พบผลลัพธ์ทั้งหมด 394 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2740/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่า, พยานแวดล้อม, การบันดาลโทสะ, คำรับสารภาพชั้นสอบสวน, การลงโทษฆ่าผู้อื่น
แม้โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานเห็นจำเลยใช้ปืนยิงผู้ตาย แต่โจทก์มีพยานแวดล้อมกรณี และชั้นสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพด้วยความสมัครใจ โดยไม่มีข้อต่อสู้ใด ๆ ทั้งได้นำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับให้พนักงานสอบสวนทำแผนที่และบันทึกไว้ดังนี้ ศาลรับฟังคำให้การรับสารภาพของจำเลยชั้นสอบสวนประกอบกับพยานแวดล้อมกรณีดังกล่าวแล้วได้ว่าจำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายโดยเจตนาฆ่า
โรงเรียนเป็นของบุตรผู้ตายโดยผู้ตายทำการเป็นเจ้าของโรงเรียนอยู่ เมื่อผู้ตายไม่ชอบจำเลย ก็ย่อมจะให้จำเลยออกจากโรงเรียนได้ การที่ผู้ตายบอกให้จำเลยออกไปจากโรงเรียนทันที เป็นการใช้ถ้อยคำรุนแรงไปบ้าง แต่ก็ไม่เป็นการข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จำเลยโกรธที่ถูกผู้ตายออกปากไล่ออกไปจากโรงเรียนในเดี๋ยวนั้น จึงหยิบปืนในกระเป๋าถือยิงผู้ตายไปทันทีดังนี้ การกระทำของจำเลยยังถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำลงโดยบันดาลโทสะ อันจะได้ลดโทษตามกฎหมาย
โรงเรียนเป็นของบุตรผู้ตายโดยผู้ตายทำการเป็นเจ้าของโรงเรียนอยู่ เมื่อผู้ตายไม่ชอบจำเลย ก็ย่อมจะให้จำเลยออกจากโรงเรียนได้ การที่ผู้ตายบอกให้จำเลยออกไปจากโรงเรียนทันที เป็นการใช้ถ้อยคำรุนแรงไปบ้าง แต่ก็ไม่เป็นการข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จำเลยโกรธที่ถูกผู้ตายออกปากไล่ออกไปจากโรงเรียนในเดี๋ยวนั้น จึงหยิบปืนในกระเป๋าถือยิงผู้ตายไปทันทีดังนี้ การกระทำของจำเลยยังถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำลงโดยบันดาลโทสะ อันจะได้ลดโทษตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2740/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าและเหตุบันดาลโทสะ: การพิจารณาความผิดฐานฆ่าผู้อื่นจากการโกรธจากการถูกไล่ออกจากโรงเรียน
แม้โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานเห็นจำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายแต่โจทก์มีพยานแวดล้อมกรณี และชั้นสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพด้วยความสมัครใจ โดยไม่มีข้อต่อสู้ใดๆ ทั้งได้นำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับให้พนักงานสอบสวนทำแผนที่และบันทึกไว้ดังนี้ ศาลรับฟังคำให้การรับสารภาพของจำเลยชั้นสอบสวนประกอบกับพยานแวดล้อมกรณีดังกล่าวแล้วได้ว่าจำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายโดยเจตนาฆ่า
โรงเรียนเป็นของบุตรผู้ตายโดยผู้ตายทำการเป็นเจ้าของโรงเรียนอยู่ เมื่อผู้ตายไม่ชอบจำเลย ก็ย่อมจะให้จำเลยออกจากโรงเรียนได้ การที่ผู้ตายบอกให้จำเลยออกไปจากโรงเรียนทันที เป็นการใช้ถ้อยคำรุนแรงไปบ้าง แต่ก็ไม่เป็นการข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จำเลยโกรธที่ถูกผู้ตายออกปากไล่ออกไปจากโรงเรียนในเดี๋ยวนั้น จึงหยิบปืนในกระเป๋าถือยิงผู้ตายไปทันทีดังนี้ การกระทำของจำเลยยังถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำลงโดยบันดาลโทสะ อันจะได้ลดโทษตามกฎหมาย
