพิจารณาแล้ว.
ทนายความอาจมอบฉันทะให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งมาทำการแทนได้ในกิจการที่ระบุไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 64เท่านั้นสำหรับกิจการอื่นต้องพิเคราะห์เป็นเรื่อง ๆ ไปว่าเป็นกิจการที่สำคัญซึ่งโดยสภาพเป็นที่เห็นได้ว่าทนายความจะต้องกระทำด้วยตนเองหรือไม่
คำขอเลื่อนคดีด้วยวาจา จะต้องกระทำโดยตัวความหรือทนายความเท่านั้น หากตัวความหรือทนายความไม่อาจมาศาลได้ จะต้องทำคำขอเลื่อนคดีเป็นลายลักษณ์อักษร และมอบฉันทะให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งมายื่นต่อศาลผู้รับมอบฉันทะจากทนายโจทก์ไม่มีอำนาจแถลงด้วยวาจาขอเลื่อนคดีต่อศาล การที่ผู้รับมอบฉันทะจากทนายโจทก์ขอเลื่อนคดีต่อศาลด้วยวาจา ถือไม่ได้ว่าเป็นการแจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบ เมื่อโจทก์และทนายโจทก์ไม่ได้ขอเลื่อนคดีตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ทั้งไม่มาศาลโดยมิได้แจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบ การที่ศาลมีคำสั่งตัดพยานโจทก์ที่เหลือ จึงชอบด้วยกระบวนพิจารณาแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 220/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทนายความลงลายมือชื่อรับทราบคำบังคับแทนลูกหนี้ ถือว่าลูกหนี้ทราบแล้ว มีผลผูกพันตามกฎหมาย
คำว่าลูกหนี้ตามนัยบทมาตรา 272 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง หมายความรวมถึงทนายความของลูกหนี้ด้วย การที่ทนายจำเลยซึ่งได้ดำเนินกระบวนพิจารณาแทนจำเลย ลงลายมือชื่อรับทราบคำบังคับในศาลในวันทำสัญญาประนีประนอมยอมความถือได้ว่าทนายความซึ่งเป็นตัวแทนได้กระทำไปในขอบอำนาจในฐานะทนายความแทนจำเลยซึ่งเป็นตัวการ ย่อมมีผลผูกพันจำเลยและถือได้ว่าจำเลยทราบคำบังคับของศาลแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2159/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแต่งตั้งทนายความต้องทำตามแบบฟอร์มและลงลายมือชื่อในคำรับทนายความ มิฉะนั้นถือว่ายังมิได้รับเป็นทนายความ
น. ทนายโจทก์เป็นผู้ลงชื่อในคำฟ้องแทนโจทก์และตามคำฟ้องผู้ยื่นฟ้องรอฟังคำสั่งอยู่ ถ้า ไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งในวันยื่นฟ้องว่า น. ลงชื่อเป็นโจทก์โดยมิได้ลงชื่อคำรับเป็นทนายความในใบแต่ง ทนายความ ให้แก้ไขภายใน 7 วันนับแต่วันมีคำสั่งแต่ทนายโจทก์ไม่รอฟังคำสั่งในวันนั้นก็ต้องถือว่าทนายโจทก์ได้ทราบคำสั่งแล้ว ฉะนั้นเมื่อทนายโจทก์ไม่ได้ลงชื่อในคำรับเป็นทนายความภายในระยะเวลาที่ศาลกำหนด ศาลชอบที่จะมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องและจำหน่ายคดีจากสารบบความเสียได้ การตั้งทนายความตาม ป.วิ.พ. มาตรา 61 ต้องทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อตัวความและทนายความ ตามแบบพิมพ์ใบแต่ง ทนายความกำหนดให้ผู้ที่รับเป็นทนายความลงลายมือชื่อไว้ในคำรับทนายความด้วยเมื่อทนายโจทก์ยื่นใบแต่ง ทนายความต่อศาลพร้อมคำฟ้อง แต่ไม่มีลายมือชื่อในคำรับเป็นทนายความ มีแต่ลายมือชื่อที่รับรองลายมือชื่อโจทก์เท่านั้นจะถือว่าทนายโจทก์ได้รับเป็นทนายความโดยปริยายแล้วหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1644/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประวิงคดี: เลื่อนนัดบ่อยครั้งโดยไม่แก้ไข และการแต่งทนายความที่ไม่พร้อม
จำเลยขอเลื่อนคดีถึงสามครั้งติดต่อกัน สองครั้งแรกอ้างเหตุติดธุระส่วนตัว ศาลได้กำชับว่าจะไม่ให้เลื่อนคดีอีกทุกครั้งเฉพาะนัดที่สามนี้ จำเลยก็แถลงรับรองไว้ต่อศาลแล้วว่าถ้าถึงนัดหน้าไม่มีทนายหรือไม่มีพยานมาศาลจะไม่ขอเลื่อนคดีอีก ให้ถือว่าจำเลยไม่ติดใจสืบพยาน เมื่อศาลอนุญาตให้เลื่อนก็ได้กำชับเตือนจำเลยถึงความข้อนี้และย้ำจำเลยให้แต่งทนายคนใหม่ว่าความแทนหากทนายจำเลยติดธุระอีก แต่จำเลยก็หาได้นำพาไม่ กลับแต่งทนายความที่ป่วยอยู่ในโรงพยาบาลและจะต้องรับการรักษาต่อไปอีก 5 วันให้มาว่าคดี และ ไม่นำพยานมาศาลพฤติการณ์ของจำเลยถือได้ว่าเป็นการประวิงคดี.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 956/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจทนายความในการแถลงข้อเท็จจริง และความรับผิดของเจ้าของกิจการต่อลูกจ้างที่ตัวแทนจ้าง
