คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ผู้สั่งจ่าย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 251 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 270/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ธนาคารจ่ายเช็คที่ถูกแก้ไข ผู้สั่งจ่ายไม่ต้องรับผิดชอบส่วนต่าง หากไม่ประมาท
ผู้มีเงินฝากในธนาคารได้สั่งให้ธนาคารจ่ายเงินในบัญชีของตนโดยออกเช็ค กรอกจำนวนเงินลงไปจำนวนหนึ่งภายหลังปรากฎว่าเช็คฉะบับนั้นได้ถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขจำนวนเงินที่สั่งจ่ายให้มากขึ้น ดดยผู้สั่งจ่ายไม่ทราบและธนาคารได้จ่ายเงินไปตามเช็คที่ถูกเปลี่ยนแปลงแก้ขนั้นแล้ว ดังนี้ เมื่อไม่ปรากฎว่าผู้สั่งจ่ายเช็คได้ละเลยในการระมัดระวังที่จะไม่ให้มีการปลอมแปลงเช็คนั้นอย่างไรแล้ว ธนาคารจะเรียกร้องให้ผู้สั่งจ่ายต้องรับผิดตามจำนวนเงินที่ปลอมแปลงนั้นหาได้ไม่ จะเรียกได้แต่เฉพาะจำนวนเงินเดิมแห่งเช็คนั้นเท่านั้น เพราะอาจอนุโลมกถือได้ว่าสิทธิของธนาคารต่อผู้เคยค้าที่สั่งจ่ายเป็นเสมือนผู้ทรง ต่อผู้ต้องรับผิดตามตั่วเงินนั้น./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 270/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ธนาคารจ่ายเช็คที่ถูกแก้ไข ผู้สั่งจ่ายไม่ต้องรับผิดเกินจำนวนเดิม
ผู้มีเงินฝากในธนาคารได้สั่งให้ธนาคารจ่ายเงินในบัญชีของตนโดยออกเช็ค กรอกจำนวนเงินลงไปจำนวนหนึ่งภายหลังปรากฏว่าเช็คฉบับนั้นได้ถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขจำนวนเงินที่สั่งจ่ายให้มากขึ้นโดยผู้สั่งจ่ายไม่ทราบและธนาคารได้จ่ายเงินไปตามเช็คที่ถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขนั้นแล้วดังนี้ เมื่อไม่ปรากฏว่าผู้สั่งจ่ายเช็คได้ละเลยในการระมัดระวังที่จะไม่ให้มีการปลอมแปลงเช็คนั้นอย่างไรแล้วธนาคารจะเรียกร้องให้ผู้สั่งจ่ายต้องรับผิดตามจำนวนเงินที่ปลอมแปลงนั้นหาได้ไม่ จะเรียกได้แต่เฉพาะจำนวนเงินเดิมแห่งเช็คนั้นเท่านั้นเพราะอาจอนุโลมถือได้ว่าสิทธิของธนาคารต่อผู้เคยค้าที่สั่งจ่ายเป็นเสมือนผู้ทรง ต่อผู้ต้องรับผิดตามตั๋วเงินนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1196/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้สั่งจ่ายเช็คต่อผู้ถือเช็ค เว้นแต่มีเจตนาฉ้อฉล
ผู้เซ็นสั่งจ่ายเช็คให้แก่ผู้ถือนั้น ตามกฎหมายต้องรับผิดต่อผู้ถือหรือผู้ทรงเช็คนั้นเว้นแต่จะพิศูจน์ได้ว่าได้มีการโอนด้วยคบคิดกันฉ้อฉล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1196/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้สั่งจ่ายเช็คต่อผู้ถือเช็ค เว้นแต่พิสูจน์การโอนโดยฉ้อฉล
ผู้เซ็นสั่งจ่ายเช็คให้แก่ผู้ถือนั้น ตามกฎหมายต้องรับผิดต่อผู้ถือหรือผู้ทรงเช็คนั้นเว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าได้มีการโอนด้วยคบคิดกันฉ้อฉล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1865/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลกระทบการไม่นำเช็คขึ้นเงินต่อความเสียหายของผู้สั่งจ่าย และสิทธิเรียกร้องตามเช็ค
