คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ป้องกันตัว

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 883 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 406/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้อำนาจยิงเพื่อป้องกันตัวที่เกินกว่าเหตุ และเจตนาฆ่า
ผู้ตายยิงปืนมาทางเจ้าพนักงานตำรวจและจำเลยที่ 1 เพียงนัดเดียวไม่ปรากฏว่ากระสุนปืนถูกผู้ใด จำเลยที่ 1 ยิงปืนโต้ตอบไป ผู้ตายถูกกระสุนปืนด้านหลังแสดงให้เห็นว่าจำเลยที่ 1 ยิงผู้ตายในขณะที่ผู้ตายหันหลังวิ่งหนี แต่เมื่อผู้ตายยิงปืนมาทางจำเลยที่ 1 ก่อน ซึ่งไม่แน่ว่าผู้ตายจะหันหลังกลับมายิงจำเลยที่ 1 กับพวกซ้ำอีกหรือไม่ภยันตรายที่จะเกิดจากผู้ตายจึงยังไม่หมดไปทีเดียว และจำเลยที่ 1 มีอำนาจที่จะจับผู้ตายซึ่งกระทำความผิดซึ่งหน้าได้ จำเลยที่ 1 จึงมีอำนาจยิงผู้ตายได้หากพอสมควรแก่เหตุเช่นยิงที่ขา แต่การที่จำเลยที่ 1 ยิงผู้ตาย 1 นัด ทางด้านหลังถูกอวัยวะสำคัญถึงแก่ความตายทันที เห็นได้ว่ามีเจตนาฆ่าผู้ตาย จึงเป็นการใช้วิธีหรือควรป้องกันทั้งหลายไม่เหมาะแก่พฤติการณ์แห่งเรื่องในการจับผู้ตาย และเป็นการป้องกันเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกันตัว จำเลยที่ 1 จึงต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 69

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 406/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้อำนาจยิงเพื่อป้องกันตัวและการเกินกว่าเหตุ การยิงผู้ต้องสงสัยจากด้านหลังเป็นเจตนาฆ่า
ผู้ตายยิงปืนมาทางเจ้าพนักงานตำรวจและจำเลยที่ 1 เพียงนัดเดียวไม่ปรากฏว่ากระสุนปืนถูกผู้ใด จำเลยที่ 1ยิงปืนโต้ตอบไปผู้ตายถูกกระสุนปืนด้านหลัง แสดงให้เห็นว่าจำเลยที่ 1 ยิงผู้ตายในขณะที่ผู้ตายหันหลังวิ่งหนีแต่เมื่อผู้ตายยิงปืนมาทางจำเลยที่ 1 ก่อน ซึ่งไม่แน่ว่าผู้ตายจะหันหลังกลับมายิงจำเลยที่ 1 กับพวกซ้ำอีกหรือไม่ ภยันตรายที่จะเกิดจากผู้ตายจึงยังไม่หมดไปทีเดียว และจำเลยที่ 1 มีอำนาจที่จะจับผู้ตายซึ่งกระทำความผิดซึ่งหน้าได้ จำเลยที่ 1 จึงมีอำนาจยิงผู้ตายได้หากพอสมควรแก่เหตุเช่นยิงที่ขา แต่การที่จำเลยที่ 1 ยิงผู้ตาย 1 นัด ทางด้านหลังถูกอวัยวะสำคัญถึงแก่ความตายทันที เห็นได้ว่ามีเจตนาฆ่าผู้ตาย จึงเป็นการใช้วิธีหรือความป้องกันทั้งหลายที่ไม่เหมาะแก่พฤติการณ์แห่งเรื่องในการจับผู้ตาย และเป็นการป้องกันเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกันตัว จำเลยที่ 1 จึงต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 69