โรงเรียนเป็นของบุตรผู้ตายโดยผู้ตายทำการเป็นเจ้าของโรงเรียนอยู่ เมื่อผู้ตายไม่ชอบจำเลย ก็ย่อมจะให้จำเลยออกจากโรงเรียนได้ การที่ผู้ตายบอกให้จำเลยออกไปจากโรงเรียนทันที เป็นการใช้ถ้อยคำรุนแรงไปบ้าง แต่ก็ไม่เป็นการข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จำเลยโกรธที่ถูกผู้ตายออกปากไล่ออกไปจากโรงเรียนในเดี๋ยวนั้น จึงหยิบปืนในกระเป๋าถือยิงผู้ตายไปทันทีดังนี้ การกระทำของจำเลยยังถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำลงโดยบันดาลโทสะ อันจะได้ลดโทษตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 266/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บันดาลโทสะจากการถูกด่าทอถึงบิดามารดา ถือเป็นการข่มเหงร้ายแรงตามกฎหมาย
ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายเคยมาทวงเงินจากจำเลยค่าพระเครื่องที่ผู้ตายหาว่าจำเลยเป็นคนซื้อไว้ 3-4 ครั้งแล้ว จำเลยปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนซื้อ วันเกิดเหตุผู้ตายมาทวงอีก เมื่อจำเลยปฏิเสธ ผู้ตายก็ด่าจำเลยว่า มึงอย่าหมา มึงเอาจริง ถ้าอย่างนั้นมึงลูกแม่ไม่สอน หมาเย็ดแม่ และเมื่อผู้ตายลงจากเรือนมาแล้วก็ยังด่าแล้วด่าอีกด้วยถ้อยคำหยาบคายก้าวร้าวถึงบิดามารดาของจำเลยอยู่ตลอดเวลา จนจำเลยอดโทสะไว้ไม่ได้ ตามไปใช้มีดฟันผู้ตายจนถึงแก่ความตาย ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยกระทำความผิดโดยบันดาลโทสะ เพราะถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 263/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บันดาลโทสะจากการถูกข่มเหงน้ำใจ: การพิจารณาโทษจำคุกคดีฆ่าผู้อื่น
ผู้ตายเคยลวนลามภรรยาจำเลยมาแล้วครั้งหนึ่ง วันเกิดเหตุจำเลยกลับจากเก็บถั่วขึ้นไปห้างไร่ของจำเลย เห็นผู้ตายกำลังกอดรั้งตัวภรรยาจำเลยอยู่ จำเลยเกิดโทสะพอจำเลยร้องว่าผู้ตาย ผู้ตายก็ผละออกกระโดดหนีลงจากห้างไร่จำเลยคว้าได้ปืนยาวที่พิงไว้ข้างฝาลงบันไดตามไปยิงผู้ตายที่พื้นดิน ซึ่งขณะนั้นเดินออกไปห่างจากห้างไร่ 3 วากระสุนปืนถูกผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ด้วยความบันดาลโทสะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 249/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยบันดาลโทสะจากเหตุชู้สาว ศาลพิจารณาลดโทษจากความรัก ความผูกพัน และการมอบตัว
จำเลยเห็นผู้ตายกำลังชำเราภริยาจำเลยถึงในห้องนอนแม้จะไม่ใช่ภริยาที่ชอบด้วยกฎหมาย แต่อยู่กินกันมา 13 ปี และเกิดบุตรกับจำเลย 6 คน จำเลยจึงใช้มีดพับเล็กที่หามาได้ในทันทีทันใด แทงผู้ตาย 2 ที และแทงภริยา 1 ที ดังนี้ เป็นการกระทำความผิดเพราะบันดาลโทสะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1185/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย: การพิจารณาเจตนา, บันดาลโทสะ, และการป้องกันตัว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยฆ่าผู้ตายโดยเจตนา ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยฆ่าผู้ตายโดยบันดาลโทสะลงโทษจำคุก 4 ปี จำเลยอุทธรณ์ว่ากระทำเพื่อป้องกันตัว ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยกระทำเพื่อป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ ลงโทษจำคุก 3 ปี โจทก์ฎีกาว่าจำเลยกระทำโดยบันดาลโทสะขอให้ลงโทษตามศาลชั้นต้น ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำโดยบันดาลโทสะหรือเพื่อป้องกันตัวพิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ให้ลงโทษจำคุก 15 ปี แต่คดีนี้ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกเพียง 4 ปี โจทก์มิได้อุทธรณ์ ศาลฎีกาจะลงโทษจำเลยหนักกว่านั้นไม่ได้ จึงให้จำคุกจำเลย 4 ปีเท่ากำหนดโทษของศาลชั้นต้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 98/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแทงทำร้ายผู้อื่นหลังถูกตบหน้า: บันดาลโทสะ vs. ป้องกันตัว