ความเสียหายอันเกิดจากผู้ทรงเช็ค ไม่นำเช็คไปขึ้นเงินต่อธนาคารภายในกำหนดนั้น หมายถึงความเสียหาย ซึ่งผู้สั่งจ่ายศูนย์เสียเงิน เช่น ธนาคารล้มละลายเป็นต้น
ในกรณีที่ผู้ทรงเช็คไม่นำเช็คไปเบิกเงินต่อธนาคารภายในกำหนดนั้น ผู้ทรงเช็คยังคงมีสิทธิฟ้องเรียกเงินตามเช็คต่อผู้สั่งจ่าย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1865/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลกระทบการไม่ขึ้นเงินเช็คในกำหนดต่อความเสียหายของผู้สั่งจ่าย และสิทธิในการเรียกร้องเงินตามเช็ค
ความเสียหายอันเกิดจากผู้ทรงเช็ค ไม่นำเช็คไปขึ้นเงินต่อธนาคารภายในกำหนดนั้น หมายถึงความเสียหายซึ่งผู้สั่งจ่ายสูญเสียเงิน เช่น ธนาคารล้มละลายเป็นต้น
ในกรณีที่ผู้ทรงเช็คไม่นำเช็คไปเบิกเงินต่อธนาคารภายในกำหนดนั้น ผู้ทรงเช็คยังคงมีสิทธิฟ้องเรียกเงินตามเช็คต่อผู้สั่งจ่าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1634/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายปลอม ธนาคารไม่มีสิทธิหักเงินจากบัญชีผู้สั่งจ่าย แม้สุจริต
ธนาคารจ่ายเงินไปตามเช็คที่ลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายปลอมนั้น ธนาคารจะอาศัยสิทธิทำให้เช็คนั้นหลุดพ้นด้วยการจ่ายเงินหรือธนาคารจะใช้สิทธิหักเงินที่จ่ายจากบัญชีของผู้สั่งจ่ายย่อมไม่อาจจะทำได้ เว้นแต่ผู้สั่งจ่ายนั้นจะอยู่ในฐานะเป็นผู้ต้องตัดบทมิให้ยกข้อลายมือชื่อปลอมนั้นขึ้นเป็นข้อต่อสู้ ธนาคารย่อมเป็นผู้ต้องรับผิดเอง โดยจะหักเงินนั้นจากบัญชีของผู้สั่งจ่ายหาได้ไม่
เช็คที่มีลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายปลอม กับเช็คที่มีลายมือชื่อผู้รับเงินผู้สลักหลังปลอมนั้นหาเหมือนกันไม่ เช็คที่มีลายมือชื่อผู้รับเงินหรือผู้สลักหลังปลอมนั้น ตามมาตรา 1009 ธนาคารไม่มีหน้าที่จะต้องนำสืบว่าการสลักหลังของผู้รับเงินหรือการสลักหลังในภายหลังรายใด ๆ ได้ทำไปด้วยอาศัยรับมอบอำนาจแต่บุคคลซึ่งอ้างว่าเอาเป็นเจ้าของคำสลักหลังนั้น และถึงแม้ว่ารายการสลักหลังนั้นจะเป็นสลักหลังปลอม หรือปราศจากอำนาจก็ตาม ถ้าหากธนาคารได้จ่ายเงินไปตามทางค้าปกติโดยสุจริตและปราศจากประมาทเลินเล่อไซร้ ท่านก็ให้ถือว่า ธนาคารได้ใช้เงินไปโดยถูกระเบียบ เมื่อพิจารณามาตรา 1008 และ 1009 เข้าด้วยกันแล้ว ก็จะแลเห็นได้ชัดว่า กฎหมายประสงค์ให้ธนาคารใช้ความระมัดระวังในเรื่องลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายยิ่งกว่าในเรื่องลายมือชื่อของผู้รับเงิน หรือผู้สลักหลังและกฎหมายให้ความคุ้มครองแก่ธนาคารที่จ่ายเงินไปตามทางค้าปกติโดยสุจริตปราศจากประมาทเลินเล่อก็แต่ในกรณีที่ลายมือชื่อผู้รับเงินหรือลายมือชื่อผู้สลักหลังเป็นลายมือชื่อปลอมเท่านั้น ส่วนลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายปลอมนั้นกฎหมายหาได้ให้ความคุ้มครองอย่างเดียวกันไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1634/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คที่มีลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายปลอม ธนาคารไม่มีสิทธิหักเงินจากบัญชีผู้สั่งจ่าย แม้จะสุจริต