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3248/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมายจากเหตุประทุษร้ายอันใกล้จะถึงตัว แม้ถูกยิงก่อน แต่มีเหตุสมควรเชื่อว่าถูกยิงซ้ำ
จำเลยที่ 1 เมาสุราถือปืนคาไบน์ส่งเสียเอะอะในบริเวณงาน จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นตำรวจสถานีเดียวกันยื้อยุดฉุดตัวจำเลยที่ 1 กลับบ้าน ระหว่างนี้เองปืนคาไบน์ในมือจำเลยที่ 1 ลั่นขึ้น 1 นัด กระสุนถูกจำเลยที่ 2 ที่ท้องทะลุหลัง ปืนลั่นแล้วจำเลยที่ 1 ยังตามเข้าไปเตะจำเลยที่ 2 มีคนเข้าช่วยแย่งปืน ปืนของจำเลยที่1 ได้ลั่นขึ้นอีก 1 นัด เป็นเหตุให้จำเลยที่ 2 เข้าใจในขณะนั้นว่าจำเลยที่ 1 ตามเข้าไปเพื่อจะยิงซ้ำ จำเลยที่ + จึงได้ใช้ปืนพกที่มีอยู่ยิงจำเลยที่ 1 ไปในทันทีถูกที่ขาจำเลยที่ 1 ทันที ดังนี้เห็นว่าจำเลยที่ 2 มิใช่ผู้ก่อเหตุและกระทำไปด้วยความสำคัญผิดในข้อเท็จจริงถึงภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุ+อันละเมิดต่อกฎหมาย และใกล้จะถึงตัว จำเลยที่ 2 มีสิทธิจะป้องกันชีวิตของตนได้ การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 62 ประกอบด้วยมาตรา 68

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3248/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การยิงสวนเพื่อป้องกันภัยอันตรายจากผู้ที่ถืออาวุธและแสดงท่าทีจะทำร้ายซ้ำ
จำเลยที่ 1 เมาสุราถือปืนคาไบน์ส่งเสียงเอะอะในบริเวณงาน จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นตำรวจสถานีเดียวกันยื้อยุดฉุดตัวจำเลยที่ 1 กลับบ้าน ระหว่างนี้เองปืนคาไบน์ในมือจำเลยที่ 1 ลั่นขึ้น 1 นัด กระสุนถูกจำเลยที่2 ที่ท้องทะลุหลัง ปืนลั่นแล้วจำเลยที่ 1 ยังตามเข้าไปเตะจำเลยที่ 2 มีคนเข้าช่วยแย่งปืน ปืนของจำเลยที่ 1 ได้ลั่นขึ้นอีก 1 นัด เป็นเหตุให้ จำเลยที่ 2 เข้าใจในขณะนั้นว่าจำเลยที่ 1 ตามเข้าไปเพื่อจะยิงซ้ำ จำเลยที่ 2 จึงได้ใช้ปืนพกที่มีอยู่ยิงจำเลยที่ 1 ไปในทันทีถูกที่ขาจำเลยที่ 1 ดังนี้ เห็นว่าจำเลยที่ 2 มิใช่ผู้ก่อเหตุและกระทำไปด้วยความสำคัญผิดในข้อเท็จจริงถึงภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และใกล้จะถึงตัว จำเลยที่ 2 มีสิทธิจะป้องกันชีวิตของตนได้ การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 62ประกอบด้วยมาตรา 68