จำเลยเกิดปากเสียง ด่าทอแล้วใช้มือผลักซึ่งกันและกันกับพวกคนหนึ่งของผู้ตาย ผู้ตายเข้าห้ามให้แยกกันและใช้มือตบหน้าจำเลยไป 1 ที โดยมิได้แสดงอาการว่าจะทำร้ายจำเลยด้วยอาวุธอะไรต่อไปอีก จำเลยได้ชักมีดออกแทงผู้ตายไปทันทีถูกผู้ตายเป็นแผลฉกรรจ์ถึง 3 แผล ถึงแก่ความตาย ดังนี้ จำเลยจะอ้างว่ากระทำเพื่อป้องกันตนเองให้พ้นภยันตรายที่ใกล้จะถึงหาได้ไม่และการที่ผู้ตายใช้มือตบหน้าจำเลยก่อนเช่นนี้ ถือได้ว่าเป็นการข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การที่จำเลยแทงทำร้ายผู้ตายไปในขณะนั้น จึงเป็นการกระทำความผิดด้วยบันดาลโทสะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 98/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บันดาลโทสะจากการถูกทำร้าย: การแทงหลังถูกตบหน้าเข้าข่ายมาตรา 72
จำเลยเกิดปากเสียง ด่าทอแล้วใช้มือผลักซึ่งกันและกันกับพวกคนหนึ่งของผู้ตาย ผู้ตายเข้าห้ามให้แยกกันและใช้มือตบหน้าจำเลยไป 1 ที โดยมิได้แสดงอาการว่าจะทำร้ายจำเลยด้วยอาวุธอะไรต่อไปอีก จำเลยได้ชักมีดออกแทงผู้ตายไปทันทีถูกผู้ตายเป็นแผลฉกรรจ์ถึง 3 แผล ถึงแก่ความตาย ดังนี้ จำเลยจะอ้างว่ากระทำเพื่อป้องกันตนเองให้พ้นภยันตรายที่ใกล้จะถึงหาได้ไม่และการที่ผู้ตายใช้มือตบหน้าจำเลยก่อนเช่นนี้ ถือได้ว่าเป็นการข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การที่จำเลยแทงทำร้ายผู้ตายไปในขณะนั้น จึงเป็นการกระทำความผิดด้วยบันดาลโทสะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 551/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าผู้อื่นด้วยบันดาลโทสะ: การถูกดูหมิ่นต่อหน้าสาธารณชนเป็นเหตุให้บันดาลโทสะได้
เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าผู้ตายเคยหลอกล่วงเกินจำเลยทางประเวณีมาก่อน แล้วผู้ตายยังด่าว่าใส่ความจำเลยหาว่าจำเลยเป็นคนชั่วช้าในทางประเวณีต่อหน้าสามีของจำเลยอีก เช่นนี้ ถือได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การที่จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายไปในขณะนั้น 6 นัดถูกผู้ตายถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดฐานฆ่าผู้อื่นด้วยบันดาลโทสะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 551/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บันดาลโทสะจากการถูกข่มเหง: ศาลลดโทษฐานจำเลยถูกด่าทออย่างร้ายแรงต่อหน้าผู้อื่น
เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าผู้ตายเคยหลอกล่วงเกินจำเลยทางประเวณีมาก่อน แล้วผู้ตายยังด่าว่าใส่ความจำเลยหาว่าจำเลยเป็นคนชั่วช้าในทางประเวณีต่อหน้าสามีของจำเลยอีก เช่นนี้ ถือได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การที่จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายไปในขณะนั้น 6 นัดถูกผู้ตายถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดฐานฆ่าผู้อื่นด้วยบันดาลโทสะ