ธนาคารจ่ายเงินไปตามเช็คที่ลงลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายปลอมนั้น ธนาคารจะอาศัยสิทธิทำให้เช็คนั้นหลุดพ้นด้วยการจ่ายเงินหรือธนาคารจะใช้สิทธิหักเงินที่จ่ายจากบัญชีของผู้สั่งจ่ายย่อมไม่อาจจะทำได้ เว้นแต่ผู้สั่งจ่ายนั้นจะอยู่ในฐานะเป็นผู้ต้องตัดบทมิให้ยกข้อลายมือชื่อปลอมนั้นขึ้นเป็นข้อต่อสู้ ธนาคารย่อมเป็นผู้ต้องรับผิดเอง โดยจะหักเงินนั้นจากบัญชีของผู้สั่งจ่ายหาได้ไม่
เช็คที่มีลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายปลอมกับเช็คที่มีลายมือชื่อผู้รับเงินผู้สลักหลังปลอมนั้นหาเหมือนกันไม่เช็คที่มีลายมือชื่อผู้รับเงินหรือผู้สลักหลังปลอมนั้น ตามมาตรา 1009 ธนาคารไม่มีหน้าที่จะต้องนำสืบว่าการสลักหลังของผู้รับเงินหรือการสลักหลังในภายหลังรายใดๆ ได้ทำไปด้วยอาศัยรับมอบอำนาจ แต่บุคคลซึ่งอ้างว่าเอาเป็นเจ้าของคำสลักหลังนั้น และถึงแม้ว่ารายการสลักหลังนั้นจะเป็นสลักหลังปลอม หรือปราศจากอำนาจก็ตาม ถ้าหากธนาคารได้จ่ายเงินไปตามทางค้าปกติโดยสุจริตและปราศจากประมาทเลินเล่อไซร้ ท่านก็ให้ถือว่า ธนาคารได้ใช้เงินไปโดยถูกระเบียบ เมื่อพิจารณามาตรา 1008 และ 1009 เข้าด้วยกันแล้ว ก็จะแลเห็นได้ชัดว่า กฎหมายประสงค์ให้ธนาคารใช้ความระมัดระวังในเรื่องลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายยิ่งกว่าในเรื่องลายมือชื่อของผู้รับเงิน หรือผู้สลักหลัง และกฎหมายให้ความคุ้มครองแก่ธนาคารที่จ่ายเงินไปตามทางค้าปกติโดยสุจริตปราศจากประมาทเลินเล่อก็แต่ในกรณีที่ลายมือชื่อผู้รับเงินหรือลายมือชื่อผู้สลักหลังเป็นลายมือชื่อปลอมเท่านั้น ส่วนลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายปลอมนั้นกฎหมายหาได้ให้ความคุ้มครองอย่างเดียวกันไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5368/2558

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้สั่งจ่ายเช็คต้องรับผิดตามเช็ค แม้จะอ้างว่าให้ยืมเช็คเพื่อค้ำประกันการขายลดเช็ค
เมื่อฟังได้ว่า จำเลยที่ 8 เป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาท โดยไม่ปรากฏในเช็คพิพาททั้งสองฉบับว่า เป็นเช็คค้ำประกันการขายลดเช็คดังที่จำเลยที่ 8 กล่าวอ้าง จำเลยที่ 8 จึงต้องรับผิดชดใช้เงินตามเนื้อความในเช็ค ตาม ป.พ.พ. มาตรา 900 วรรคหนึ่ง, 914 ประกอบมาตรา 989 วรรคหนึ่ง ทั้งเช็คพิพาททั้งสองฉบับเป็นเช็คผู้ถือ เมื่อโจทก์มีเช็คดังกล่าวไว้ในครอบครอง โจทก์ย่อมเป็นผู้ทรงโดยชอบตาม ป.พ.พ. มาตรา 904 การที่จำเลยที่ 8 ต่อสู้ว่า จำเลยที่ 8 ให้จำเลยที่ 6 ขอยืมเช็คพิพาทไปค้ำประกันการขายลดเช็คโดยจำเลยที่ 6 สั่งจ่ายเช็คของตนเองมาเปลี่ยน จำเลยที่ 8 มิได้มีเจตนาให้จำเลยที่ 1 นำไปชำระหนี้แก่โจทก์ เป็นการยกข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันเฉพาะบุคคลระหว่างจำเลยที่ 8 กับจำเลยที่ 6 ซึ่งเป็นผู้ทรงคนก่อนมาต่อสู้ โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงไม่ได้ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 916 ส่วนที่จำเลยที่ 8 อ้างว่า โจทก์ได้รับเช็คพิพาทมาด้วยการคบคิดกันฉ้อฉลกับจำเลยที่ 1 นั้น จำเลยที่ 8 มีหน้าที่นำสืบให้เห็นว่าโจทก์คบคิดกับจำเลยที่ 1 ฉ้อฉลจำเลยที่ 8 อย่างไร จำเลยที่ 8 นำสืบมาเพียงว่า จำเลยที่ 8 ให้จำเลยที่ 6 ยืมเช็คพิพาทไปค้ำประกันการขายลดเช็คโดยจำเลยที่ 6 สั่งจ่ายเช็คของตนเองมาแลกเปลี่ยนเท่านั้น จึงไม่มีน้ำหนักให้รับฟังดังที่จำเลยที่ 8 อ้างมา จำเลยที่ 8 ในฐานะผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาททั้งสองฉบับย่อมต้องรับผิดชำระเงินตามเช็คพิพาทดังกล่าวให้แก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 19392/2556

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คพิพาท: ผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายและผู้สลักหลังมีหน้าที่ผูกพันตามเช็ค แม้มีการเปลี่ยนแปลงมูลหนี้
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คพิพาทห้าฉบับให้แก่โจทก์ โดยมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลัง นำเช็คพิพาททั้งห้าฉบับดังกล่าวมาชำระหนี้เงินกู้และค่าสินค้าแก่โจทก์ แม้โจทก์จะนำสืบว่า จำเลยที่ 2 นำเช็คพิพาทดังกล่าวมาแลกเงินสดไปจากโจทก์ก็ตาม แต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังยุติแล้วว่า จำเลยที่ 1 เป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คพิพาททั้งห้าฉบับแก่โจทก์ โดยมีจำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อและประทับตราสลักหลังเช็คทั้งหมดแล้วส่งมอบให้แก่โจทก์ โจทก์จึงเป็นผู้ทรงเช็คพิพาททั้งห้าฉบับโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยทั้งสองจึงต้องผูกพันตามเนื้อความในเช็คนั้นตาม ป.พ.พ. มาตรา 900 และมาตรา 921, 940 ประกอบมาตรา 989 แม้มูลหนี้ที่โจทก์รับเช็คดังกล่าวไว้ตามที่ปรากฏในทางพิจารณาจะแตกต่างจากคำฟ้องไปบ้าง ศาลก็ชอบที่จะพิพากษาให้จำเลยทั้งสองรับผิดชำระหนี้ตามเช็คพิพาททั้งห้าฉบับได้ หาได้เป็นกรณีที่พิพากษาเกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้องไม่ จึงไม่ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 142 วรรคหนึ่ง
ส่วนที่จำเลยที่ 2 ฎีกาว่า ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า การที่จำเลยที่ 2 อ้างว่าโจทก์หักดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 2.5 ต่อวัน และมีการนำไปหักกลบลบหนี้ค่าสินค้าที่โจทก์ซื้อไปจากจำเลยที่ 2 ภาระการพิสูจน์ตกแก่จำเลยที่ 2 เมื่อจำเลยที่ 2 ไม่อาจนำสืบได้ จึงต้องรับผิดชดใช้เงินตามเช็คแก่โจทก์นั้นเป็นการไม่ชอบ เนื้อหาของฎีกาส่วนดังกล่าวล้วนแต่คัดลอกข้อความในอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 มาทั้งสิ้น โดยมิได้โต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าไม่ถูกต้องหรือไม่ชอบอย่างไร และด้วยเหตุผลใด จึงเป็นฎีกาไม่ชัดแจ้งต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง
of 26