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3226-3227/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวิวาทชักปืนท้าทาย ไม่ถือเป็นการป้องกันตัว และไม่มีอำนาจฟ้องคดี
จำเลยที่ 1 และที่ 2 พูดจาโต้เถียงกันภายในร้านแล้วออกมาที่แคร่ไม้ไผ่หน้าร้าน จำเลยที่ 2 ชักปืนออกมาจ้องปากกระบอกชี้ไปทางจำเลยที่ 1 และพูดว่ามึงแน่ไหม เป็นการท้าทายจำเลยที่ 1 แม้จำเลยที่ 1 พูดว่าไม่สู้ และมีห้ามปรามจนจำเลยที่ 2 เก็บปืนแล้วก็ตาม แต่กิริยา -อาการที่จำเลยที่ 2 ชักปืนออกมาเป็นการแสดงว่าจำเลยที่ 2 ยังตั้งใจที่จะวิวาทกับจำเลยที่ 1 ต่อไปอีก การเก็บปืนของจำเลยที่ 2 ไม่ทำให้การทะเลาะวิวาทกับจำเลยที่ 1 ขาดตอนไปแต่อย่างใด เมื่อจำเลยที่ 1 วิ่งออกไปจากที่ยืนอยู่และยิงมาที่จำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ก็ยิบตอบโต้ไปทางจำเลยที่ 1 เช่นกัน พฤติการณ์ดังกล่าวตั้งแต่เริ่มแรกแสดงว่าจำเลยที่ 2 สมัครใจที่จะต่อสู้กับจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 จะอ้างว่ากระทำไปโดยป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมายได้ไม่ และจำเลยที่ 2 ก็มิใช่ผู้เสียหายที่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3226-3227/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยิงต่อสู้หลังทะเลาะวิวาท การกระทำโดยสมัครใจ และการไม่มีสิทธิฟ้องร้อง
จำเลยที่ 1 และที่ 2 พูดจาโต้เถียงกันภายในร้านแล้วออกมาที่แคร่ไม้ไผ่หน้าร้าน จำเลยที่ 2 ชักปืนออกมาจ้องปากกระบอกชี้ไปทางจำเลยที่ 1 และพูดว่ามึงแน่ไหม เป็นการท้าทายจำเลยที่ 1 แม้จำเลยที่ 1 พูดว่าไม่สู้ และมีผู้ห้ามปรามจนจำเลยที่ 2 เก็บปืนแล้วก็ตาม แต่กิริยาอาการที่จำเลยที่ 2 ชักปืนออกมาเป็นการแสดงว่าจำเลยที่ 2 ยังตั้งใจที่จะวิวาทกับจำเลยที่ 1 ต่อไปอีก การเก็บปืนของจำเลยที่ 2 ไม่ทำให้การทะเลาะวิวาทกับจำเลยที่ 1 ขาดตอนไปแต่อย่างใด เมื่อจำเลยที่ 1 วิ่งออกไปจากที่ที่ยืนอยู่และยิงมาที่จำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ก็ยิงโต้ตอบไปทางจำเลยที่ 1 เช่นกัน พฤติการณ์ดังกล่าวตั้งแต่เริ่มแรกแสดงว่าจำเลยที่ 2 สมัครใจที่จะต่อสู้กับจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 จะอ้างว่ากระทำไปโดยป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมายหาได้ไม่ และจำเลยที่ 2 ก็มิใช่ผู้เสียหายที่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2737/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวจากผู้บุกรุกและการกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่น
ผู้ตายทั้งสองขึ้นไปลักทรัพย์บนเรือในเวลากลางคืนโดยมีพวกหลายคนจำเลยซึ่งเป็นยามเฝ้าเรือร้องถาม ผู้ตายคนหนึ่งชักมีดโถมเข้าจะแทง จำเลยจึงใช้ปืนยิงไปทางผู้ตายหลายนัดในช่วงเวลาอันกระชั้นชิดนั้น ถูกผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2737/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวจากการถูกทำร้ายด้วยอาวุธ: การยิงเพื่อป้องกันชีวิตและร่างกาย
ผู้ตายทั้งสองขึ้นไปลักทรัพย์บนเรือในเวลากลางคืนโดยมีพวกหลายคน จำเลยซึ่งเป็นยามเฝ้าเรือร้องถาม ผู้ตายคนหนึ่งชักมีดโถมเข้าจะแทง จำเลยจึงใช้ปืนยิงไปทางผู้ตายหลายนัดในช่วงเวลาอันกระชั้นชิดนั้น ถูกผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 975/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้กำลังป้องกันตัวที่เกินสมควรแก่เหตุ แม้ถูกทำร้ายก่อน
พ.ล. มือเปล่าชกต่อยจำเลยจำเลยใช้มีดแทง พ. ล. เป็นอันตรายสาหัสประกอบอาชีพตามปกติไม่ได้เกิน 20 วัน เป็นป้องกันเกินแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 91/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันเกินเหตุ: การยิงเพื่อป้องกันตัวเมื่อถูกทำร้ายด้วยจอบ
ค. ใช้จอบจะฟันจำเลยซึ่งมาเปิดน้ำเข้านาโดยพลการ จำเลยยิง ค. 3 นัด ค. หนี จำเลยตามยิงอีก 2 นัด ตายทันทีเป็นการป้องกันเกินแก่เหตุ
of 89