ทนายความที่จำเลยแต่งตั้งให้เข้ามาดำเนินคดีแทนมีอำนาจว่าความและดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ แทนจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 62การที่ศาลแรงงานกลางสอบถามข้อเท็จจริงจากทนายจำเลยในวันนัดพิจารณาเพื่อให้ได้ความชัดในประเด็นพิพาท และทนายจำเลยแถลงรับข้อเท็จจริงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างหนึ่ง ซึ่งอยู่ในอำนาจของทนายจำเลยที่จะกระทำได้โดยชอบ คำแถลงหรือข้อเท็จจริงซึ่งทนายจำเลย แถลงรับต่อศาลจึงรับฟังได้ จำเลยที่ 1 เจ้าของกิจการเรือประมงได้มอบหมายให้จำเลยที่ 2 ไต้ก๋งเรือดำเนินกิจการโดยให้มีอำนาจหน้าที่จัดหาหรือว่าจ้างลูกเรือหรือคนงาน จำเลยที่ 1 มีหน้าที่จ่ายค่าจ้าง ดังนี้ จำเลยที่ 2 จึงเป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 มิใช่จำเลยที่ 2 รับเหมากิจการเรือประมงของจำเลยที่ 1 ดำเนินการเมื่อจำเลยที่ 2 ว่าจ้างโจทก์เป็นลูกเรือ ต้องถือว่าโจทก์เป็นลูกจ้าง ของจำเลยที่ 1 แม้จำเลยที่ 2 จะได้รับค่าจ้างสำหรับลูกเรือไปจากจำเลยที่ 1 แล้วไม่นำไปจ่ายให้โจทก์จำเลยที่ 1 ก็ไม่พ้นความรับผิด จำเลยที่ 1 ไม่ได้ให้การต่อสู้คดีว่าโจทก์ได้รับค่าจ้างครบถ้วนแล้วหรือไม่ ให้เป็นประเด็นในคำให้การต้องถือว่าข้อเท็จจริงยุติตามฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4246/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายนัดผ่านทนายความ: การส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ถึงทนายจำเลยโดยบุคคลอื่นที่สำนักงานเดียวกัน ถือว่าชอบด้วยกฎหมาย
พนักงานเดินหมายได้นำหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไปส่งให้ทนายจำเลย ณ สำนักงานของทนายจำเลยแล้วไม่พบตัว บุคคลอายุเกิน20 ปีซึ่งอยู่ในสำนักงานเดียวกันนั้นเต็มใจรับหมายไว้แทนต้องถือว่าได้มีการส่งหมายนัดแก่ทนายจำเลยโดยถูกต้องและชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 75,76 แล้ว จำเลยอ้างว่าทนายจำเลยไม่ทราบหมายนัดหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4454/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างทนายความทวงหนี้ ค่าจ้างคิดเป็นร้อยละของหนี้ ไม่ใช่การแบ่งทรัพย์สินจากคดี
สัญญาที่จำเลยจ้างโจทก์ซึ่งเป็นทนายความให้ทวงหนี้จากสมาชิกจำเลยนอกศาลโดยคิดค่าจ้างร้อยละ 5 ของยอดหนี้ที่ทวงได้นั้นเป็นเพียงอาศัยเป็นเกณฑ์คำนวณค่าจ้างทวงถามหนี้สินว่าจะเรียกร้องค่าจ้างคิดเป็นร้อยละเท่าใดของหนี้ที่ทวงได้เท่านั้นหาใช่เป็นสัญญาแบ่งเอาส่วนจากทรัพย์สินที่มูลพิพาทที่ลูกความจะพึงได้รับเมื่อชนะคดีไม่และมิใช่เป็นการจ้างโจทก์ให้เป็นทนายความดำเนินคดี สัญญาดังกล่าวจึงตกลงกันได้เพราะไม่มีกฎหมายห้าม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3807/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อนุญาตเลื่อนคดีและการถือว่าจำเลยไม่มีพยาน เนื่องจากทนายความยังไม่ถอนตัวและมีทนายความอีกคนพร้อมปฏิบัติหน้าที่
ศาลชั้นต้นนั่งพิจารณาสืบพยานโจทก์เสร็จและนัดสืบพยานจำเลย ถึงวันนัดทนายจำเลยมอบฉันทะให้เสมียนทนายมายื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างเหตุว่าป่วยโดยไม่มีพยานฝ่ายจำเลยมาศาล เมื่อปรากฏว่าจำเลยมีทนายความสองคน แม้ ธ.ทนายจำเลยคนหนึ่งป่วยไม่สามารถมาปฏิบัติหน้าที่ได้ ้ส.ทนายจำเลยอีกคนหนึ่งก็ยังอยู่และไม่ปรากฏว่า มีเหตุจำเป็นที่จะมาปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ จึงไม่มีเหตุที่จำเลยจะขอเลื่อนคดีเพราะความเจ็บป่วยของทนายจำเลยข้ออ้างที่ว่า ส.ทนายจำเลยประสงค์จะขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยและฝากคำร้องไว้แก่ ธ. แต่ ธ. ยังมิได้ยื่นต่อศาล แม้จะเป็นความจริงศาลก็ยังมิได้มีคำสั่งอนุญาต ส.จึงยังคงเป็นทนายจำเลยอยู่เมื่อจำเลยและพยานจำเลยไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานจำเลย ย่อมถือได้ว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบตามข้อต่อสู้และไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี