พบผลลัพธ์ทั้งหมด 310 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 909/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองฝิ่น: ผู้ซื้อและควบคุมฝิ่นสุก แม้เป็นผู้รับเหมาส่งฝิ่นดิบ ก็ถือเป็นผู้ “มี” ฝิ่นตาม พ.ร.บ.ฝิ่น
จำเลยเป็นผู้ทำบัญชีในสถานที่รวบรวมฝิ่นย่อยของบริษัทซึ่งรับเหมาส่งฝิ่นดิบแก่กรมสรรพสามิตต์ ได้ควบคุมฝิ่นดิบของบริษัทโดยมีใบคุ้มครองกำกับมา แต่มีฝิ่นสุกซึ่งไม่ได้รับอนุญาตมาด้วย 11300 กรัม เมื่อปรากฎข้อเท็จจริงว่าผู้ทำบัญชีได้เป็นผู้ไปซื้อฝิ่นนี้มาจากบนดอย และนำมาบรรจุหีบที่สถานที่รวมฝิ่นย่อยและได้เป็นผู้ควบคุมมาจนถูกจับ ดังนี้ย่อมเรียกได้ว่า จำเลยเป็นผู้ "มี" ตามความหมายแห่ง พ.ร.บ.ฝิ่นแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 804/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผิดสัญญาจะซื้อขาย: ผู้ซื้อมีสิทธิขอให้บังคับขายได้ แม้ไม่มีกำหนดเวลา
ทำสัญญาจะขายที่ดินและห้องแถวให้แก่เขาแล้ว แม้สัญญาจะไม่มีกำหนดเวลาโอน ต่อมากลับเอาไปตกลงขายให้คนอื่นเสียอีก จนถูกฟ้อง ศาลบังคับให้ขาย ผู้ซื้อคนแรกก็ได้ร้องสอดใช้สิทธิของเขาในคดีนั้นแล้ว เช่นนี้ถือว่าผู้ขายผิดสัญญาต่อผู้ซื้อคนแรก ผู้ซื้อคนแรกจึงมีอำนาจฟ้องขอให้ศาลบังคับให้ผู้ขายโอนที่ โดยไม่ต้องบอกกล่าวให้ผู้ขายปฏิบัติตามสัญญาก่อนได้ ทั้งตามมาตรา 203 ก็ให้อำนาจโจทก์เรียกร้องได้โดยพลัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 212/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้ซื้อที่ดินในการฟ้องขับไล่ผู้อาศัยเดิม และเรียกค่าเสียหายจากความเสียหายในที่ดิน
ผู้ซื้อที่ดินฟ้องขับไล่ผู้ที่อาศัยอยู่ในที่ดินนั้นได้แม้สัญญาซื้อขายจะเกิดจากการกลฉ้อฉลหรือไม่ ก็ไม่เกี่ยวกับผู้อาศัย และหากผู้อาศัยทำให้เสียหายในที่ดินที่ได้ซื้อแล้ว ผู้ซื้อย่อมฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้อาศัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 189/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบของกลางต้องเป็นของจำเลยผู้กระทำผิด ไม่สามารถริบจากผู้ซื้อได้ แม้ซื้อขายผิดกฎหมาย
เนื้อสุกรที่จำเลยผู้กระทำผิดขายเกินราคาควบคุมให้แก่ผู้ซื้อนั้นเป็นของผู้ซื้อไม่ใช่ของจำเลยผู้กระผิด จะริบมิได้
(อ้างฎีกาที่ 379/2490)
(อ้างฎีกาที่ 379/2490)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 189/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบของกลางในคดีค้ากำไรเกินควร: ของกลางเป็นของผู้ซื้อ ไม่ใช่ผู้กระทำผิด จึงไม่สามารถริบได้
เนื้อสุกรที่จำเลยผู้กระทำผิดขายเกินราคาควบคุมให้แก่ผู้ซื้อนั้นเป็นของผู้ซื้อ ไม่ใช่ของจำเลยผู้กระทำผิด จะริบมิได้ (อ้างฎีกาที่ 379/2490)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1813/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำนาในที่พิพาทโดยผู้ซื้อที่ไม่สุจริต ถือเป็นการละเมิดสิทธิเจ้าของเดิม แม้ศาลชั้นต้นจะพิพากษาให้ชนะคดีก่อน
แม้จะปรากฏว่า ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชนะคดีจำเลยจึงเข้าทำนาพิพาทก็ตาม เมื่อในชั้นที่สุดศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์แต่เดิมมา จำเลยรับซื้อไว้จากผู้มีชื่อโดยไม่สุจริต และคดีถึงที่สุดแล้วดังนี้ ก็เป็นอันว่าจำเลยไม่มีสิทธิเหนือที่พิพาทแต่ประการใด ที่พิพาทคงเป็นของโจทก์ตลอดมา ฉะนั้นการที่จำเลยเข้าทำนาพิพาทโดยพลการของจำเลยเองจึงเป็นการทำละเมิดต่อสิทธิของโจทก์ในนาพิพาท โจทก์มีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1734/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดินซ้ำซ้อน ศาลรวมพิจารณาคดีและวินิจฉัยสิทธิของผู้ซื้อทั้งสอง
เจ้าของที่ดินทำสัญญาจะขายที่ดินแก่ผู้ซื้อคนหนึ่ง แล้วกลับไปทำสัญญาจะขายแก่ผู้ซื้ออีกคนหนึ่งอีก ผู้ซื้อทั้ง 2 ต่างเป็นโจทก์ฟ้องเจ้าของคนละสำนวน ขอให้ศาลบังคับให้เจ้าของผู้เป็นจำเลยโอนที่ดินรายเดียวกันนั้นให้แก่ตนตามสัญญา ศาลชั้นต้นได้รวมพิจารณาคดี 2 สำนวนด้วยกัน สืบพยานรวมกันมาเป็นเรื่องเดียวกัน แล้วพิพากษาให้เจ้าของโอนที่ให้แก่ผู้ซื้อคนหลัง และยกฟ้องผู้ซื้อคนแรกนั้นเสีย ผู้ซื้อคนแรกอุทธรณ์ฝ่ายเดียวศาลอุทธรณ์ก็ได้พิพากษากลับให้จำเลยโอนที่ดินแก่ผู้ซื้อคนแรก ดังนี้ ก็เท่ากับได้วินิจฉัยชี้ขาดกรณีพิพาทระหว่างผู้ซื้อคนหลัง ผู้ซื้อคนแรก และผู้ขาย โดยรวมกันไปเสร็จสิ้นแล้ว คงอยู่แต่ชั้นบังคับคดีซึ่งต้องให้เป็นผลไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 20/2493)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1486/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดิน: ผู้ซื้อมีสิทธิฟ้องบังคับให้โอนกรรมสิทธิ์ได้ แม้มีข้อตกลงเรื่องค่าปรับ
ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินกัน ผู้ซื้อได้ชำระราคาส่วนใหญ่ให้แก่ผู้ขายไปแล้ว ราคาส่วนน้อยจะชำระเมื่อทำโอนกันและผู้ซื้อได้เข้าครอบครองที่ดินนั้นแล้ว ดังนี้ แม้ในสัญญาจะมีว่าถ้าผู้ขายบิดพลิ้วไม่ยอมขาย ยอมให้ผู้ซื้อฟ้องเรียกค่าเสียหาย และยอมให้ปรับอีกเป็นเงินจำนวนหนึ่งก็ตาม ผู้ซื้อก็ย่อมมีสิทธิที่จะมาฟ้องผู้ขายให้ชำระหนี้ตามสัญญา คือให้โอนขายที่ดินให้แก่ผู้ซื้อได้ ผู้ขายจะเถียงว่าผู้ซื้อยอมให้ผู้ขายเลือกชำระหนี้นั้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1094/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินโดยผู้ขายมีสิทธิไม่สมบูรณ์ ผู้ซื้อไม่ได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 1300 ป.พ.พ.
ซื้อที่ดินมือเปล่าโดยทำสัญญาซื้อขายและจดทะเบียนที่อำเภอ เมื่อปรากฎว่าผู้ขายเป็นเจ้าของที่ดินนั้นแต่เพียงครึ่งเดียว และยังได้ขายให้ผู้อื่นไป โดยมอบการครอบครองแก่เขาให้ครอบครองที่ดินส่วนนั้นไปแล้วด้วยดังนี้ ผู้ซื้อไม่ได้รับความคุ้มครองตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1300
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1094/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อที่ดินมือเปล่า ผู้ขายไม่มีสิทธิโอน ผู้ซื้อไม่ได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 1300
ซื้อที่ดินมือเปล่าโดยทำสัญญาซื้อขายและจดทะเบียนที่อำเภอเมื่อปรากฏว่าผู้ขายเป็นเจ้าของที่ดินนั้นแต่เพียงครึ่งเดียว และยังได้ขายให้ผู้อื่นไป โดยมอบการครอบครองแก่เขาให้ครอบครองที่ดินส่วนนั้นไปแล้วด้วยดังนี้ ผู้ซื้อไม่ได้รับความคุ้มครองตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300